เก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 6 กรกฎาคม 2564  วิเคราะห์โดย ณัชชา เวชพานิช, Data Research Consulting Manager

ไวซ์ไซท์ เก็บข้อมูลเกี่ยวกับ Disney+ Hotstar มาวิเคราะห์ข้อมูลในมุมมองต่างๆ ซึ่งมีคนพูดถึงเรื่องดังกล่าวทั้งหมด 91,263 ข้อความ มีเอ็นเกจเมนต์ รวมสูงถึง 12 ล้านครั้ง จาก 25,517 แอคเคาท์ และมีการพูดถึงตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม

โพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงจะเกี่ยวข้องกับราคาแพ็คเกจ ซึ่งโพสต์ในวันที่ 14 พฤษภาคม และส่วนมากมาจากเพจอินฟลูเอนเซอร์สายภาพยนตร์ มีการพูดถึงซีรีส์ใหม่อย่าง Loki ที่จะฉายเฉพาะในช่องทางนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีคนออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องราคา บอกว่าราคาถูก และเฝ้ารอวันที่เปิดตัว เริ่มมีคนบอกว่าเตรียมตัวหาคนหารค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน (รูปที่ 1,2)

ส่วนในวันที่ 8 มิถุนายน เมื่อมีการเปิดตัวราคาและพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการว่าเป็น AIS ก็มีกระแสการพูดถึงอีกครั้ง โดยมีทั้งเรื่องราคาที่คุ้มค่า รวมถึงมีกลุ่มที่ออกมาบอกว่าตัวเองใช้สัญญาณค่ายอื่นๆ และอยากได้รับโปรโมชั่นบ้าง (รูปที่ 3)

รูปที่ 1: Engagement Timeline and Movement

รูปที่ 2: ตัวอย่างข้อความที่พูดถึงราคาแพ็คเกจ และความคิดเห็นต่อราคาและการเข้ามาของ Disney+ Hotstarรูปที่ 3: ตัวอย่างข้อความที่พูดถึงราคาแพ็คเกจ และความคิดเห็นต่อราคาและการเข้ามาของ Disney+ Hotstar

ในวันที่ 30 มิถุนายน เป็นวันแรกที่เปิดให้ใช้งาน เพจ Official Disney+ Hotstar Thailand และเพจ AIS ได้โพสต์คลิปวิดีโอการแสดงของศิลปินชื่อดังทั้ง 5 คน ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ดูได้จากเอ็นเกจเมนต์รวม (Reaction, Comment, Share) ที่สูงถึง 258,000 และ 117,000 ตามลำดับ (รูปที่ 4,5)

รูปที่ 4: โพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงที่สุด 2 อันดับแรก

ที่น่าสนใจคือ โพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์ตามมาในอันดับที่ 3 และ 4 เกิดขึ้นบน Twitter เป็นข้อความที่โดนใจชาวทวิตเตอร์จำนวนมากจนได้รับการ Retweet, Quote Tweet และ Like รวมกันถึง 110,000 และ 91,000 ตามลำดับ

ข้อความอันดับที่ 3 บอกว่าไม่ว่าจะมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งกี่เจ้า ก็จะกลับไปดู YouTube อยู่ดี แสดงให้เห็นว่ายังมีชาวไทยจำนวนหนึ่งที่มองว่า YouTube เป็นช่องทางที่ตอบโจทย์การเข้าถึงคอนเทนต์วิดีโอได้ดี ส่วนข้อความอันดับที่ 4 บอกว่า ทั้ง Netflix หรือ Disney+ Hotstar ก็ยังไม่มี Harry Potter ให้ดูอยู่ดี แสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มคนที่เฝ้ารอที่จะดูหนังเรื่องนี้หรืออาจจะเป็นหนังดังเรื่องอื่นๆ

รูปที่ 5: โพสต์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงที่สุดอันดับที่ 3 และ 4

เมื่อเรามาดูภาพรวมในมุมของ Channel หรือช่องทางที่มีการพูดถึง Disney+ Hotstar แล้ว พบว่าข้อความเกิดขึ้นบน Twitter สูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนกว่า 75% ของข้อความทั้งหมด คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มแฟนคลับของเป๊ก ผลิตโชค ซึ่งเป็น 1 ในศิลปินที่ร้องเพลงในการแสดงในวันเปิดตัว (รูปที่ 6)

รูปที่ 6: Platform Distribution

เมื่อลองสำรวจ Word Cloud ที่เกิดจากการตัดคำและนับจำนวนคำที่มีการใช้เยอะที่สุด จะเห็นว่า นอกจากชื่อแบรนด์แล้ว ชื่อของ “เป๊ก ผลิตโชค” และ Hashtag “#พี่เป๊กดิสนีย์” ลอยขึ้นมาจำนวนมาก เกิดจากการทวีตของแฟนคลับหรือ “นุช” บนทวิตเตอร์ชื่นชมการแสดงที่อลังการและไพเราะ (รูปที่ 7)

รูปที่ 7: Word Cloud

อีกหนึ่งคำถามที่เราอยากทราบคือ คนเฝ้ารอหรือพูดถึงหนังหรือซีรีส์กลุ่มไหนมากที่สุด จึงลองใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องในแต่ละกลุ่ม พบว่ามีการพูดถึง Marvel มากที่สุด โดยเฉพาะซีรีส์เรื่อง Loki ที่เป็นกระแสบนโลกโซเชียลตั้งแต่ก่อนที่ Disney+ Hotstar จะเปิดตัวแล้ว ที่น่าสนใจที่มาเป็นอันดับ 2 คือกลุ่มแอนิเมชั่น Pixar ส่วนมากเป็นการพูดถึงเรื่อง Luca แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ล่าสุด (รูปที่ 8)

รูปที่ 8: จำนวนข้อความของกลุ่มหนัง/ซีรีส์ที่มีคนพูดถึง

อีกกลุ่มข้อความหนึ่งที่น่าสนใจ คือกลุ่มคนที่บอกเล่าว่าตอนแรกมีความตั้งใจจะดูหนังและซีรีส์ Marvel แต่พอเข้ามาดูจริงๆ ไปดูอย่างอื่นซะงั้น สะท้อนให้เห็นในมุม Branding ได้ว่าเมื่อนึกถึง Disney+ หลายคนจะคิดถึง Marvel มากกว่าหนังหรือแอนิเมชั่นของ Disney เอง (รูปที่ 9)

รูปที่ 9: ตัวอย่างข้อความที่พูดถึงหนัง/ซีรีส์ Marvel แต่สุดท้ายเปลี่ยนไปดูอย่างอื่น

ในเรื่องของประสบการณ์ของผู้ใช้หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ ทางทีมลดช่วงเวลาของข้อมูลลงเหลือ 1 สัปดาห์ คือดูเฉพาะข้อความที่โพสต์ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน  –  6 กรกฎาคม สิ่งที่พบคือ มีคนจำนวนหนึ่งบ่นเรื่องภาพที่ไม่ชัด บางคนเจอปัญหาดูอยู่แล้วกระตุก และมีอีกกลุ่มหนึ่งที่แสดงความเห็นเรื่องซับไตเติ้ลที่อาจจะยังไม่พร้อมในบางเรื่องหรือมีการสะกดคำผิด (รูปที่ 10)

รูปที่ 10: ตัวอย่างข้อความที่พูดถึง Disney+ Hotstar เชิงลบ

มาดูฝั่งคำชมกันบ้าง ยังมีคนจำนวนมากที่ย้อนกลับไปดูคลิปการแสดงเปิดตัวของศิลปินทั้ง 5 คน พร้อมกับชื่นชมว่าเป็นการแสดงที่ดีมากๆ ดูซ้ำก็ไม่เบื่อ (รูปที่ 11)

รูปที่ 11: ตัวอย่างข้อความที่พูดถึงการแสดงเปิดตัว Disney+ Hotstar

ส่วนในเรื่องของระบบและบริการ หลายคนแสดงความตื่นเต้นกับคอนเทนต์ในเครือดิสนีย์ที่มีความครบถ้วน หลากหลาย มีการชื่นชมที่มีการ์ตูนหาดูยาก เช่น The Simpsons และมีหลายคนที่บอกว่ารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะได้ดูการ์ตูนหรือซีรีส์เก่าแบบครบ ภาพชัด และถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบัน (รูปที่ 12)

รูปที่ 12: ตัวอย่างข้อความที่พูดถึง Disney+ Hotstar เชิงบวก

การวิเคราะห์ภาพรวมเบื้องต้นนี้ อาจนำไปประกอบการวางแผนการสื่อสารต่อไปได้ เช่น ทาง Disney+ Hotstar อาจจะสร้างคอนเทนต์ต่อยอดจากคลิปการแสดงของศิลปินทั้ง 5 คนที่เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนคลับของเป๊ก ผลิตโชค และเน้นการสื่อสารในช่องทาง Twitter อย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากกลุ่มแฟนคลับเป๊กที่ใช้งาน Twitter กันเยอะแล้ว ยังมีคนจำนวนมากที่พูดถึงแพลตฟอร์มบนช่องทาง Twitter ส่วนในด้านของประสบการณ์การใช้งาน ทางผู้ดูแลแพลตฟอร์มสามารถนำฟีดแบคไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาและตอบโจทย์คนดูได้มากยิ่งขึ้น

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
HyperX เปิดตัวสวิทช์ HyperX Aqua สำหรับคีย์บอร์ด
Apple Music ชวนคุณมาอยู่บ้านแบบใกล้ชิดศิลปินจาก What The duck กับ Homie Acoustic EP
เอ็มจี โชว์ศักยภาพสุดยิ่งใหญ่ ในงาน เซี่ยงไฮ้ออโต้โชว์ 2023 เผยโฉมดีไซน์ขายจริง MG Cyberster

Leave Your Reply

*