บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ Nothing ประกาศเปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ซึ่งเป็นคู่หูฟังที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านเสียงและความสะดวกสบายอย่างครบถ้วน

หูฟัง Nothing Ear มาพร้อมกับระบบเสียงที่มีความละเอียดสูง ไดรเวอร์เซรามิกแบบพรีเมียม 11 มม. ระบบเสียง Hi-Res 24 บิต พร้อมกับ LDAC & LHDC การตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะแบบแอ็กทีฟ 45 dB อีควอไลเซอร์ขั้นสูงพร้อมกับ EQ 8 แบนด์ ให้เสียงที่คมชัดและมีมิติ ด้วยเทคโนโลยีปรับแต่งเสียงอัตโนมัติแบบโค้งคามรา ทำให้ได้รับประสบการณ์การรับชมและรับฟังที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เพลง หรือเนื้อหามัลติมีเดียประเภทอื่นๆ สามารถ ฟังได้นานสูงสุด 40.5 ชั่วโมง

Ear จะตรวจสอบเสียงรั่วระหว่างหูฟังและช่องหูของคุณโดยอัตโนมัติ จากนั้นจะใช้การตัดเสียงรบกวนเพิ่มเติมเพื่อกำจัดเสียงเหล่านั้น คุณจึงได้รับการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด ซึ่งอุปกรณ์จะทำหน้าที่ทุกครั้งที่คุณใช้งาน

หลุดเข้าโลกของคุณ สลับระหว่างโหมดการตัดเสียงรบกวนถึง 3 ระดับ หรือให้ Ear (a) เป็นผู้ควบคุม เมื่อเลือก ‘ปรับเปลี่ยน’ ในแอป Nothing X แล้ว Ear (a) จะใช้ระดับการตัดเสียงรบกวนที่เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมของคุณแบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ คุณจึงไม่จำเป็นต้องทำด้วยตนเอง

ChatGPT, integrated ที่สุดฉลาดสอบถาม ฟัง และเรียนรู้จาก ChatGPT ขณะเดินทาง การบูรณาการที่เป็นหนึ่งเดียว ทำเพื่อระบบเครือข่าย Nothing ของคุณโดยเฉพาะ มีเฉพาะในหูฟัง Nothing เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ Nothing เท่านั้น มีให้บริการใน Phone (2) และจะเริ่มต้นใน Phone (1) และ Phone (2a) ผ่านการอัพเดทซอฟต์แวร์เร็ว ๆ นี้

ส่วนหูฟัง Nothing Ear (a) Ear (a) มาพร้อมกับการพัฒนาดีไซน์โปร่งใสแบบ Nothing ที่เป็นซิกเนเจอร์ แต่เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์สำหรับสายแฟชั่นด้วยดีไซน์ฟองอากาศโฉมใหม่ พร้อมพกพาติดกระเป๋าไปได้ทุกที่ และเคสสำหรับ Ear (a) ได้รับแรงบันดาลใจจากซองยาที่ใช้ในชีวิตประจำวันด้วยรูปทรงที่ยกขึ้นและรูปลักษณ์คล้ายฟองอากาศ

นั้นมีจุดเด่นที่ความสามารถในการใช้งานร่วมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT โดยผู้ใช้สามารถสั่งการผ่านคำสั่งเสียงเพื่อสนทนา ค้นหาข้อมูล หรือแม้แต่ให้ ChatGPT ช่วยในการเขียนเนื้อหาต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

คุณจึงสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ในห้องที่เงียบสงบไปจนถึงถนนที่พลุกพล่านได้โดยไม่ได้ยินเสียงรบกวนเลย (นอกเหนือจากเสียงเพลงที่กำลังเล่นอยู่)

หลุดเข้าโลกของคุณ สลับระหว่างโหมดการตัดเสียงรบกวนถึง 3 ระดับ หรือให้ Ear (a) เป็นผู้ควบคุม เมื่อเลือก ‘ปรับเปลี่ยน’ ในแอป Nothing X แล้ว Ear (a) จะใช้ระดับการตัดเสียงรบกวนที่เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมของคุณแบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ คุณจึงไม่จำเป็นต้องทำด้วยตนเอง

Ear (a) จะตรวจสอบเสียงรั่วระหว่างหูฟังและช่องหูของคุณโดยอัตโนมัติ จากนั้นจะใช้การตัดเสียงรบกวนเพิ่มเติมเพื่อกำจัดเสียงเหล่านั้น คุณจึงได้รับการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด ซึ่งอุปกรณ์จะทำหน้าที่ทุกครั้งที่คุณใช้งาน

ด้วยไดรเวอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทุกรายละเอียดช่วยมอบเสียงสูงที่ลึกยิ่งขึ้นและเสียงต่ำที่ให้ความรู้สึกเต็มอิ่มยิ่งขึ้น และยังเราทำได้จริงอย่างที่พูด เราได้เพิ่มพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ยิ่งขึ้น โดยไม่กระทบต่อเสียง คุณจึงสามารถฟังได้นานขึ้น

ChatGPT, integrated

สอบถาม ฟัง และเรียนรู้จาก ChatGPT ขณะเดินทาง การบูรณาการที่เป็นหนึ่งเดียว ทำเพื่อระบบเครือข่าย Nothing ของคุณโดยเฉพาะ มีเฉพาะในหูฟัง Nothing เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ Nothing เท่านั้น มีให้บริการใน Phone (2) และจะเริ่มต้นใน Phone (1) และ Phone (2a) ผ่านการอัพเดทซอฟต์แวร์เร็ว ๆ นี้

“เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอประสบการณ์การรับชมและรับฟังที่ยอดเยี่ยม พร้อมกับความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย” คาร์ล เพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nothing กล่าว “ทั้งหูฟัง Ear และ Ear (a) ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง”

ราคา และการวางจำหน่าย หูฟังทั้งสองรุ่นมีวางจำหน่ายแล้วสำหรับ Ear ในราคาเริ่มต้นที่ 5,599บาท สำหรับ Ear (a) เริ่มต้นที่ 3,799 รุ่นที่รองรับการใช้งานร่วมกับ ChatGPT ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ทั้งทางออนไลน์และร้านค้าปลีกชั้นนำ

Nothing Ear

รอบนี้ไม่มีเลขแล้วเพราะต้องการชื่อที่เรียบง่ายบอกว่าใหม่ก็ใหม่เลย เพราะหูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติดังนี้

• ขนาด Driver 11 มิลลิเมตร
• รองรับการเข้ารหัส LHDC 5.0 และ LDAC Codec
• เพิ่มฟีเจอร์ Smart ANC Algorithm
• Bluetooth 5.3
• ปรับเสียงได้แบบ Advance Equailzer
• ไมโครโฟนใหม่เสียงดีขึ้น
• ใช้งานได้นานสุด 40.5 ชั่วโมง
• รองรับชาร์จไฟแบบสายและไร้สาย
• รองรับกับคำสังเสียงและคุยกับ ChatGPT ของ Nothing ได้

อ้างอิง – Gsmarena.com