กำลังจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในค่ำคืนนี้แล้วครับกับการประชุม Worldwide Developers Conference ประจำปีครั้งที่ 33 ของ Apple มีกำหนดจะเริ่มในวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน เวลา 10.00 น. เช่นเดียวกับงาน 2020 และ 2021 จะจัดขึ้นในรูปแบบดิจิทัลเท่านั้น ดังนั้นนักพัฒนาทุกคนทั่วโลกจึงเข้าร่วมได้ฟรี
ทั้งนี้อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในงานทางแอปเปิลจะทำการการอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่เป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึง iOS 16, iPadOS 16, macOS 13, tvOS 16 และ watchOS 9 รวมถึงมีข่าวลือว่าเราจะได้เห็นฮาร์ดแวร์ใหม่ ทุกสิ่งที่เราได้ยินเกี่ยวกับงานในปีนี้มีดังต่อไปนี้
เริ่มด้วยไฮไลท์ตัวแรก iOS 16
เริ่มต้นระบบปฏิบัติการบน iPhone ที่หลายคนรอคอยกันมานานมาก โดยมีการปรับเปลี่ยนจากข้อมูลหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้เยอะมากมายไม้ว่าจะเป็น
- การปรับปรุงหน้า Lock Screen ให้มี Widget ให้ดูดีมากขึ้น
- Messages จะสามารถรวมกับ Social Network ได้
- Apps Health จะมีการจับในเรื่องของการจับวัดมวลร่างกายและวัดเรื่องของสุขภาพพิเศษสำหรับคุณผู้หญิง
- เพิ่มรูปแบบของ Fitness+
- เพิ่มฟีเจอร์ Apple Music Classical
ต่อไปนี้คือลูกเล่นของท iOS 16 ที่จะเพิ่มใน iPhone 14
- เพิ่ม Always On Display เฉพาะในรุ่น iPhone 14 Pro / iPhone 14 Pro Max
- ออกแบบ Status Bar ให้รองรับกับหน้าจอที่พื้นที่เพิ่มขึ้นใน iPhone 14 Pro
- ฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
- มีระบบดาวเทียมแจ้งเตือนในการส่งข้อความและโทรออกได้ในจุดที่ไม่มีคลื่นสัญญาณมือถือ
- เพิ่มฟีเจอร์ Buy Now ใน Apple Pay
- อาจจะมีการให้บริการแบบเช่า Hardware หรือ Hardware Subscription Program
ต่อมาเป็น iPadOS 16
ต่อกันด้วยระบบปฏิบัติการสำหรับ Tablet ที่จะมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ให้ไปคล้ายกับคอมพิวเตอร์ Notebook มากขึ้น โดยคาดว่าจะเปลี่ยนการออกแบบของการทำงาน Multitasking ไม่ได้มีแต่เพียงแบบ Split View แบบเดิมอีกต่อไปสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นหน้าจอปรับขนาดของหน้าจอได้และสามารถทำได้ทุกอย่างคล้ายกับ macOS มากขึ้น
tvOS16
มาถึงระบบปฏิบัติการของ Apple TV คาดว่าจะมีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home ใหม่ได้แต่ที่เหลือนั้นยังไม่มีข่าวออกมาว่าจะปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง ต้องรอติดตามกันต่อไป
macOS 13
สำหรับระบบปฏิบัติการของ macOS เวอร์ชั่นต่อไปคือ 13 คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่การตั้งค่าที่ยกมาจาก iPhone / iPad มากขึ้น และมีการเปลี่ยนให้สามารถจัดการกับ Application ได้ดีมากขึ้น นอกจากนี้มีการปรับปรุงเช่น Messages, Mail, Safari และอื่นๆ อีกมากมายแถมกับเรื่องการเข้าถึง Social Network และ ปรับปรุงให้อ่านข้อความได้
ส่วนชื่อของ macOS 13 อาจจะมีชื่อว่า macOS Mammoth ซึ่ง Apple ได้จดทะเบียนไปก่อนหน้านี้ และพื้นที่ชื่อดังกล่าวอยู่ในแคลิฟอร์เนีย นั่นเอง
อัปเดตกันหน่อยสำหรับ watchOS 9
มาถึง Software ตัวสุดท้ายอย่าง watchOS9 จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น
- เพิ่มฟีเจอร์ประหยัดพลังงาน
- ปรับปรุงการจับเรื่องกิจกรรมประจำวันและสุขภาพ
- เพิ่มฟีเจอร์รูปแบบการออกกำลังกาย
- สามารถเพิ่มการบอกข้อมูลสำหรับการวิ่งให้มากขึ้น
- ปรับปรุงหน้าปัดนาฬิกาใหม่
- สามารถวัดในเรื่องของสภาพหัวใจห้องบนและมีภาระมากน้อยแค่ไหน
Hardware ที่อาจจะเปิดตัว ลุ้นหน่อยนะจะมาหรือไม่?
นอกจากเรื่อง Software ที่เล่าไปขั้นต้นแล้วในรอบนี้อาจจะมีการเผยโฉมของ Hardware ตัวใหม่เช่น
ตัวแรกเป็น MacBook Air รุ่นใหม่
ในที่สุดก็มีการปรับดีไซน์ให้คล้ายกับ MacBook Pro คือมันจะบางลงและเบาขึ้นหลากหลายสีเช่นสีเทา, เงิน, ฟ้า โดยมีขนาดหน้าจอ 13.6 นิ้ว
ส่วนชิปขุมพลังของ M2 ใหม่โดยคาดว่าจะมีฟีเจอร์เป็น M1 และพัฒนาให้มีแบบ 8 Core เร็วขึ้นจากเดิมพร้อมกับ Graphic Glass อยู่ที่ 10 GPU ในรุ่นสูงสุดจากเดิมแต่สำหรับใครรอชิปใหม่จาก TSMC N3 และ N4P จะมีขนาดเล็กและคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2023
ต่อมาเป็น Mac Pro
รุ่นล่าสุดมีการเปิดตัวเมื่อปี 2019 และโชว์ในงาน WWDC 2019 แต่ล่าสุดนี้ HJohn Ternus ได้ออกมายืนยันว่าจะได้เห็น Mac Pro ที่ใช้ชิป Apple Silicon ในปี 2022 แน่นอน โดยคาดว่าขุมพลังนั้นจะเป็น M1 Ultra ที่แรงกว่า Mac Studio (แบ่งเป็น 40 Core CPU และ 128 Core สำหรับ GPU แต่อาจจะมีการเปิด M1 Max เช่นเดียวกัน
แว่น AR / VR ของ Apple เขาต้องมาแล้วมั้ย?
สุดท้ายกับ Hardware เกี่ยวกับการเปลี่ยนโลกอย่าง AR/VR ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2022 แต่ทั้งนี้ในข่าวของงาน WWDC22 ที่ปรากฏไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างไร ซึ่ง Ming-Chi Kuo และ Mark Guman ต่างออกมายืนยันเสียงแข็งว่าเขายังไม่พรอ้มจะเปิดตัวหรอก แม้ว่าจะมีการจดทะเบียนเครื่องหมาย reality OS แล้วก็ตาม
สำหรับทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือไม่ต้องรอติดตามกันต่อไปเพราะคืนนี้ทุกอย่างจะเฉลยออกมาแล้วครับ
ที่มา – www.macrumors.com