News PR

Infinix เปิดตัว HOT 60 Pro+ สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้งบางที่สุดในโลก เพียง 5.95 มม.

Infinix ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ HOT 60 Series ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นำโดยรุ่นไฮไลท์ HOT 60 Pro+ ที่สร้างสถิติใหม่ด้วยความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอโค้ง 3 มิติที่บางที่สุดในโลก

ดีไซน์ Ultra-Slim ทำลายขีดจำกัดความบาง

HOT 60 Pro+ กลายเป็นนิยามใหม่ของสมาร์ทโฟนบางเฉียบด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูงที่สามารถลดความหนาลงกว่า 12.5% และน้ำหนักเบาลง 4.3% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า น้ำหนักเพียง 155 กรัม ภายในโครงสร้างบางเฉียบนี้ยังบรรจุแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,160 mAh และระบบชาร์จเร็ว 45W

โครงสร้าง Distributed Flat Architecture (สถาปัตยกรรมภายในแบบกระจายแบนราบ) ช่วยให้สามารถรองรับส่วนประกอบสำคัญ 10 ชิ้นได้อย่างครบถ้วน รวมถึงถาดใส่ซิม ลำโพง และพอร์ต Type-C โดยไม่กระทบต่อดีไซน์ของตัวเครื่อง

Infinix HOT 60 Pro+

ฝาครอบแบตเตอรี่ด้านหลังเสริมด้วยแผ่นป้องกันนาโนไฟเบอร์แบบบางผ่านกระบวนการ OMR (Out-Mold Decoration) ของ Infinix ช่วยลดความหนาลงอีก 20% เมื่อเทียบกับความหนาทั่วไป พร้อมโครงสร้างอะลูมิเนียมระดับอากาศยานที่มอบความแข็งแกร่งและทนทาน

หน้าจอโค้ง 3 มิติได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 7i ที่บางเป็นพิเศษแต่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกกระแทก นวัตกรรมเหล่านี้ทำให้ความทนทานต่อการโค้งงอดีกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1.4 เท่า และผ่านการทดสอบการตกกระแทกรอบทิศทางที่ความสูง 1.5 เมตร

สีสันสดใสจากแรงบันดาลใจธรรมชาติ

HOT 60 Series นำเสนอตัวเลือกสีสันถึง 10 แบบ ได้รับแรงบันดาลใจจากโทนสีธรรมชาติ โดดเด่นด้วยสีไฮไลท์ Coral Tides (ชมพู) ที่ไล่เฉดสีชมพูและฟ้า สะท้อนสีสันของคลื่นน้ำทะเลสีฟ้าตัดกับหาดทรายสีชมพูบนเกาะโคโมโด

ดีไซน์กล้องของ HOT Series ได้รับการพัฒนาต่อยอดด้วยโมดูลกล้องที่ลอยตัวและแยกออกจากแผงด้านหลังอย่างชัดเจน พร้อมไฟ Active Halo ที่ผสานรวมกันอย่างลงตัว เพิ่มสไตล์โดดเด่นแต่ยังคงความมินิมอลและล้ำสมัย

บนรุ่น HOT 60 Pro ยกระดับความแม่นยำในการออกแบบด้วยวงแหวนโลหะและขอบตัดที่โดดเด่น สะท้อนถึงปุ่ม AI One-Tap เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่กลมกลืน

แบตเตอรี่ความจุสูงในตัวเครื่องบางเฉียบ

HOT 60 Series มาพร้อมแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่บางแต่จุได้สูงถึง 5,160 mAh ด้วยเทคโนโลยี Non-silicon doping (ไม่เจือสารซิลิคอน) ความหนาแน่นพลังงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 810 วัตต์-ชั่วโมง/ลิตร ความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 1.08 เท่า และอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น 20%

Infinix HOT 60 Pro+

แบตเตอรี่ยังคงประสิทธิภาพการใช้งานมากกว่า 80% หลังจากการชาร์จ 1,800 รอบ เพื่อการใช้งานที่เสถียรยาวนานหลายปี

ทั้งสามรุ่นรองรับการชาร์จเร็วสุด 45W ในรุ่น HOT 60 Pro+ สามารถชาร์จจาก 1% ถึง 50% ภายใน 23 นาทีในโหมด Hyper และชาร์จเต็มภายใน 55 นาที เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 12.7%

ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเมื่อใช้งานโซเชียลมีเดีย การสตรีมวิดีโอ และการเล่นเกม ด้วยการปรับความสว่างที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณ 50mAh ต่อชั่วโมง

ประสิทธิภาพครอบคลุมในตัวเครื่องบาง

แม้รูปทรงเพรียวบาง HOT 60 Pro+ ก็มอบประสิทธิภาพโดดเด่นทั้งด้านการถ่ายภาพ ประสิทธิภาพการใช้งาน และการจัดการความร้อน กล้องหลังมาพร้อมเซ็นเซอร์ SONY IMX882 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ความไวแสงสูง ให้ความคมชัดเป็นพิเศษและประสิทธิภาพการถ่ายภาพแม้ในที่แสงน้อย

Infinix HOT 60 Pro+

การประมวลผลภาพ AI RAW ล่าสุดของ Infinix ช่วยเพิ่มรายละเอียด ความถูกต้องของสีภาพ และการถ่ายภาพกลางคืน พร้อมโฟกัสอัตโนมัติแบบเต็มพิกเซลและการซูมแบบ 2 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด

HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่เปิดตัวชิปเซ็ต MediaTek Helio G200 ซึ่งผสานเทคโนโลยีขั้นสูงของ MediaTek เข้ากับการปรับแต่งพิเศษของ Infinix เพื่อมอบประสิทธิภาพความเร็วสูง ใช้งานได้ยาวนานและราบรื่น

HOT 60 Pro+ มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัยที่สุดของ Infinix ด้วยวัสดุระบายความร้อน 11 ชั้น และกราไฟท์คริสตัลแบบนำไฟฟ้าขั้นสูงที่เพิ่มขึ้นอีก 220 ตารางมิลลิเมตร การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ 8% และลดอุณหภูมิชิปเซ็ตได้สูงสุด 5 องศาเซลเซียส

หน้าจอและฟีเจอร์ที่เอื้อต่อการใช้งาน

หน้าจอกว้างดีไซน์ตัวเครื่องที่มีขอบจอด้านล่างบางเพียง 0.88 มิลลิเมตร จอ AMOLED รองรับอัตราการรีเฟรช 144Hz ความละเอียด 1.5K ได้ภาพที่สมจริง และความสว่างสูงสุด 4,500 นิต เพื่อความคมชัดแม้ใช้งานในแสงแดดโดยตรง

Infinix HOT 60 Pro+

หน้าจอมีฟีเจอร์ AI Eye Comfort พร้อมทั้ง Gaming Eye Comfort เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาระหว่างการเล่นเกม และ Sleep Aid Mode เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาในการใช้งานประจำวัน

AI อัจฉริยะและระบบปฏิบัติการใหม่

สมาร์ทโฟน HOT 60 Series ทุกรุ่นมาพร้อม Folax ผู้ช่วย AI อัจฉริยะจาก Infinix ที่เข้าถึงได้รวดเร็วผ่านปุ่ม AI ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

ฟีเจอร์ AI ประกอบด้วย AI Vogue Portraits ในรุ่น HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro จะผสานภาพถ่ายของผู้ใช้งานเข้ากับเอฟเฟกต์ภาพแบบเคลื่อนไหว แสดงผลบนหน้าจอได้ทั้งในขณะล็อกหน้าจอและหน้าจอแบบ Always-on รวมถึง AI Image Extender และเครื่องมือ AI Eraser ที่ได้รับการอัปเกรดมอบการปรับแต่งภาพคุณภาพสูงและง่ายดาย

HOT 60 Series มาในระบบปฎิบัติการ XOS 15.1.1 ล่าสุด กับอินเทอร์เฟซผู้ใช้งานที่ปรับปรุงใหม่ ประกอบด้วยไอคอน วอลเปเปอร์ และหน้าจอ Always-on ที่ได้รับการอัปเดต ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้รุ่นใหม่ที่ใส่ใจเทรนด์

HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro ได้รับการรับรองจาก TÜV SÜD สำหรับการใช้งานลื่นไหลต่อเนื่องนาน 60 เดือน

ฟีเจอร์เชื่อมต่อและความทนทาน

HOT 60 Series รองรับการถ่ายโอนไฟล์ผ่าน NFC ได้อย่างง่ายดาย ด้วย NFC Touch Transfer ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาได้ทันทีด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว

HOT 60 Pro+ มาพร้อม UltraLink Free Call ที่สามารถโทรและส่งข้อความแบบสองทางผ่านบลูทูธได้ไกลสูงสุด 1.5 กิโลเมตร แม้ในพื้นที่กลางแจ้ง เหมาะสำหรับการเดินทาง งานภาคสนาม หรือกรณีฉุกเฉิน

HOT 60 Series ทุกรุ่นได้รับมาตรฐาน IP64 ในด้านการป้องกันฝุ่นและน้ำ ในขณะที่ HOT 60 Pro+ ได้รับมาตรฐาน IP65 ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อการปกป้องที่เหนือกว่า

HOT 60 Pro+ ยังมีลำโพงสเตอริโอคู่ที่ได้รับการรับรองจาก JBL มอบเสียงที่เต็มอิ่มและดื่มด่ำด้วยการปรับแต่งที่แม่นยำในความถี่ของเสียงเบส กลาง และเสียงสูง

ราคาและความพร้อมจำหน่าย

Infinix HOT 60 Series วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วทั่วประเทศ รุ่นตัวท็อป HOT 60 Pro+ ความจุ 256 GB +16GB ราคา 6,499 บาท มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Titanium Silver (เงิน), Sleek Black (ดำ), Misty Violet (ม่วง), Sonic Yellow (เหลือง) และ Coral Tides (ชมพู)

Infinix HOT 60 Pro+

รุ่น HOT 60 Pro มีให้เลือกสองขนาด ความจุ 256 GB +16GB ราคา 5,499 บาท และความจุ 128+16GB ราคา 4,999 บาท ใน 4 สี ได้แก่ Titanium Silver (เงิน), Sleek Black (ดำ), Sapphire Blue (ฟ้า) และ Coral Tides (ชมพู)

รุ่น HOT 60i ความจุ 256 GB +16GB ราคา 3,999 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titanium Silver (เงิน), Sleek Black (ดำ) และ Shadow Blue (ฟ้า)

HOT 60 Pro+ และ HOT 60 Pro สามารถสั่งซื้อได้ทางร้านค้าชั้นนำ หรือทางออนไลน์ที่ Shopee Mall, LazMall และ TikTok Shop ส่วน HOT 60i สามารถสั่งซื้อได้ผ่านร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ BaNANA, Jaymart, IT City และ TG FONE สาขาที่ร่วมรายการ

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
วิธี ‘ทำงานที่บ้าน’ ให้ปลอดภัย ช่วง Covid-19 ระบาด
ทรูออนไลน์ปฏิวัติบ้านอัจฉริยะด้วย TrueID TV Gen3 กล่องทีวี AI เจนเนอเรชั่นใหม่
เสียวหมี่ ประเทศไทย บริจาค 749,500 บาท ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

Leave Your Reply

*