บริษัทวางแผนที่จะใช้อลูะมิเนียมที่มีความบริสุทธิ์ระดับที่ใช้ในเชิงพาณิชย์แบบคาร์บอนต่ำครั้งแรกของโลกจาก ELYSIS ใน iPhone SE

Apple ประกาศในวันนี้ว่า การลงทุนของบริษัทมูลค่า 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในตราสารหนี้สีเขียว ได้ช่วยเริ่มต้นพัฒนาการผลิตแบบคาร์บอนต่ำใหม่และเทคโนโลยีการรีไซเคิล

โดย Apple ได้ออกตราสารหนี้สีเขียว 3 ครั้งมาตั้งแต่ปี 2016 ด้วยโครงการที่แสดงให้เห็นว่า การลงทุนสามารถลดการปล่อยมลพิษของโลก และนำเอาพลังงานสะอาดมาสู่ชุมชนทั่วโลกได้อย่างไร

โดยส่วนหนึ่งของการทำงานนี้ Apple ได้จัดซื้ออะลูมิเนียมที่ปราศจากคาร์บอนที่เกิดจากความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการถลุงแร่เพื่อลดมลพิษ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่อะลูมิเนียมได้รับการผลิตนอกห้องทดลองในระดับอุตสาหกรรม โดยปราศจากการปล่อยคาร์บอนโดยตรงใดๆ ในระหว่างกระบวนการผลิต และบริษัทตั้งใจที่จะนำวัสดุนี้มาใช้ใน iPhone SE

“Apple มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และตราสารหนี้สีเขียวของเราก็เป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนความเพียรพยายามของเราในด้านสิ่งแวดล้อมให้ก้าวไปข้างหน้า” Lisa Jackson รองประธานด้านสิ่งแวดล้อม นโยบาย และโครงการริเริ่มเพื่อสังคมของ Apple กล่าว “การลงทุนของเราจะช่วยสร้างความก้าวหน้าให้กับเทคโนโลยีที่จะช่วยพลิกโฉมโลกนี้ ในการลดรอยเท้าคาร์บอนของวัสดุที่เราใช้ ถึงแม้เราจะเปลี่ยนมาใช้เพียงวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ในผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรของโลกที่มีอยู่อย่างจำกัดแล้วก็ตาม”

โดยรวมแล้ว Apple ได้ออกตราสารหนี้มูลค่า 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเร่งการก้าวสู่เป้าหมายของบริษัท ที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในทุกห่วงโซ่อุปทานของตนเองให้ได้ภายในปี 2030 ซึ่งตราสารหนี้สองครั้งแรกในปี 2016 และ 2017 ตอนนี้ได้รับการจัดสรรจนเต็มจำนวนแล้ว ส่วนตราสารหนี้สีเขียวปี 2019 กำลังให้การสนับสนุน 50 โครงการ ซึ่งรวมถึงการผลิตอะลูมิเนียมแบบคาร์บอนต่ำที่สุดล้ำสมัยนี้ด้วย ทั้ง 50 โครงการนี้จะช่วยบรรเทาหรือลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 2,883,000 เมตริกตัน สร้างกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 700 เมกะวัตต์ทั่วโลก รวมทั้งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเรื่องการรีไซเคิล

นวัตกรรมการถลุงอะลูมิเนียมเพื่อสิ่งแวดล้อม

ELYSIS บริษัทที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการถลุงอะลูมิเนียมโดยตรงแบบปราศจากคาร์บอนครั้งแรกของโลก ประกาศว่าบริษัทได้ผลิตอะลูมิเนียมที่มีความบริสุทธิ์ระดับที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ในระดับอุตสาหกรรมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Apple เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้จะผลิตออกซิเจนออกมาแทนที่ก๊าซเรือนกระจก และความสำเร็จนี้ก็เป็นหลักชัยสำคัญในการผลิตอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นหนึ่งในโลหะที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลก โดย Apple จะจัดซื้ออะลูมิเนียมที่มีความบริสุทธิ์ระดับที่ใช้ในเชิงพาณิชย์แบบคาร์บอนต่ำล็อตแรกจาก ELYSIS เพื่อนำมาใช้ใน iPhone SE อะลูมิเนียมนี้ผลิตโดย ELYSIS ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมในรัฐควิเบกโดยใช้พลังงานน้ำ

Apple ช่วยกระตุ้นความก้าวหน้าที่ปฏิวัติวงการในการผลิตอะลูมิเนียมจากการเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนกับ Alcoa, Rio Tinto และรัฐบาลของแคนาดาและรัฐควิเบก ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2018 และในปีถัดมา Apple ก็ได้จัดซื้อล็อตแรกของอะลูมิเนียมที่ผลิตในเชิงพาณิชย์จากการร่วมลงทุนดังกล่าว และนำมาใช้ในการผลิต MacBook Pro รุ่น 16 นิ้ว

“นี่เป็นครั้งแรกที่มีการผลิตอะลูมิเนียมที่มีความบริสุทธิ์ระดับที่ใช้ในเชิงพาณิชย์เช่นนี้ โดยไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและอยู่ในขนาดระดับอุตสาหกรรม การขายให้กับ Apple เป็นการยืนยันความสนใจของตลาดในเรื่องอะลูมิเนียมที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการถลุงแร่ ELYSIS ที่ปราศจากคาร์บอนอันล้ำสมัยของเรา และการประกาศในวันนี้ก็เป็นการพิสูจน์ว่า ELYSIS ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง Alcoa และ Rio Tinto สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นความจริงได้” Vincent Christ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ELYSIS กล่าว “เราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับ Apple ในการพัฒนานี้ ซึ่งมีศักยภาพอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตอะลูมิเนียมได้อย่างยั่งยืน”

หลักชัยสำคัญในวันนี้เกิดขึ้นมาจากการรุกคืบครั้งสำคัญของ Apple ในการลดผลกระทบทางคาร์บอนจากอะลูมิเนียมและโลหะอื่นๆ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง ด้วยการเปลี่ยนมาใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิลและอะลูมิเนียมที่ถลุงโดยใช้ไฟฟ้าพลังน้ำแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับอะลูมิเนียม ลดลงเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ปี 2015 โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ทุกรุ่น รวมถึง iPad Air ใหม่ พร้อมด้วย MacBook Pro, MacBook Air, Mac mini และ Apple Watch รุ่นล่าสุด ต่างก็ผลิตตัวเครื่องด้วยอะลูมิเนียมรีไซเคิลร้อยเปอร์เซ็นต์

ความมุ่งมั่นสู่การใช้พลังงานสะอาด

Apple ยังใช้ตราสารหนี้สีเขียวของตนเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุด เพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ โดยตราสารหนี้ปี 2019 ของบริษัทมากกว่า 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ได้รับการจัดสรรให้แก่โครงการพลังงานสะอาด ซึ่งรวมถึงทุ่งกังหันลมบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันเป็นแหล่งพลังงานของศูนย์ข้อมูลของบริษัทในเมืองไวบอร์ก ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งพลังงานส่วนเกินทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปยังโครงข่ายไฟฟ้าของเดนมาร์ก

ในช่วงปีหน้า Apple จะขยายการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูลที่เมืองไวบอร์ก และสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อจัดเก็บพลังงานความร้อนส่วนเกินเพื่อประโยชน์ในระยะยาวของเมือง และเช่นเดียวกับที่ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ สำนักงานและร้านค้าปลีกของ Apple ทั้งหมดทั่วทั้ง 44 ประเทศ ได้มีการใช้พลังงานสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์มาตั้งแต่ปี 2018 รวมถึงจากผลกำไรของตราสารหนี้สีเขียว

ในปี 2021 ตราสารหนี้สีเขียวของ Apple ได้ช่วยสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาดของซัพพลายเออร์ของบริษัท รวมถึงการจัดสรรเงินทุนให้แก่การฝึกอบรมและแหล่งข้อมูลเพื่อช่วยเป็นแนวทางให้แก่ซัพพลายเออร์ในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด และความพยายามในการผลักดันนโยบายในประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลีใต้ เพื่อช่วยสร้างตลาดพลังงานหมุนเวียนที่คุ้มค่า ในตอนนี้ พันธมิตรด้านการผลิตมากกว่า 175 รายทั่วทั้ง 24 ประเทศ ได้อุทิศตัวให้กับการใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นหลักชัยสำคัญในการทำให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ Apple ทุกอย่างจะต้องส่งไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเพียรพยายามของ Apple ในเรื่องตราสารหนี้สีเขียว โปรดไปที่ investor.apple.com/Apple_GreenBond_Report.pdf รายงานผลกระทบประจำปีนี้ครอบคลุมเรื่องการจัดสรรเงินทุนสะสมของการลงทุนของตราสารหนี้สีเขียวของ Apple ประจำปี 2019 กับโครงการด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กันยายน 2019 และวันที่ 25 กันยายน 2021 ประจำปีงบประมาณ 2020 และ 2021 ของ Apple โดยมี Sustainalytics เป็นผู้ให้ความคิดเห็นในฐานะบุคคลที่สองสำหรับบางโครงการ และ Ernst & Young LLP เป็นผู้จัดทำรายงานการรับรองในเรื่องค่าใช้จ่าย

ที่มา – www.apple.com/th/newsroom

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
“YouTube” ประกาศวิดีโอที่ได้รับความนิยมสูงสุดและครีเอเตอร์ยอดนิยมแห่งปี 2563
Apple คาดว่า iPhone 14 จะขายได้ดีกว่า iPhone 13
เปิดตัว “BYD ATTO 3” ราคา 1,199,900 บาท* เผยความพร้อมจากโชว์รูมผู้จำหน่ายทั่วประเทศ

Leave Your Reply

*