เดี๋ยวนี้การทำงานของคนรุ่นใหม่ต้องการความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูงขึ้น เพราะงานทุกอย่างต่างต้องแข่งกับเวลา และทุกคนก็อยากจะเคลียร์งานของให้เสร็จเรียบร้อยเร็วที่สุด

โดยไม่ต้องจำกัดตัวเองว่าต้องนั่งประจำที่ถึงจะเริ่มงานได้ แต่ทีนี้จะให้แบกเครื่องโน๊ตบุ๊ครุ่นไดโนเสาร์ไปไหนมาไหนตลอดเวลาก็คงไม่ไหวเพราะตัวเครื่องทั้งหนาทั้งหนักสิ้นดี ซ้ำร้ายกว่าจะเปิดเครื่องขึ้นมาให้พิมพ์งานได้นี่บางทีรอโหลดเป็นสิบนาที

โชคยังดีที่วันนี้เหมือนมีคนรู้ใจมาออกแบบโน้ตบุ๊คให้ชาวออฟฟิศรุ่นใหม่และฟรีแลนเซอร์ทั้งหลายที่ชอบนั่งพิมพ์งานแบบไม่ติดโต๊ะได้แฮปปี้กันถ้วนหน้า นั่นก็คือ Huawei MateBook D15 R5 ด้วยตัวเครื่องที่ทั้งเบาบาง พ่วงสเป็คที่แรง พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U, การ์ดจอ Radeon Vega 8, ตัวเก็บข้อมูล SSD ความจุ 256 GB ที่สำคัญยังมาพร้อมกับดีไซน์สวยจนใครเห็นก็ต้องเหลียวมองในราคาเบาๆ แค่ 17,990 บาท

และล่าสุดนอกจากรุ่น R5 แล้ว หัวเว่ยยังปล่อย Huawei MateBook D 15 R7 โน๊ตบุ๊ครุ่นอัปเกรดความเร็วและแรงยิ่งขึ้นด้วยขุมพลัง AMD Ryzen 7 3700U แถมการ์ดจอ Radeon Vega RX 10 และหน่วยความจำแบบ SSD 512 GB ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ทั้งหมดนี้มาในราคาเพียง 19,990 บาท

ทำให้ “Huawei MateBook D15” ทั้งสองรุ่น น่าจะเป็นคู่หูตัวติดกันที่เหมาะกับใครหลายๆ คน แต่ก่อนจะตัดสินใจไปหามาเป็นเจ้าของซักเครื่อง เราลองมาดูไปด้วยกันก่อนดีกว่าว่าโน้ตบุ๊คงามๆ เบาๆ เครื่องนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ดอะไรบ้าง

เปิดปิดเครื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว เพื่อความสะดวกปลอดภัยขั้นสุด

ฟีเจอร์ไฮไลท์ของ MateBook D15 ที่ต้องพูดถึงเป็นอย่างแรกก็คือปุ่มเปิดปิดครื่อง Fingerprint Power Button ซึ่งทางหัวเว่ยเขายกเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือบนสมาร์ทโฟนมาใช้กับเครื่องโน้ตบุ๊คพีซีนี่แหละ

เพียงแค่แตะนิ้วไปที่ปุ่มเปิดเครื่อง โน้ตบุ๊คของคุณก็สามารถเปิดและบู้ทตัวเองเข้าระบบปฏิบัติการให้พร้อมทำงานได้ในเวลาไม่กี่วินาที โดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งพิมพ์รหัสผ่านให้ปวดหัว

ที่สำคัญยิ่งเจ้าของเปิดโน้ตบุ๊คด้วยวิธีนี้บ่อยเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งจดจำลายนิ้วมือเจ้าของเครื่องได้ดีขึ้นเท่านั้น ทำให้การสแกนเพื่อเปิดเครื่องรวดเร็วและแม่นยำขึ้นไปอีกระดับ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ไม่ต้องกลัวใครมาแอบเปิดเครื่องเราใช้โดยไม่รู้ตัวด้วย

หน้าจอใหญ่เต็มตาบนบอดี้ดีไซน์งาม

นอกจากตัวเครื่องของ MateBook D15 จะทำจากโลหะทั้งหมด หนาแค่เพียง 16.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเบาแค่เพียง 1.62 กิโลกรัม มันยังมาพร้อมกับหน้าจอใหญ่เต็มตาขนาด 15.6 นิ้วแบบ “Full View Display” ดีไซน์ที่ลดขนาดของขอบจอลงจนเหลือแค่ 3% จากพื้นที่จอทั้งหมด แต่ยังคงมอบความละเอียดภาพที่คมชัดระดับ HD 1080p แถมยังเป็นหน้าจอแบบลดแสงสะท้อน เพื่อให้มองเห็นทุกรายละเอียดภาพได้คมชัดขึ้นด้วยนะ จอก็สวย เครื่องก็สวย น้ำหนักก็เบา แล้วใครจะไม่อยากพกโน้ตบุ๊คตัวนี้ติดตัวไปทำงานทุกที่กันล่ะ? รับรองว่าแค่หยิบออกมาวางบนโต๊ะก็ดูสมราคากาแฟแพงในร้านคาเฟ่หรูแล้ว

ใช้คู่กับสมาร์ทโฟน Huawei ยิ่งทำให้ชีวิตดี

จุดนี้เป็นเหมือนโบนัสสำหรับแฟน Huawei ที่ถือสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ EMUI 10 เอาไว้ในมืออยู่แล้ว เพราะ Huawei Matebook D15 มาพร้อมกับฟีเจอร์ “HUAWEI Share” ที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อโน้ตบุ๊คเครื่องนี้กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ EMUI 10 ทุกเครื่องได้ในสัมผัสเดียว

เพียงแค่นำสมาร์ทโฟนแตะที่มุมขวาล่างของแป้นพิมพ์โน้ตบุ๊ค D15 คุณก็สามารถแชร์โน้ตจดบันทึกงานที่ต้องเคลียร์ ลากไฟล์สไลด์พรีเซ้นท์จากคอมพิวเตอร์เข้ามือถือ หรือจะลากรูปสวยๆ หล่อๆ ที่ถ่ายเก็บเอาไว้ในสมาร์ทโฟนเป็นตั้งมาเก็บไว้ในโน้ตบุ๊คก่อนก็ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ที่กำลังเปิดอยู่บนมือถือผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์เลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสลับเครื่องไปมาเวลาตอบแชทไลน์ แค่เลื่อนเมาส์ไปพิมพ์ใส่หน้าจอมือถือที่ปรากฏบนหน้าจอโน้ตบุ๊คก็เป็นอันเรียบร้อย อาจฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เชื่อเถอะว่าชีวิตคุณจะสบายขึ้นเยอะ ฟันธง!

หากใครสนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ HUAWEI MateBook D15 สามารถตามไปดูได้ที่นี่ ส่วนใครที่ต้องการสั่งซื้อทันที ขณะนี้ Huawei MateBook D15 R5 มีจำหน่ายแล้วทางเว็บไซต์ JD Central แต่ถ้าหากใครต้องการโน๊ตบุ๊คที่เร็วและแรงกว่าอีกขั้น ก็สามารถ Pre-order รุ่น Huawei MateBook D 15 R7 ได้จนถึงวันที่ 26 เมษายน ทางเว็บไซต์ JD Central เช่นกัน โดยหลังจากสิ้นสุดช่วง Pre-order แล้วก็จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์เจดี เซ็นทรัล (JD Central) หรือคลิกwww.jd.co.th เท่านั้น

ข่าวประชาสัมพันธ์

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เทนเซ็นต์ ประเทศไทย เผยความสำเร็จปี 2020 ชูกลยุทธ์ไฮบริด
หยุด Cyberbully ต้องแก้ที่ต้นเหตุ! AIS ผลักดัน DQ ความฉลาดทางดิจิทัล ทักษะใหม่เด็กไทย ยุค New Normal
โรลส์-รอยซ์ เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ YOCOVA

Leave Your Reply

*