
Apple กำลังพิจารณาขึ้นราคา iPhone 17 ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ โดยเน้นนำเสนอฟีเจอร์ใหม่และดีไซน์ที่ปรับปรุงแทนการอ้างเหตุผลเรื่องภาษีนำเข้า
ตามรายงานจาก The Wall Street Journal ระบุว่า Apple มีแผนที่จะปรับราคา iPhone 17 ให้สูงขึ้น โดยจะเน้นการนำเสนอคุณสมบัติใหม่และการออกแบบที่ปรับปรุงเพื่อเป็นเหตุผลในการขึ้นราคา แทนที่จะอ้างถึงภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ
แม้ว่าสหรัฐฯ และจีนได้ตกลงระงับภาษีนำเข้าส่วนใหญ่ที่เคยมีในช่วงสงครามการค้า แต่ยังคงมีภาษี 20% ที่ประธานาธิบดี Donald Trump กำหนดไว้สำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนด้วย
รายงานระบุว่า Apple มีความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงไม่ให้ดูเหมือนว่าการขึ้นราคามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับภาษีนำเข้า โดยแหล่งข่าวเผยว่าบริษัทคงจะมีปัญหาในการหาทางชดเชยต้นทุนจากภาษีจีนเพียงแค่การลดต้นทุนจากซัพพลายเออร์เท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรหากไม่สามารถขึ้นราคาได้
ผู้บริหารของบริษัทระมัดระวังในการอ้างว่าการขึ้นราคาเกิดจากภาษีนำเข้า หลังจากที่มีรายงานข่าวในเดือนเมษายนว่า Amazon อาจแสดงผลกระทบจากภาษีให้ลูกค้าเห็น ทำเนียบขาวเรียกว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร และ Amazon ก็รีบออกมาระบุว่าแนวคิดนี้ “ไม่เคยได้รับการอนุมัติและจะไม่เกิดขึ้น”
ท่ามกลางความกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน Apple ได้สร้างสต็อกสินค้าและย้ายการผลิตสำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยังอินเดีย Tim Cook ซีอีโอของ Apple ระบุเมื่อต้นเดือนนี้ว่า iPhone ส่วนใหญ่ที่ส่งไปยังสหรัฐฯ ในไตรมาสเมษายน-มิถุนายนจะมาจากอินเดีย
อย่างไรก็ตาม โรงงานในจีนจะยังคงรับผิดชอบการผลิตส่วนใหญ่สำหรับรุ่น Pro และ Pro Max ระดับไฮเอนด์ของ Apple เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานและความสามารถทางเทคนิคของอินเดียยังไม่เพียงพอสำหรับการผลิตจำนวนมากในระดับเดียวกับจีน
iPhone รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเรียกว่า iPhone 17 นั้น คาดว่าจะมีรุ่น iPhone 17 Air ที่บางเป็นพิเศษ ซึ่งจะมาแทนที่รุ่น Plus ในไลน์อัพของ Apple ปัจจุบัน iPhone มีราคาตั้งแต่ iPhone 16 รุ่นพื้นฐานที่ 799 ดอลลาร์ ไปจนถึง iPhone 16 Pro Max ที่ 1,199 ดอลลาร์
อ้างอิง | Macrumors.com