News

เปิดปีใหม่นี้ Kaspersky ชวนสะสาง “ขยะดิจิทัลสะสม” (Digital clutter)

ปีใหม่นี้ คุณอาจตั้งปณิธานในการเลิกทำสิ่งแย่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จัดการการเงินให้ดีขึ้น และอาจลองตรวจสอบสถานที่น่าเที่ยวสักสองสามแห่งแคสเปอร์สกี้ (Kaspersky)

บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มปณิธานด้านดิจิทัลที่ชาญฉลาดและใช้งานได้จริงลง ในรายการปี 2024เพื่อปกป้องข้อมูลอันมีค่าด้วยการขจัดขยะดิจิทัลของตน

“ขยะดิจิทัลสะสม” (Digital clutter) คืออะไร

ขยะดิจิทัลสะสม คือของเหลือที่เป็นผลพลอยได้จากยุคดิจิทัลเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้งานดีไวซ์ได้สร้างเอกสารและไฟล์ดิจิทัลในปริมาณที่ไม่อาจหยุดยั้งได้เช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตติดตั้งแอปจำนวนมากกว่าที่ใช้งานจริงไม่ค่อยได้อัปเดตแอป และมักจะไม่ปรับการตั้งค่าความปลอดภัย / ความเป็นส่วนตัวของแอปอย่างถูกต้อง ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้ใช้จะไม่กังวลเรื่องขีดจำกัดพื้นที่เก็บข้อมูลเฉยเมยเรื่องการตรวจสอบไฟล์และการอัปเดตแอป ตัวอย่างเช่น

โดยทั่วไปผู้ใช้จะติดตั้งแอปแอนดรอยด์ใหม่จำนวน 12 แอปทุกเดือน แต่ลบออกเพียง 10 แอป ดังนั้นจึงกลายเป็นการเพิ่มแอป 2 แอปในดีไวซ์ของตนทุกเดือน ซึ่งมักจะไม่ได้ใช้งานซึ่งหมายความว่าขยะดิจิทัลจะสะสมอยู่ในดีไวซ์หรือในระบบคลาวด์ตลอดไปซึ่งเราเรียกว่า “ขยะดิจิทัลสะสม”

การดูแลเนื้อหาในดีไวซ์ไม่ดียังก่อให้เกิดขยะดิจิทัลสะสมอีกด้วยข้อมูลของแคสเปอร์สกี้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ 55% จะแก้ไขเนื้อหาในดีไวซ์ของตนลบเอกสารและแอปที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำ ขณะที่ผู้ใช้ 32%จะจัดการขยะดิจิทัลเป็นครั้งคราว และผู้ใช้ 13%ไม่พยายามลบเอกสารและแอปใดๆ เลยด้วยซ้ำ

รายงานของแคสเปอร์สกี้ระบุว่าข้อมูลห้าอันดับแรกที่ผู้ใช้โดยทั่วไปจะจัดเก็บไว้ในดีไวซ์ ได้แก่ภาพถ่ายและวิดีโอทั่วไป (90%) ภาพถ่ายและวิดีโอการเดินทางและอีเมลส่วนตัว(เท่ากันที่ 89%) ข้อมูลที่อยู่ / ข้อมูลติดต่อ (84%) และข้อความส่วนตัวทาง SMS/IM (79%)

This image has an empty alt attribute; its file name is new-year-digital-cleanup-1024x673.jpg
“ขยะดิจิทัลสะสม” (Digital clutter)

การวิจัยที่แคสเปอร์สกี้ดำเนินการร่วมกับ OnePoll ในปี 2019 แสดงให้เห็นว่าตู้เย็นสามารถสื่อถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากพฤติกรรมของมนุษย์ได้โดยผู้ที่ซื้อสินค้าชนิดเดียวกันมาเก็บในตู้เย็นสองครั้งโดยบังเอิญจำนวน 2 ใน 3 คน(66%) จะทำงานค้นหาเอกสารหรือไฟล์ได้ยาก

ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2022 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2023 สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่ามีการยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์บนเว็บไซต์จำนวน 336,896 เรื่อง ก่อความเสียหายประมาณ 45.73พันล้านบาท เคสที่ได้รับการรายงานส่วนใหญ่ คือการหลอกให้ติดตั้งไดรเวอร์ระบบการกระทำต่อระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลหลอกให้เหยื่อลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ภัยคุกคามทางโทรศัพท์และการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยการฉ้อโกง

จากข้อมูลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 10 ธันวาคม 2023 ได้ทำการบล็อกหน้าเว็บผิดกฎหมาย 25,601 เว็บ รวมถึงการพนันกระทรวงยังได้กระตุ้นให้มีแนวทางปฏิบัติในการแก้ไขข้อมูลบุคคลที่รั่วไหลจากองค์กรและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงการซื้อข้อมูลในเว็บมืด นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC)และสำนักงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (NCSA) ได้ร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ผ่านการฝึกอบรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการ

ได้ร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเ บอร์ผ่านการฝึกอบรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการ

“ข้อมูลระบุว่ามีผู้คนเพียง 8% เท่านั้นที่บรรลุเป้าหมายปีใหม่ได้เนื่องจากส่วนมากจะขาดการควบคุมตนเอง ความเครียดที่มากเกินไปและอารมณ์เชิงลบต่างๆ ผมเห็นว่า การเริ่มต้นจากเล็กๆ น้อยๆ จนเป็นนิสัยการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ เพียงเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นจะช่วยปกป้องตัวคุณเองและข้อมูลของคุณได้อย่างมาก ขอให้มุ่งมั่นและที่สำคัญที่สุดคือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเพราะผู้เชี่ยวชาญมีทรัพยากรเครื่องมือและผู้คนมากมายที่ไว้วางใจได้สำหรับการสนับสนุนเพื่อช่วยให้คุณรักษาปณิธานนี้ได้” นายโยวกล่าวเสริม

แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งข้อเพื่อให้ปลอดภัยในโลกดิจิทัลในปีใหม่นี้

บอกลารหัสผ่าน

เราเห็นการปรับปรุงที่สำคัญอย่างหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายในปี 2022 นั่นคือ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Google และ Microsoftเปิดตัวการลงชื่อเข้าใช้แบบไร้รหัสผ่าน (passwordless sign-ins)แทนการใช้รหัสผ่านดีไวซ์ของคุณจะจัดเก็บคีย์การเข้ารหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องพิมพ์รหัสลงไปและทำให้ถูกขโมยยากมากคุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจนี้ได้เราขอแนะนำให้เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีนี้ในทุกที่ที่มีให้บริการเนื่องจากจะช่วยลดความเสี่ยงที่บัญชีของคุณจะถูกบุกรุก

นอกจากนี้ยังสะดวกเพราะคุณไม่จำเป็นต้องคิด จดจำ และป้อนรหัสผ่านอีกต่อไปในภายหลังเบราว์เซอร์ Chrome, Edge และ Safariก็รองรับเทคโนโลยีนี้ทั้งบนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปและมือถือ

ใช้แล้วทิ้ง

การรั่วไหลของข้อมูลยังคงเป็นหนึ่งในความเสี่ยงทางดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเราทุกคน ข้อมูลผู้ใช้ถูกขโมยจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต บริษัทประกันภัยบริการจัดส่ง โซเชียลเน็ตเวิร์ก และแม้แต่ฐานข้อมูลของโรงเรียนข้อมูลที่ถูกขโมยจะถูกนำมาใช้เพื่อกระทำการหลอกลวงต่างๆน่าเสียดายที่แท้จริงแล้วผู้ใช้สามารถทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อป้องกันการรั่วไหลได้แต่ก็มั่นใจได้ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับเราน้อย และทำให้จับคู่ได้ยาก

กล่าวคือการเปรียบเทียบชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ในฐานข้อมูลที่ถูกขโมยสองฐานข้อมูลจะไม่ทำให้ผู้โจมตีได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรามากขึ้นแคสเปอร์สกี้ขอแนะนำให้ผู้ใช้ให้ข้อมูลน้อยที่สุดแก่บริการที่ไม่สำคัญ(โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์และบริการดิจิทัลเชิงพาณิชย์)

โดยไม่ระบุนามสกุลหรือบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณและโดยทั่วไปแล้วให้ข้ามช่องที่ไม่บังคับและใช้อีเมลแอดเดรสและหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้แล้วทิ้งเป็นข้อมูลติดต่อบริการจำนวนมากมีหมายเลขโทรศัพท์ชั่วคราวสำหรับรับข้อความยืนยันเช่นเดียวกับที่อยู่อีเมลแบบใช้ครั้งเดียว เพียงแค่ลองค้นกูเกิ้ลว่า “หมายเลขโทรศัพท์ / อีเมลแอดเดรสแบบที่ใช้แล้วทิ้ง” บริการชำระเงินบางประเภทอาจมีหมายเลขบัตรเครดิตแบบใช้แล้วทิ้งซึ่งทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์ปลอดภัยยิ่งขึ้น

หลีกหนีจากโซเชียลมีเดียที่เป็นพิษ (toxic)

ปีแล้วปีเล่าเราเผชิญกับเหตุการณ์เชิงลบมากเกินไปบวกกับคลื่นแห่งความเกลียดชังบนโซเชียลมีเดียยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆหากโซเชียลมีเดียทำให้คุณรู้สึกกระวนกระวายใจในปีก่อนปีใหม่นี้ก็ถึงเวลาที่จะลด ละ เลิกเพื่อสิ่งที่ดีแคสเปอร์สกี้ได้รวบรวมเคล็ดลับในการเลิกใช้งานโซเชียลมีเดียโดยไม่สูญเสียข้อมูลอันมีค่า สำหรับผู้ใช้บางคนที่ไม่ต้องการเลิก แต่ต้องการย้ายไปยังแอปTelegram หรือ Mastodon แทน

หยุดไถฟีดเลื่อนดูความหายนะ

ผู้ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ข่าวอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงและใช้พลังงานไปกับความวิตกกังวลอย่างมาก ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับข่าวสารและโพสต์อย่างไม่สิ้นสุดให้กำหนดเวลาบนโทรศัพท์ของคุณสำหรับเครือข่ายโซเชียลและแอปข่าว เริ่มต้นด้วยหนึ่งชั่วโมงต่อวัน และพยายามทำต่อไป ผู้จำหน่ายหลายรายเสนอคุณสมบัตินี้ เช่น Apple มีฟีเจอร์ Screen Time สำหรับ Google ก็มี Digital Wellbeing และ Huawei เรียกว่า Digital Balance และหากบุตรหลานของคุณใช้เวลาบนโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเกินไป Kaspersky Safe Kids สามารถช่วยได้ผู้ใช้ที่มีแนวโน้มที่จะหลอกลวงตัวเองด้วยการชดเชยเวลาที่หายไปในดีไวซ์ของ
ตนควรเปิดใช้งานเครื่องมือควบคุมตนเองเพิ่มเติมในการตั้งค่าของเครือข่ายโซเชียล และแม้แต่ YouTube ก็มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Take a Break

แยกชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานออกจากกัน

การแยกงานและชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งที่ดีด้วยเหตุผลหลายประการ ช่วยทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพราะงานจะไม่รบกวนเวลาของครอบครัวและเพื่อนฝูง และเรื่องในบ้านก็จะไม่รบกวนคุณในช่วงเวลาทำงาน อีกทั้งนายจ้างของคุณก็ได้รับการปรับปรุงความปลอดภัยทางไซเบอร์ เนื่องจากพนักงานไม่ผสมผสานข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลงาน แอป และอื่นๆ ตามหลักการแล้ว การแยกกันควรเป็นแบบทางกายภาพ ซึ่งหมายความว่าควรใช้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันสำหรับการทำงานและชีวิตส่วนตัว สิ่งเดียวที่ต้องจำไว้คืออย่าใช้เว็บไซต์ส่วนตัว อีเมลและโซเชียลเน็ตเวิร์กบนดีไวซ์ที่ทำงาน และในทางกลับกัน อย่าใช้เว็บไซต์และอีเมลงานบนดีไวซ์ส่วนตัว

สังเกตสุขอนามัยทางไซเบอร์

ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ทุกเครื่อง ใช้รหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละเว็บไซต์ อัปเดตแอปและระบบปฏิบัติการทั้งหมดเป็นประจำ เคล็ดลับเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ผู้คนนับล้านยังคงเพิกเฉยต่อเคล็ดลับเหล่านี้ บ้างก็เพราะความไม่รู้และบ้างก็เพราะความเกียจคร้านคุณสามารถหลีกเลี่ยงความยุ่งยากทั้งหมดได้ด้วยการใช้โซลูชันที่ครอบคลุมอย่าง Kaspersky Premium เพื่อดูแลกิจวัตรทั้งหมด

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยของ Kaspersky Premium
สำหรับทั้งครอบครัวได้ที่ https://www.kaspersky.co.th/

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
วางธนูไปจูงมือครอบครัว! ‘ฮอว์คอาย’กับภารกิจคุณพ่อแสนอบอุ่น ของขวัญวันหยุดที่คุณไม่ควรพลาด
เปิดตัว Xiaomi 11 Lite 5G NE สีใหม่สุดพิเศษ Mint Green
คาดว่า “AirPods Pro 2” จะไม่มีฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจหรือเซ็นเซอร์อุณหภูมิร่างกาย

Leave Your Reply

*