
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เตรียมประกาศเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายแบน TikTok เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน หลังจากเจรจาขายแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมให้กับนักลงทุนอมเริกันพบกับอุปสรรคจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
กำหนดเวลาปัจจุบันที่กำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ในจีนขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับนักลงทุนอเมริกันจะหมดอายุในวันที่ 19 มิถุนายน 2025 อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากทำเนียบขาวเผยว่า ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะออกคำสั่งบริหารเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 75 วัน
ความขัดแย้งทางการค้าขัดขวางดีล
สาเหตุหลักที่ทำให้การเจรจาหยุดชะงักมาจากการที่ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้นเป็น 34% ส่งผลให้รัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะอนุมัติข้อตกลงขาย TikTok ที่เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าปักกิ่งพยายามใช้ TikTok เป็นไพ่ต่อรองในการเจรจาการค้าเพื่อให้สหรัฐฯ ลดภาษีสินค้าจีน
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยกับสื่อว่า “ประธานาธิบดีบอกว่าเขายินดีที่จะประกาศการเลื่อนครั้งใหม่หากจำเป็น” โดยเสริมว่ารัฐบาลจีน “ต้องการถือเรื่องนี้เป็นเครื่องมือต่อรองในการเจรจาการค้า”
ประวัติการเลื่อนมาตรการแบน
TikTok ถูกแบนอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2025 ภายใต้กฎหมาย Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act (PAFACA) ที่ผ่านด้วยการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมืองและลงนามโดยอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ทรัมป์ ได้ให้การเลื่อนครั้งแรกเป็นเวลา 75 วันหลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม โดยเลื่อนจากวันที่ 19 มกราคมเป็นวันที่ 5 เมษายน ต่อมาในเดือนเมษายนได้ประกาศเลื่อนครั้งที่สองอีก 75 วันจนถึงวันที่ 19 มิถุนายน หากมีการเลื่อนครั้งที่สามตามแผน กำหนดเวลาใหม่จะเป็นวันที่ 2 กันยายน 2025
นักลงทุนชั้นนำแข่งซื้อ
แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอนทางกฎหมาย แต่มีนักลงทุนรายใหญ่หลายรายแสดงความสนใจซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ โดยทีมงานของ ทรัมป์ พิจารณาข้อเสนอจาก Oracle, Perplexity, Amazon รวมถึงบุคคลสำคัญอย่าง Jimmy Donaldson หรือ MrBeast นักสร้างคอนเทนต์ชื่อดัง, Kevin O’Leary พิธีกรรายการ Shark Tank, Jesse Tinsley ผู้ก่อตั้ง Employer.com และเศรษฐี Frank McCourt
Oracle ซึ่งดำเนินการโดย Larry Ellison เศรษฐีและผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของ ทรัมป์ ถือเป็นผู้ลงทุนหลักที่ได้รับการพิจารณาจากทำเนียบขาว แต่ความพยายามในยุคแรกของ ทรัมป์ ล้มเหลวเนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลในจีน
ปัญหาทางกฎหมายและการวิพากษ์วิจารณ์
นักกฎหมายหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจของ ทรัมป์ ในการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยกฎหมาย PAFACA ระบุเงื่อนไขเฉพาะสำหรับการเลื่อน เช่น การรับรองว่ามีความคืบหน้าในการขายหุ้น ในทางเทคนิคแล้ว TikTok ยังคงดำเนินงานอย่างผิดกฎหมายในสหรัฐฯ เนื่องจากยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทจีน
Carl Tobias ศาสตราจารย์ที่ University of Richmond School of Law วิพากษ์ว่า “การเลื่อนครั้งแรกไม่ถูกต้อง เป็นการละเมิดความตั้งใจของรัฐสภาที่ต้องการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ และการเลื่อนครั้งนี้ทำให้ปัญหาแย่ลงไปอีก”
ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
TikTok มีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากกว่า 170 ล้านคน และยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ตามปกติ แอปพลิเคชันดังกล่าวเคยหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นเวลา 14 ชั่วโมงในช่วงค่ำคืนวันที่ 18 มกราคม ก่อนจะกลับมาให้บริการหลังจาก ทรัมป์ ประกาศว่าจะเลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย
Jeremy Goldman นักวิเคราะห์หลักจาก Emarketer มองว่าการเลื่อนดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ทั่วไปของ ทรัมป์ โดยกล่าวว่า “ลากเวลา สร้างผลประโยชน์ต่อรอง รักษาความตึงเครียดและที่สำคัญคือทำให้ TikTok ยังคงมองเห็นได้เพียงพอเพื่อให้นักลงทุนยังคงสนใจ”
รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok ด้วยการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคในปี 2024 อ้างความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของบริษัทกับรัฐบาลจีน ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ยืนยันความชอบธรรมของกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยปฏิเสธการอุทธรณ์ของ TikTok ที่อ้างว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญฉบับที่หนึ่ง
อ้างอิง | Macrumors.com