News

iPhone SE 4 เตรียมเปิดตัวมีนาคม 2025 ยืนยันมาพร้อมชิป 5G ที่ Apple พัฒนาเอง

การรอคอยของสาวกไอโฟนรุ่นประหยัดกำลังจะสิ้นสุดลง เมื่อนักวิเคราะห์ชั้นนำยืนยันการมาถึงของ iPhone SE รุ่นที่ 4 ในเดือนมีนาคม 2025 พร้อมเผยจุดเด่นสำคัญคือชิปโมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบครบวงจร

Tom O’Malley นักวิเคราะห์จาก Barclays และทีมงานได้เดินทางไปเอเชียเพื่อพบปะผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ชั้นนำในวงการอิเล็กทรอนิกส์ โดยรายงานวิจัยล่าสุดระบุว่า iPhone SE รุ่นใหม่จะมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจาก iPhone 14 หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ระบบสแกนใบหน้า Face ID และกล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล นับเป็นการยกระดับครั้งสำคัญจากรุ่นที่ 3 ที่ยังคงใช้ดีไซน์แบบ iPhone 8

การพัฒนาชิปโมเด็ม 5G ของ Apple เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2018 โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดการพึ่งพาชิปจาก Qualcomm ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อ Apple ซื้อกิจการด้านโมเด็มสมาร์ตโฟนของ Intel พร้อมสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเซลลูลาร์ แม้ว่าล่าสุด Apple จะต่อสัญญาการใช้ชิปโมเด็ม 5G กับ Qualcomm จนถึงปี 2026 แต่การเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่จะเป็นก้าวสำคัญในการแสดงศักยภาพด้านการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของบริษัท

นักวิเคราะห์ชื่อดัง Ming-Chi Kuo คาดการณ์ว่าชิปโมเด็ม 5G ของ Apple จะถูกนำไปใช้ใน iPhone 17 Air ด้วยเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่า Apple มีความมั่นใจในประสิทธิภาพของชิปที่พัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างชิปของ Apple และ Qualcomm โดยเฉพาะในด้านความเร็วการรับส่งข้อมูล

ความสัมพันธ์ระหว่าง Apple และ Qualcomm มีความตึงเครียดมาตั้งแต่ปี 2017 เมื่อ Apple ฟ้องร้อง Qualcomm ในข้อหาการผูกขาดทางการค้าและเรียกร้องค่าชดเชยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ทั้งสองบริษัทจะบรรลุข้อตกลงในปี 2019 แต่ Apple ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาชิปของตนเองอย่างต่อเนื่อง

สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจของ iPhone SE รุ่นที่ 4 ได้แก่ พอร์ต USB-C ที่เป็นมาตรฐานสากล RAM ขนาด 8GB ที่รองรับการทำงานของ Apple Intelligence (ระบบประมวลผลอัจฉริยะของ Apple) และชิป A-series รุ่นใหม่ล่าสุด นับเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่จากรุ่นที่ 3 ที่ยังคงใช้ปุ่ม Touch ID พอร์ต Lightning และขอบจอหนา

ด้านราคาคาดว่าจะสูงกว่า iPhone SE รุ่นปัจจุบันที่เริ่มต้นที่ 429 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมาพร้อมฟีเจอร์ระดับพรีเมียมมากมาย อย่างไรก็ตาม iPhone SE ยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้

อ้างอิง | Macrumors.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
“Huawei Mate 20” และ “Mate 20 Pro” เตรียมเปิดตัวที่ลอนดอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ต.ค.
Google เปิดเผยเบื้องหลัง 5 เทรนด์ยอดนิยมบน YouTube
ชาวเน็ตตาดี๊ดี..เเอบเห็นภาพหลุด “Galaxy Z Fold 3” และ “Galaxy Watch 4 Classic” ในวิดีโอของ Samsung

Leave Your Reply

*