Lifestyle

ส่องโรงงานอัจฉริยะใน “ฉงชิ่ง” เปิดตำนาน “OPPO” กว่าจะมาเป็นยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนโลก

คุณรู้ไหมว่าสมาร์ทโฟนที่คุณใช้อยู่ทุกวันถูกผลิตขึ้นมาอย่างไร? คำถามนี้อยู่ในหัวผมตลอดขณะที่รถบัสพาเราเข้าสู่เขตอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่โตราวกับเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

วันนี้ผมได้รับโอกาสพิเศษให้เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตสมาร์ทโฟน OPPO ที่ฉงชิ่ง  ประเทศจีน ซึ่งเป็นฐานการผลิตและศูนย์โลจิสติกส์ขนาดใหญ่ที่สุดของแบรนด์นี้ทั่วโลก

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ก่อนเยี่ยมชมโรงงานแห่งนี้ เราก็ต้องทำความรู้จักกับ OPPO กันก่อน โดยวิทยากรประจำโรงงานเริ่มเล่าถึงประวัติความเป็นมาของ OPPO ซึ่งเริ่มจดทะเบียนแบรนด์ระดับโลกในปี 2001 โดยก่อนหน้านั้น บริษัทได้ทำการสำรวจมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และพบว่าคำว่า OPPO ไม่มีความหมายในแง่ลบในประเทศใดๆ และที่โรงงานแห่งนี้มีไทม์ไลน์บนผนัง อธิบายว่าการเลือกชื่อแบรนด์ภาษาอังกฤษล้วนนี้เป็นรากฐานสำคัญในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศในเวลาต่อมา บริษัทในประเทศจีนก่อตั้งขึ้นในปี 2004

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ในช่วงเริ่มต้น ผลิตภัณฑ์หลักของ OPPO คือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค เช่น MP3 และ MP4 แต่หลังจากศึกษาตลาดอย่างลึกซึ้ง บริษัทพบช่องว่างในตลาดโทรศัพท์มือถือ จึงเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้อย่างเป็นทางการในปี 2008 ด้วยฟีเจอร์โฟนรุ่นแรก A103 หรือที่เรียกว่า Smiley Phone

มือถือรุ่นแรกของ OPPO A103 หรือที่เรียกว่า Smiley Phone

นอกจากนี้ยังมีตู้จัดแสดงที่มีโทรศัพท์รุ่นเก่าวางอยู่ นั่นคือ MP3 รุ่นแรกของ OPPO รุ่น X3 วางจำหน่ายในปี 2005 การออกแบบภายนอกแบบเปลือกหอยทำให้มันโดดเด่นจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ดูเรียบเฉาในยุคนั้น และได้รับความสนใจอย่างมาก

และในปี 2011 OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Find ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากฟีเจอร์โฟนสู่สมาร์ทโฟน และในปี 2014 ได้เปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC แสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบอย่างชัดเจนของ OPPO ในด้านเทคโนโลยีการชาร์จมือถือ

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

วิทยากรประจำโรงงานเล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า ในปี 2016 ซีรีส์ R9 วางตลาด ด้วยการออกแบบภายนอก ฟังก์ชันการถ่ายภาพ และเทคโนโลยีชาร์จไว VOOC ที่ได้รับความชื่นชอบ มียอดขายต่อปี 17 ล้านเครื่อง ทำลายสถิติยอดขายสูงสุดในประเทศของ iPhone ที่ครองแชมป์มา 4 ปีติดต่อกัน

จนถึงปัจจุบัน ธุรกิจของ OPPO ได้ขยายครอบคลุมมากกว่า 70 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก มีจุดจำหน่ายกว่า 300,000 แห่ง และมีพนักงานมากกว่า 40,000 คน ข้อมูลล่าสุดจาก Canalys ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 OPPO ครองอันดับ 4 ของตลาดโลกอย่างมั่นคงด้วยส่วนแบ่งตลาด 9% และกลายเป็นผู้นำตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรก ด้วยส่วนแบ่งตลาด 21%

เมื่อเดินมาถึงโซนแสดงแผนผังโครงการ เราจะได้เห็นแบบจำลองขนาดใหญ่ของโรงงาน โครงการ OPPO ฉงชิ่ง เริ่มต้นจากการลงนามข้อตกลงการลงทุนร่วมกับรัฐบาลเขตอู่เปี่ยในเดือนตุลาคม ปี 2016 มีแผนการใช้พื้นที่ 1,524 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 7.7 พันล้านหยวน

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

แผนผังของสวนอุตสาหกรรมวางโครงสร้างไว้เป็น “หนึ่งใจกลาง หนึ่งวงแหวน สี่กลุ่ม” วิทยากรชี้ไปที่จุดต่างๆ บนแบบจำลอง หนึ่งใจกลางหมายถึงโรงงานที่รวมสำนักงานและการผลิตไว้ในจุดศูนย์กลางของสวน หนึ่งวงแหวนคือทางเดินเชิงนิเวศความยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ที่อนุญาตให้เฉพาะคนเดินผ่านได้ ส่วนสี่กลุ่มหมายถึงหอพักพนักงานทั้งสี่ด้านรอบสวน

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

โครงการเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 2017 ระยะที่หนึ่งแล้วเสร็จและเริ่มเดินสายการผลิตเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2019 ปัจจุบันระยะที่หนึ่งก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และระยะที่สองกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ที่นี่ได้กลายเป็นฐานการผลิตและศูนย์โลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของ OPPO ทั่วโลกแล้ว

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ทั้งนี้วิทยากรเน้นย้ำด้วยความภูมิใจกับพวกเราว่านี่คือแกนหลักในการขยายกำลังการผลิตสู่ตลาดโลกของบริษัท

วิทยากรประจำโรงงานพาเราไปยังอีกส่วนหนึ่งของการจัดแสดง ที่มีแผงสิทธิบัตรและรางวัลมากมาย ในด้านสิทธิบัตรระดับโลก OPPO ได้บรรลุผลลัพธ์ที่โดดเด่นมากเช่นกัน จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ยื่นจดสิทธิบัตรสะสมมากกว่า 100,000 ฉบับ โดย 91% เป็นสิทธิบัตรการประดิษฐ์ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความได้เปรียบของ OPPO ในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ข้อได้เปรียบเหล่านี้มาจากการลงทุนจำนวนมากในด้านการวิจัยและพัฒนา OPPO ได้ก่อตั้งสถาบันวิจัยขนาดใหญ่ 6 แห่งทั่วโลก โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาต่างประเทศเน้นที่ซิลิคอนแวลลีย์ของสหรัฐอเมริกา และโยโกฮามะของญี่ปุ่น ภายในประเทศมีการวางแผนที่เซินเจิ้น เฉิงตู ซีอาน อู่ฮั่น เป็นต้น

เข้าสู่กระบวนการผลิต – การเกิดของสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง

ก่อนที่เราจะเข้าสู่พื้นที่การผลิตอัจฉริยะ เธออธิบายขั้นตอนการกำเนิดของโทรศัพท์มือถือ OPPO ซึ่งสามารถสรุปโดยย่อเป็น 6 ขั้นตอนหลัก

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

อันดับแรกคือขั้นตอนการวางแผนผลิตภัณฑ์ ทำการสำรวจตลาดอย่างลึกซึ้ง โดยอ้างอิงจากภาพรวมของผู้ใช้งานระดับล้านราย เพื่อกำหนดเป้าหมายของผลิตภัณฑ์

ขั้นตอนที่สองคือการออกแบบและพัฒนา ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกไปจนถึงชิปและระบบปฏิบัติการ ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน

ขั้นตอนที่สามคือการผลิต โดยใช้ความแม่นยำระดับไมโครเมตรในการประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์นับพันชิ้น มี 128 ขั้นตอนหลักเป็นรากฐานของคุณภาพ

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ขั้นตอนที่สี่คือการทดสอบคุณภาพ โทรศัพท์ที่ประกอบเสร็จจะเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบ โดยห้องทดลองจะจำลองสภาพแวดล้อมตั้งแต่ -40°C ถึง 85°C เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของโทรศัพท์แต่ละเครื่องอย่างเข้มงวด

ขั้นตอนที่ห้าคือการออกสู่ตลาด เมื่อผ่านการทดสอบทุกรูปแบบแล้ว ผลิตภัณฑ์จะถูกจัดส่งทั่วโลก

ขั้นตอนสุดท้ายคือการบริการ โดยมีร้านบริการลูกค้ากว่า 3,300 แห่งทั่วโลก รองรับการบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างไร้รอยต่อ

เมื่อเดินเข้าสู่โซนการผลิตจริง วิทยากรประจำโรงงานพาเราไปยังสายการผลิต SMT ก่อนเป็นอันดับแรก

SMT คือเทคโนโลยีการติดตั้งชิ้นส่วนบนพื้นผิว (Surface Mounted Technology) เป็นกระบวนการหลักในการผลิตเมนบอร์ดของโทรศัพท์มือถือ วิทยากรอธิบาย สายการผลิต SMT ที่ฉงชิงเริ่มผลิตแผงวงจร PCB แผ่นแรกเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2019 ปัจจุบันสามารถรองรับกำลังการผลิตได้ถึง 5 ล้านแผ่นต่อเดือน

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

วิทยากรชี้ไปที่เครื่องติดตั้งชิ้นส่วนความเร็วสูงแบบรางคู่ ตอนนี้ที่เราเห็นคือเครื่องติดตั้งชิ้นส่วนความเร็วสูงแบบรางคู่จาก Siemens ประเทศเยอรมนี มีลักษณะเด่นคือขนาดเล็ก การออกแบบแบบโมดูล และความแม่นยำสูง แต่ละรางด้านหน้าใช้ติดตั้งชิ้นส่วนขนาดเล็ก เช่น ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ และตัวเหนี่ยวนำ

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ปัจจุบันชิ้นส่วนที่เล็กที่สุดในเมนบอร์ดของ OPPO มีขนาด 0.4 มม. × 0.2 มม. ขนาดของมันเทียบเท่า 1 ใน 100 ของเหรียญ 1 เจียว (หนึ่งในสิบของหยวน) เธอยื่นแว่นขยายให้ทุกคนได้ส่องดู การติดตั้งด้วยระยะห่างที่แคบยังเป็นตัวแทนของระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม ด้านหลังของรางใช้ติดตั้งชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เช่น CPU และชิปหน่วยความจำ

วิทยากรพาเราเดินต่อไปยังส่วนถัดไปของสายการผลิต หลังจากกระบวนการติดตั้งชิ้นส่วนทั้งหมดเสร็จสิ้น แผงวงจรหลักจะเข้าสู่เตาอบไนโตรเจนแบบรีโฟลว์ เตารีโฟลว์จะทำการบัดกรีระหว่างชิ้นส่วนและแผง PCB หลังจากผ่านเตาอบแล้ว แผงวงจรหลักจะเข้าสู่เครื่องตรวจสอบด้วยแสงอัตโนมัติอีกครั้ง (AOI หลังเตา) เพื่อตรวจสอบและประเมินสถานะการบัดกรีของแผงวงจรหลัก

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ในกระบวนการติดตั้งชิ้นส่วนทั้งหมด OPPO ได้ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติหลายชนิดมาแทนที่การปฏิบัติงานโดยตรงของแรงงานภายนอกกับแผงวงจรหลัก เพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือของกระบวนการ ในขณะเดียวกันก็ใช้การจัดการแบบรวมศูนย์กับอุปกรณ์ AOI สำหรับการตรวจสอบการติดตั้งชิ้นส่วน ปัจจุบันกระบวนการของโรงงานมีอัตราการผ่านตั้งแต่ครั้งแรกอยู่ที่ประมาณ 98.5% ซึ่งถึงระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

ต่อไปเราจะเข้าชมสายการประกอบขั้นสุดท้าย โดยวิทยากรประจำโรงงานพาเราเข้าสู่พื้นที่อีกส่วนหนึ่งของโรงงาน

สายการประกอบขั้นสุดท้ายเป็นสายการผลิตที่ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยใช้รูปแบบสายการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การเตรียมงานล่วงหน้า การประกอบชิ้นส่วน การทดสอบทั้งเครื่อง ไปจนถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือและความสอดคล้องของโทรศัพท์มือถือ จะมีการป้องกันภายนอกของแผงวงจรหลักที่ผ่านการทดสอบจากกระบวนการก่อนหน้า เช่น การกันน้ำ ป้องกันแรงกระแทก และป้องกันการแผ่รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า โดยแบ่งเป็นกระบวนการจ่ายกาวและกระบวนการติดตั้งวัสดุเสริม

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

เครื่องจ่ายกาวจะจ่ายกาวลงบนแผงวงจรหลักและชิ้นส่วนที่เปิดเผยของแผงวงจรหลัก เพื่อให้เกิดผลในการกันน้ำ ป้องกันการกระแทก และป้องกันการกัดกร่อน

กระบวนการสุดท้ายของแผงวงจรหลักในสายการผลิต SMT คือการติดตั้งวัสดุเสริม ซึ่งจะติดตั้งวัสดุเสริมภายนอก เช่น ซิลิโคนกันน้ำสำหรับขั้วต่อ แผ่นทองแดงป้องกันสัญญาณรบกวน และแผ่นกราไฟต์ระบายความร้อน ปัจจุบัน OPPO ได้นำเข้าเครื่องติดตั้งวัสดุเสริมอัตโนมัติ 4 เครื่องเพื่อบรรลุการผลิตแบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

สายการประกอบขั้นสุดท้ายเป็นสายการผลิตที่ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยใช้รูปแบบสายการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การเตรียมงานล่วงหน้า การประกอบชิ้นส่วน การทดสอบทั้งเครื่อง ไปจนถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

โทรศัพท์มือถือประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ หน้าจอ กรอบกลาง แบตเตอรี่และฝาหลัง การติดตั้งหน้าจอแบบอัตโนมัติเมื่อเทียบกับการติดตั้งด้วยมือ ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความสม่ำเสมอของการติดตั้งหน้าจอ อัตราความคลาดเคลื่อน เช่น การติดตั้งเอียงลดลงเหลือ 0.3%

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนพลังงานสูง ความปลอดภัยของแบตเตอรี่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการผลิตของพนักงานและความปลอดภัยในชีวิตของผู้บริโภค การใช้เครื่องจักรอัตโนมัติช่วยให้การติดตั้งแบตเตอรี่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น มุ่งหวังให้กระบวนการผลิตและการใช้งานของผู้ใช้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

เมื่อการประกอบฝาหลังและการกดให้แนบสนิทเสร็จสิ้น สมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ โทรศัพท์จะถูกแขนกลย้ายไปยังสายการทดสอบอัตโนมัติ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างน้อย 30 รายการ เช่น ลักษณะภายนอกของหน้าจอ กล้อง และการทดสอบ Wi-Fi

ในปี 2024 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ OPPO บริษัทได้เข้าสู่ยุคของโทรศัพท์มือถือ AI อย่างเป็นทางการ Find X8 ซีรีส์ เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ปี 2024 โดย X8 Pro มาพร้อมกับหน้าจอไมโครโค้ง 4 ด้านที่บางและเบาเป็นพิเศษ และเทคโนโลยีเลนส์ซูมไกลแบบปริทรรศน์ที่ใช้เซ็นเซอร์กลับด้านเป็นครั้งแรกของโลก

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ด้านหนึ่งมีปุ่ม AI โดยเฉพาะ ช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ฟังก์ชัน AI ได้อย่างรวดเร็ว X8 ซีรีส์สามารถถามหน้าจอด้วยปุ่มเดียวได้อย่างแท้จริง เช่น การช่วยเขียนคำบรรยายโพสต์ Moments ถามเวลาที่ใช้ในการต้มหม้อไฟ แปลงเอกสารกระดาษให้เป็นไฟล์ Word และสร้างแผนเที่ยวแบบกำหนดเอง

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

นอกจากนี้ ในซีรีส์ X8 ยังนำเสนอฟีเจอร์ถ่ายภาพ AI อีก 3 รายการ ได้แก่ AI Reflection Remover, AI Unblur และ AI Clarity Enhancer ทำให้การถ่ายภาพไม่มีภาระ แก้ภาพเสียได้อย่างง่ายดาย

ก่อนจบทัวร์สุดพิเศษในครั้งนี้นั้น วิทยากรประจำโรงงานพาเราไปยังโซนสิ่งแวดล้อม ที่มีงานศิลปะรูปต้นไม้ทำจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นี่คือต้นไม้เทคโนโลยีที่ทำขึ้นจากเศษวัสดุแผงวงจรหลัก (PCB) ของโทรศัพท์มือถือ วิทยากรอธิบาย กิ่งก้านและใบของต้นไม้ รวมถึงรากของต้นไม้ล้วนทำมาจากชิ้นส่วนของโทรศัพท์มือถือ ไม่เพียงแต่เป็นงานศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิบัติจริงของแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมสีเขียว

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

OPPO มุ่งมั่นในการหลอมรวมแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าไว้ในกระบวนการจัดการผลิตภัณฑ์ตลอดวงจรชีวิตทั้งหมด และสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียวอย่างครบถ้วน บริษัทให้คำมั่นว่าจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานของตนภายในปี 2050 และได้กำหนดเส้นทางการพัฒนาที่ปล่อยคาร์บอนต่ำไว้แล้ว

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

บนเส้นทางแห่งความรับผิดชอบต่อสังคม OPPO จะยังคงพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง สำรวจและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนพันธสัญญาที่มีต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียมทางดิจิทัล สุขภาวะ และการเสริมพลังให้กับเยาวชน

นอกจากนี้แล้ววิทยากรประจำโรงงานพาเราไปยังผนังแห่งเกียรติยศที่จัดแสดงรางวัลมากมาย ตั้งแต่สวนอุตสาหกรรมฉงชิงเริ่มเดินสายการผลิตจนถึงปัจจุบัน โรงงานได้รับรางวัลและเกียรติยศจำนวนไม่น้อย เช่น โรงงานอัจฉริยะระดับประเทศ โรงงานสีเขียวระดับประเทศ โรงงานอัจฉริยะต้นแบบด้านนวัตกรรมของเทศบาลนครฉงชิง สายการผลิตดิจิทัลของเทศบาลนครฉงชิง และบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตของเทศบาลนครฉงชิง

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

รางวัลเหล่านี้ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จในอดีต แต่ยังเป็นแรงจูงใจให้กับเรา และเป็นพลังในการก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน โรงงาน OPPO ที่ฉงชิงได้กลายเป็นศูนย์กลางสำคัญในการขยายกำลังการผลิตสู่ตลาดโลก ด้วยศักยภาพในการผลิตที่สูงถึง 5 ล้านเครื่องต่อเดือน และการนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้กว่า 90-95% ทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยที่สุดในโลก

การเยี่ยมชมโรงงานครั้งนี้ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุ ไปจนถึงการประกอบและการทดสอบ ซึ่งทั้งหมดล้วนมุ่งเน้นทั้งคุณภาพ นวัตกรรม และความยั่งยืน

เจาะลึกโรงงานอัจฉริยะของ OPPO เมืองฉงชิ่ง

ในขณะที่เทคโนโลยี AI กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ OPPO ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ พร้อมกับคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน

ครั้งหน้าเมื่อคุณหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้ ลองนึกถึงเส้นทางอันยาวไกลที่มันเดินทางมา จากโรงงานอัจฉริยะเช่นนี้ สู่มือของคุณ ด้วยความตั้งใจและนวัตกรรมในทุกขั้นตอนการผลิต

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Netflix และ Red Notice กับภารกิจ “ไล่ล่าไข่คลีโอพัตรา” ชิงรางวัลมูลค่า 300,000 บาท
สิ้นสุดการรอคอย! Netflix ปล่อยตัวอย่าง YOU SEASON 4 (เธอ) ซีซั่น 4
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ(3D-printed) ปัญหาโลกแตกมันถูกกฎหมายหรือไม่?

Leave Your Reply

*