Redmi Note 9T และ Redmi 9T เขย่าวงการสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับเริ่มต้นด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าหลายวัน

เสียวหมี่ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนของ Redmi รุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 9T และ Redmi 9T โดย Redmi Note 9T เป็นสมาร์ทโฟน 5G เครื่องแรกในซีรีส์ Redmi Note ที่มาพร้อมราคาประหยัดและรองรับ 5G แบบซิมคู่

นอกจากนี้ Redmi Note 9T และ Redmi 9T ราชาแห่งสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับเริ่มต้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานหลายวันที่ผู้ใช้ต้องการ โดยไม่กระทบกับความสามารถในการถ่ายภาพและการออกแบบโดยรวม

Redmi Note 9T
โปรเซสเซอร์ขั้นสูงและประสิทธิภาพ 5G อันเป็นเลิศ

Redmi Note 9T ขับเคลื่อนด้วย MediaTek’s Dimensity 5G-integrated 800U SoC ทำให้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้านี้1 ถึง 100% นอกจากนี้ยังมาพร้อมโมเด็มที่พัฒนาแล้ว Redmi Note 9T ยังมีประสิทธิภาพในการใช้ประหยัดพลังงานอย่างมากด้วยโปรเซสเซอร์ octa-core และเทคโนโลยีการประมวลผล 7 นาโนเมตร

ทั้งนี้ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อการใช้งาน 5G แบบสองซิมการ์ดพร้อมกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตระกูล Redmi Note Redmi Note 9T กับการเป็นเจ้าแห่งความเป็นเลิศ ด้วยเทคโนโลยี 4×4 MIMO และเสาอากาศมากมาย Redmi Note 9T มอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีเสถียรภาพมากขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่แออัด

บันทึกเรื่องราวสำคัญด้วยกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จาก Redmi Note 9T

กล้องหลังสามกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล  Redmi Note 9T ทำให้ผู้ใช้มือใหม่รู้สึกเหมือนเป็นช่างภาพมืออาชีพ เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่½นิ้วและ สถาปัตย์ ISP ระดับเรือธงช่วยให้คุณภาพของภาพดีขึ้นและการประมวลผลที่เร็วขึ้นในขณะที่เครื่องมือสุดสร้างสรรค์อย่าง Night, Pro + RAW, HDR และ Portrait ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพได้สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์

การออกแบบที่ยอดเยี่ยมและโครงสร้างที่ทนทาน

Redmi Note 9T ได้รับการออกแบบอย่างมีจุดมุ่งหมายมาเพื่อรูปลักษณ์และสัมผัสแบบพรีเมี่ยม ด้วยหน้าจอ FHD + DotDisplay ขนาด 6.53 นิ้ว และด้านหลังโค้งแบบ Unibody สามมิติ ด้านหลังมีพื้นผิวเป็นโพลีคาร์บอเนตเพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะและลดรอยนิ้วมือ นอกจากนี้ Corning®Gorilla® Glass 5 ยังช่วยป้องกันความเสียหายจากการหล่นหรือตกโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย

Redmi Note 9T ได้รับการรับรองจาก Widevine L1 และTÜV Rheinland Low Blue Light เพื่อรองรับการสตรีมเนื้อหาแบบ HD ได้หลายชั่วโมงโดยไม่ปวดตา และด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้างที่สะดวกสบายทำให้ Redmi Note 9T สามารถปลดล็อกได้อย่างง่ายดาย

Redmi Note 9T มีสองสีให้เลือกได้แก่ Nightfall Black และ Daybreak Purple ซึ่งเป็นสีที่จะไม่มีวันตกยุค

ประสิทธิภาพขั้นสุดด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง

พลังอัดแน่นไปกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh (typ) และเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูง Redmi Note 9T ช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับแบตเตอรี่และมอบการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัวสำหรับยุค 5G Redmi Note 9T ให้การชาร์จที่รวดเร็วถึง 18 วัตต์ และมาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จ 22.5 วัตต์ในกล่อง ยิ่งไปกว่านั้นตัวเครื่องยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่รอบการชาร์จสูงซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบสามปีโดยที่ความจุแบตเตอรี่แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย2

Redmi Note 9T ทั้ง 2 สี Nightfall Black และ Daybreak Purple พร้อมวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ JD Central ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 นี้ ด้วยกัน 2 รุ่น

  • Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคา 6,999 บาท
  • Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคา 7,499 บาท

และพิเศษสุดๆ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อในระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2564 

  • Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคาพิเศษเพียง 5,999 บาท จากราคาปกติ 6,999 บาท เลือกซื้อได้ที่ลิ้งค์ https://bit.ly/38eS2xu
  • Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคาพิเศษเพียง 6,599 บาท จากราคาปกติ 7,499 บาท เลือกซื้อได้ที่ลิ้งค์ http://bit.ly/3ngkjYP

พร้อมรับฟรี! Mi Band 4C มูลค่า 599 บาท และซิม AIS 5G มูลค่า 99 บาท (หมายเหตุ* ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด)

Redmi 9T
พัฒนาภาพถ่ายแบบภาพยนตร์โดยใช้เวลาแก้ไขน้อยลง

Redmi 9T เป็นขุมพลังแห่งการถ่ายภาพที่มีกล้องหลัง AI สี่ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กล้องอัลต้าไวด์ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับการถ่ายภาพกลุ่มขนาดใหญ่และภาพวิวทิวทัศน์ที่กว้างโดยไม่ต้องครอบตัดใน

ขณะที่เลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก 2 ล้านพิกเซลช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพระยะใกล้ที่สวยงามพร้อมโบเก้ระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ Redmi 9T ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติเฟรมภาพยนตร์แบบใหม่ที่ทำให้ภาพถ่ายมีรูปลักษณ์และความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์มากขึ้นโดยไม่ต้องตัดต่อ

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ time-lapse แบบใหม่ซึ่งมีค่าความเร็วและระยะเวลาที่หลากหลายสำหรับการถ่ายภาพเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพ time-lapse ที่สร้างสรรค์ได้โดยไม่ต้องใช้กล้อง DSLR หรือกล้องมืออาชีพอื่น ๆ

ประสิทธิภาพโดดเด่นด้วยชิปเซ็ตทรงพลังและแบตเตอรี่ความจุสูง

แม้จะมีดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบา แต่ Redmi 9T ก็อัดแน่นไปด้วยแบตเตอรี่ 6,000mAh (typ) และชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 662 เมื่อรวมกับโปรเซสเซอร์ประหยัดพลังงาน 11 นาโนเมตรทำให้ Redmi 9T มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นด้วยการผลิตความร้อนน้อยลงและใช้พลังงานน้อยลงกว่ารุ่นก่อนๆ ยิ่งไปกว่านั้นโหมดประหยัดแบตเตอรี่ MIUI และความสามารถในการชาร์จแบบมีสายย้อนกลับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานตลอดทั้งวันหรือแม้กระทั่งหลายวัน

เช่นเดียวกับ Redmi Note 9T และ Redmi 9T มาพร้อมกับการชาร์จที่รวดเร็ว 18 วัตต์ และที่ชาร์จ 22.5 วัตต์ในกล่อง

ความทนทานและความสะดวกสบายผนึกกำลังเพื่อประสบการณ์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เหนือกว่า

Redmi 9T มีการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายด้วยมุมโค้งมนและพื้นผิวด้านหลังป้องกันลายนิ้วมือ จอแสดงผล FHD + Dot Drop ขนาด 6.53 นิ้วพร้อม Corning®Gorilla® Glass 3 มอบประสบการณ์การรับชมที่คมชัดและป้องกันรอยแตกและรอยขีดข่วนได้ดี

Redmi 9T ยังมาพร้อมกับการรับรองจาก Widevine L1 และ TÜV Rheinland Low Blue Light เพื่อประสบการณ์การรับชมที่สนุกสนานยิ่งขึ้น ตัวเครื่องมีให้เลือกสี่สีที่น่าสนใจดังนี้ Carbon Grey, Twilight Blue, Sunrise Orange และ Ocean Green

น่ารักยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลที่ขยายได้

มาพร้อมด้วยซิมคู่และพื้นที่จัดเก็บ microSD ที่ขยายได้ Redmi 9T มอบพื้นที่เก็บข้อมูลที่ขยายได้สูงสุด 512GB เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเก็บแอป เกม รูปภาพและวิดีโอที่ชื่นชอบไว้ในอุปกรณ์เดียว นอกจากนี้ยังมีการรองรับอินฟราเรดบลาสเตอร์ที่จะมีประโยชน์กับ Redmi 9T ของคุณ

Redmi 9T ทั้ง 4 สี Carbon Gray, Twilight Blue, Sunrise Orange และ Ocean Green

  • Redmi 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคา 4,499 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2564
  • Redmi 9T ขนาดความจุ 6+12GB ราคา 5,299 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564

 Redmi 9T ทั้งรุ่น 4+64GB และ 6+128GB จะว่างจำหน่ายที่ AIS, dtac, True, Banana, BKK, Kingkong Phone, TG Fone, Jaymart, JD Central, Shopee, Lazada และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

นาฬิกาอัจฉริยะ Mi Smart Clock – เสียงอัจฉริยะบนหน้าจอ

นาฬิกาอัจฉริยะ Mi Smart Clock นั้นถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์ที่กะทัดรัดและเรียบง่าย ซึ่งสามารถกลมกลืนเข้ากับทุกห้องในบ้านได้อย่างสวยงาม หน้าจอสัมผัสสีสันอัดแน่นขนาด 3.97 นิ้ว สามารถแสดงเวลา สภาพอากาศ ปฏิทินและแม้กระทั่งทำงานเป็นกรอบรูปดิจิตอลได้อีกด้วย

และด้วยโหมดการเตือนพระอาทิตย์ขึ้นแบบพิเศษ นาฬิกาอัจฉริยะ Mi Smart Clock สามารถค่อยๆ เพิ่มความสว่างของหน้าจอและเสียงปลุกได้ เมื่อปิดนาฬิกาปลุกก็จะทำให้ผู้ใช้ค่อยๆ ตื่นนอน นอกจากนี้ยังมาพร้อม Google Assistant และ Chromecast ในตัว

นาฬิกาอัจฉริยะ Mi Smart Clock จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการควบคุม AIoT และความบันเทิงภายในบ้านทำให้สามารถควบคุมด้วยคำสั่งเสียงของอุปกรณ์อัจฉริยะ Mi ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมวิดีโอจากกล้องรักษาความปลอดภัยหรือแคสต์เพลงและความบันเทิงอื่นๆ ในปริมาณมหาศาลจากสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งาน*

กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Mi 360 ° Home Security Camera 2K Pro – ช่วยสอดส่องปกป้องสิ่งที่คุณรัก 

กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Mi 360 ° Home Security Camera 2K Pro ตัวใหม่นี้มาพร้อมกล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซลที่สามารถลงรายละเอียดได้ถึง 2304×1296 เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน รูรับแสงขนาดใหญ่ f/1.4 เลนส์ขนาด 6 พิกเซล และเซ็นเซอร์ภาพที่มีความไวสูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าภาพมีรายละเอียดและสีสดใสแม้ในสภาพแสงน้อย

นอกจากนี้ยังใช้อัลกอริทึมการตรวจจับมนุษย์ AI รุ่นใหม่เพื่อตรวจจับเงาของมนุษย์และแจ้งให้ผู้ใช้ทราบผ่านข้อความอัตโนมัติ และด้วยไมโครโฟนคู่และเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Mi 360 ° Security Camera 2K Pro จึงรองรับการสื่อสารสองทางที่คมชัด และสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอุปกรณ์ตัวเครื่องก็มีโหมดความเป็นส่วนตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งให้กล้องหมุนเข้าด้านในผ่านการตั้งค่าง่ายๆ บนแอพ Mi Home ของผู้ใช้ อุปกรณ์นี้ยังรองรับการควบคุมด้วยเสียงแบบแฮนด์ฟรีผ่าน Google Assistant* และ Amazon Alexa อีกด้วย**

โดยกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Mi 360 ° Home Security Camera 2K Pro จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2564 ในราคา 1,590 บาท บนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้ง JD Central, Shopee และ Lazada และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

ขอบคุณที่มาของภาพ: www.gsmarena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
“Disney+” พร้อมเปิดตัวในไทย 30 มิถุนายน นี้
คอนเฟิร์ม iPhone 15 เบาขึ้นแน่นอน
ข่าวดี “YouTube” เปิดตัวฟีเจอร์การสนับสนุนภาพซ้อนภาพบน iOS

Leave Your Reply

*