แคนนอน เปิดตัวเลนส์ซูมตัวใหม่ RF75-300mm f/4-5.6 สำหรับถ่ายภาพระยะไกลในราคาเพียง 7,990 บาท วางจำหน่ายเดือนนี้
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ประกาศเปิดตัว RF75-300mm f/4-5.6 เลนส์เทเลโฟโต้ซูม (เลนส์ถ่ายภาพระยะไกล) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพกีฬา สัตว์ป่า และวัตถุที่อยู่ระยะไกล โดยเลนส์รุ่นนี้ถือเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ซูมสำหรับกล้องฟูลเฟรม (กล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาดเท่าฟิล์ม 35 มม.) เมาต์ RF ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของแคนนอน
เลนส์รุ่นนี้มีน้ำหนักเพียง 507 กรัม ใกล้เคียงกับขวดน้ำดื่มขนาด 500 มล. และมีความยาวกระบอกเลนส์เพียง 14.6 ซม. เมื่อใช้คู่กับกล้อง APS-C (กล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาดเล็กกว่าฟูลเฟรม) อย่าง EOS R100 หรือ EOS R50 หรือแม้แต่กล้องฟูลเฟรมอย่าง EOS R8 ก็ยังมีน้ำหนักรวมไม่ถึง 1 กิโลกรัม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพกพาไปถ่ายภาพนอกสถานที่
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้ง อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แคนนอนมุ่งมั่นนำเสนอเลนส์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม โดยเลนส์ RF75-300mm f/4-5.6 จะช่วยให้ช่างภาพมือใหม่สามารถนำเสนอมุมมองใหม่ ผ่านการใช้ระยะเทเลโฟโต้เพื่อถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระกว่าที่เคย ทั้งยังมาพร้อมดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวกไปได้ทุกที่ และราคาคุ้มค่า”
เมื่อใช้ร่วมกับกล้องฟูลเฟรม เลนส์ RF75-300mm f/4-5.6 จะมีทางยาวโฟกัส (ระยะโฟกัสของเลนส์) ที่ 75-300 มม. ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับถ่ายภาพการแข่งขันกีฬาของเด็ก ภาพสัตว์ในธรรมชาติ ถ่ายภาพบุคคลกลางแจ้ง และเก็บภาพโคลสอัปทิวทัศน์จากระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสร้างเอฟเฟกต์การบีบฉาก (Compression Effect) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้วัตถุในระยะไกลดูเสมือนอยู่ใกล้กันมากขึ้น ช่วยเพิ่มมิติและความสวยงามให้กับภาพถ่ายได้อย่างน่าประทับใจ
สำหรับผู้ที่ใช้ RF75-300mm f/4-5.6 ร่วมกับกล้อง APS-C เช่น EOS R50 หรือ R10 หรือใช้ในโหมดครอป 1.6x (โหมดที่ใช้เฉพาะส่วนกลางของเซ็นเซอร์) บนกล้องฟูลเฟรม เลนส์นี้จะให้มุมมองเทียบเท่าเลนส์ระดับซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่ระยะ 120-480 มม. ทำให้ซูมเข้าหาวัตถุระยะไกลมาก ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถใช้งานเลนส์แบบกึ่งมาโคร (ถ่ายภาพระยะใกล้) ซึ่งมีกำลังขยายสูงสุด 0.25 เท่า ที่ระยะ 300 มม. ซึ่งจะเพิ่มเป็น 0.4 เท่า เมื่อใช้กับกล้อง APS-C ทำให้สามารถถ่ายภาพโคลสอัปเพื่อเก็บรายละเอียดของวัตถุขนาดเล็กได้อย่างคมชัด
ทางยาวโฟกัสที่ยาวและค่ารูรับแสง (ขนาดของรูที่แสงผ่านเข้ามาในเลนส์) ที่กว้างพอสมควร ช่วยให้ช่างภาพสามารถสร้างเอฟเฟกต์ละลายฉากหลัง (Bokeh) ได้อย่างโดดเด่น ช่วยแยกวัตถุออกจากฉากหลังได้ชัดเจน เพิ่มความลึกและมิติให้ภาพถ่ายดูสวยแบบมืออาชีพ โดยเลนส์รุ่นนี้มีค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 เมื่อใช้ที่ระยะ 75 มม. และ f/5.6 เมื่อใช้ที่ระยะ 300 มม.
RF75-300mm f/4-5.6 มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ในราคาเพียง 7,990 บาท ณ ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแคนนอนทั่วประเทศ
สำหรับข้อมูลทางเทคนิคของเลนส์ RF75-300mm f/4-5.6 มีดังนี้: ทางยาวโฟกัส 75-300 มม., รูรับแสงกว้างสุด f/4-5.6, ระยะโฟกัสใกล้สุด 1.5 เมตร, กำลังขยายสูงสุด 0.06 เท่า (ที่ 75 มม.) และ 0.25 เท่า (ที่ 300 มม.), โครงสร้างเลนส์ 13 ชิ้นใน 9 กลุ่ม, ขนาดฟิลเตอร์ 58 มม., ม่านรูรับแสง 7 ชิ้น, ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว, ขนาดประมาณ 71.2 × 146.1 มม. และน้ำหนักประมาณ 507 กรัม
