เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ถ่ายรูปแนวพอร์ตเทรตได้ออกมายอดเยี่ยม และสามารถสร้างกระแสได้อย่างต่อเนื่องสำหรับ vivo V Series จนกลายเป็นสมาร์ตโฟนถ่ายรูปสวยระดับต้น ๆ ที่เข้ามาอยู่กลางใจของหลายคนในตอนนี้

ล่าสุดวีโว่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมด้านการถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัว vivo V30 5G และ vivo V30 Pro 5G อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดล่าสุดใน V ซีรีส์นี้

vivo V Series รอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์และสมรรถนะที่โดดเด่น ซึ่งคาดว่าจะสร้างกระแสความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้บริโภคอีกครั้ง แน่นอนว่าเรามีโอกาสได้ทดสอบอีกเช่นเคยในบทความนี้เป็นคิวของ vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับสเปกแรงระดับพรีเมียม ดีไซน์สวยงาม และกล้องถ่ายภาพระดับชั้นนำ ที่มาพร้อมสโลแกน Portrait So Pro หรือ ถ่ายเทพเกินคน มาดูกันว่ารุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

สรุปสเปก vivo V30 Pro 5G

• ขนาดเครื่อง : 164.36 x 75.1 x 7.5 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก : 188 กรัม
• ขนาดหน้าจอ : จอโค้งขนาด 6.78 นิ้ว AMOLED  ความละเอียด 2800×1260 พิกเซล Refresh Rate 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 2,800nits
• CPU : MediaTek Dimensity 8200
• GPU : Mali-G610
• มาตรฐานกันน้ำ : IP54
• กล้องหน้า : ความละเอียด 50 MP + PDAF วิดีโอ 4K 60 FPS
• กล้องหลัง
  • ตัวหลัก : 50MP พร้อมกับระบบ PDAF + OIS Lens Zeiss
  • กล้องมุมกว้าง 50MP รองรับระบบ AF มุมกว้าง 119 องศา
  • กล้อง Portrait 50MP
  • LED Flash + Aura Lighting
  • ถ่ายวิดีโอ 4K 30FPS / 1080p 30FPS
• ระบบแสง Aura Light Portrait System 3.0  
• RAM : 12GB
• หน่วยความจำ : 256GB/512GB (ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM)
• การเชื่อมต่อ : 4G, 5G, Wi-Fi 6 Dual Band (2.4GHz, 5GHz), Bluetooth 5.3, GPS
• ระบบเสียง : ไมโครโฟนด้านล่างคู่ + ลำโพงหลักด้านล่าง รองรับระบบ Hi-Res Audio
• พอร์ต : USB-C 2.0
• ระบบปฏิบัติการ : FunTouch OS 14 + Android 14
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า / ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ
• แบตเตอรี่ : 5000mAh
• ระบบชาร์จไฟ : vivo FlashCharge 80W
• สีสัน : Shell White, Night Sky Black
• ราคา 19,999 บาท

เปิดกล่องของ vivo V30 Pro 5G ดีไซน์ใหม่สวย อุปกรณ์ครบ

เปิดกล่องมาเราจะพบกับตัวเครื่อง vivo V30 Pro 5G ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้กับเครื่องแล้ว และในกล่องจะแถมเคสพลาสติกมาให้พร้อม, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ vivo FlashCharge 80W รวมไปถึงที่ชาร์จสายชาร์จ USB Type A to Type C, เข็มจิ้มถาดซิม, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า

เอาเป็นว่า ของครบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้วล่ะ

ดีไซน์สวย เพรียวบาง น้ำหนักเบา ทันสมัยเทียบเรือธง

โดยสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีดีไซน์สวยงามด้วยวัสดุกระจกคุณภาพสูงและโลหะผสม สีสันทันสมัย ไร้รอยต่อ ให้ลุคพรีเมียมโดดเด่น ทั้งนี้ในรุ่น vivo V30 Pro 5G จะมีให้เราได้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือสีขาวมุก (Shell White) และสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) แต่สำหรับบทความนี้ให้เพื่อน ๆ ได้เห็นสีขาวมุก Shell White ที่พูดคำเดียวว่า สวยจึ้งไม่ผิดหวังจริงๆ แถมยังสะท้องยามต้องแสงเป็นสีฟ้าทำให้ดูมีชีวิตชีวา

มาต่อกันที่ส่วนของหน้าจอที่ออกแบบมาในลักษณะ 3D Curved จอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความละเอียดระดับ 1260 x 2800 พิกเซล อีกทั้งจอภาพยังสามารถปรับความสว่างเฉพาะจุดได้สูงสุด 2,800nits รองรับมาตรฐาน SGS Eye Care Display Protection และครอบด้วยจอกระจกแบบ Schott Alpha ปลอดภัยต่อสุขภาพดวงตา เรียบเนียนทุกการเลื่อนสัมผัส ตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดีเพราะมีระบบ Ultra Large Smart Cooling ช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้เสถียรและราบรื่น

vivo V30 Pro 5G มาพร้อมกับตัวเครื่องขนาด 164.36 × 75.1 × 7.45 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 188 กรัม วัสดุรอบตัวเครื่องเป็นพลาสติก บางเพียง 7.45 มิลลิเมตรเท่านั้น งานประกอบเนียบมากจับแล้วให้ความรู้สึกเท็กซ์เจอร์แน่นกระชับไม่ลื่นหลุดง่าย ทำให้ใช้งานได้ง่าย ยามหยิบจับ

ตัวด้านหน้าครอบทับด้านหน้าและหลังประกอบด้วยกระจก Fluorite AG ที่ทำให้เมื่อใช้งานไม่ต้องกังวลกับคราบและรอยนิ้วมือเพราะเท่าที่ได้ใช้งานมาสักระยะเครื่องเกิดรอยน้อยมาก

สำหรับสีที่เราได้มาทดสอบคือสีขาวมุก (Shell White) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเปลือกหอยธรรมชาติทำให้ฝาหลังมีลวดลายออกมาคล้าย ๆ ที่ผ่านการแกะสลักเส้นผ่านสัมผัสกว่า 13 ล้านเส้น Photolithography ผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า สะท้อนเป็นสีฟ้า ดูมีชีวิตชีวา

ส่วนสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) ก็ทำออกมาได้สวยงามไม่แพ้กัน สำหรับตัวเครื่องสีดำเท่าที่ได้ลองสัมผัสในงานวันเปิดตัวมาพร้อมความหรูหรา และดูพรีเมียมมาก ๆ ตัวเครื่องมาพร้อมประกายแวววาวราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวตอนกลางคืน

ด้านหลังตัวเครื่องมีโมดูลกล้องและโมดูลของ Aura Light ยื่นออกมานอกตัวเครื่อง เรียงอยู่ในกรอบมุมบนซ้ายมอง ทำให้ต้องระมัดระวังในการวาง อาจเป็นรอยเสียหายได้หากไม่ระวังในส่วนจุดนี้ และจุดที่ทำให้แยกออกระหว่างรุ่นปกติ และรุ่น Pro อีกจุดก็คือ โลโก้ ZEISS ที่อยู่ในกล้อง

ด้านบนตัวเครื่องที่สกรีนสโลแกน “PROFESSIONAL PORTRAIT” ที่บ่งบอกจุดขายสำคัญของรุ่นนี้ วางคู่กับไมค์โครโฟนตัดเสียงรบกวน

ขอบด้านล่างของตัวเครื่องเป็นตำแหน่งของช่องใส่ซิมการ์ด (ใช้งาน Nano-SIM และรองรับ 2 ซิมการ์ด),ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และช่องของลำโพง

ด้านซ้ายตัวเครื่องไร้ปุ่มควบคุมการใช้งานใดๆ ซึ่งจะเผยให้เห็นดีไซน์สุดบาง และสวยงามได้อย่างชัดเจน

ส่วนตัวเครื่องฝั่งขวาเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุม ที่ประกอบไปด้วยปุ่ม Power สำหรับล็อค-ปลดล็อค I เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง-ลดเสียง

และเราจะมาพิสูจน์ประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านต่างๆ ของ vivo V30 Pro 5G ในรีวิวครั้งนี้ …

ประสิทธิภาพการทำงาน หัวใจสำคัญของ vivo V30 Pro 5G

ในส่วนของสเปกก็ไม่น้อยหน้า vivo V30 Pro 5G มาพร้อมกับขุมพลังระดับแนวหน้าอย่าง MediaTek Dimensity 8200 ขนาด 4 นาโนเมตร ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้เร็วแรง ผนวกกับระบบประมวลผลสมาร์ท AI ทำให้สามารถรองรับการใช้งานหนักได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปหลายๆ ตัวพร้อมกันได้สูงสุดถึง 48 แอปพลิเคชัน หรือการเล่นเกมที่มาพร้อมกับกราฟิกสวยงาม ก็สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลขึ้น

vivo V30 Pro 5G มาพร้อมความจุ RAM 12GB และความจุ ROM 512GB ใช้ระบบปฏิบัติการ FuntouchOS 14 ครอบทับ Android 14 ทำให้การทำงานที่ไหลลื่น และใช้งานไม่ยากสำหรับคนที่ ยังไม่คุ้นชินปฏิบัติการ Android 14

หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า vivo V30 Pro 5G รันบนระบบปฏิบัติการ FunTouchOS 14 บนพื้นฐาน Android 14 มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ ช่วยให้การใช้งานต่างๆ สะดวกสบาย และปรับได้ตรงตามสไตล์ที่ผู้ใช้งานต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานลื่นไหล มอบความปลอดภัยให้ดีกว่าเดิม

ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่  ใช้งานได้ยาวนานด้วยชาร์จไว

vivo V30 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ถึง 5000mAh เพิ่มอายุการใช้งานขึ้น 2 เท่า อีกทั้งยังรองรับชาร์จไวแบบมีสาย 80W สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ภายใน 48 นาที ถือเป็นแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรุ่น เล่นเกมได้นานถึง 8 ชม. และฟังเพลงได้นานถึง 60 ชม. มีอายุแบตเตอรี่ยาวนานกว่า 4 ปี Battery Saver ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ไม่หวั่นแม้ต้องใช้งานเต็มที่ตลอดทั้งวัน

ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษ ด้วยระบบกระจายความร้อนอันชาญฉลาด ซึ่งทำให้สามารถปลดปล่อยพลังของชิปเซ็ตออกมาอย่างเต็มที่ ดังนั้นการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม, YouTube หรือไลฟ์สตรีม จึงมีความเสถียรให้ประสบการณ์ราบรื่นตลอดการใช้งาน ไม่ต้องเจอกับปัญหาเครื่องร้อนง่ายอีกต่อไป

พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 ทนทาน เพื่อความอุ่นใจ ลุยกับคุณได้ทุกกิจกรรม

IP54 ที่ช่วยให้สมาร์ตโฟนของคุณปลอดภัยไร้กังวลจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากนี้ ยังมีอัลกอริธึมที่อัปเกรดมาใหม่ช่วยให้การทำงานราบรื่นแม้ว่ามือของคุณเปียกน้ำก็ตาม

กล้องระดับมืออาชีพ มาตรฐานเลนส์ ZEISS คมชัด ทุกช็อต เพื่อภาพถ่ายชิ้นเอกที่ดีที่สุด

vivo V30 Pro 5G คือกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ เลนส์กล้องหลัก VCS True Color ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.88 (เซนเซอร์ Sony IMX920) มีระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS, เลนส์กล้องที่สอง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ2.0 (เซนเซอร์ Samsung ISOCELL JN1) ที่ถ่ายได้กว้าง 119 องศาในแนวนอน อีกทั้งรองรับการถ่ายวิดีโอคมชัดระดับ 4K ที่ 30fps และเลนส์กล้องที่สามถ่ายซูม แบบ Optical 2 เท่า ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัส 50 มม. (เซนเซอร์ Sony IMX816) มีระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS เช่นเดียวกัน

นอกจากไฮไลท์เลนส์ ZEISS ขั้นเทพที่อัพเกรดไปอีกระดับที่ให้ภาพสีสด เต็มรายละเอียด ถ่ายภาพกลางคืนได้แบบไม่มีแสงสะท้อน พร้อมสโลแกน “Photography Redefined” ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ ZEISS Style Portrait และ ZEISS Natural Color โดยมีให้เลือกใช้งาน 6 สไตล์ เป็นครั้งแรกของแบรนด์ด้วย ได้แก่ Biotar Style Bokeh, Sonnar Style Bokeh, Planar Style Bokeh, Distagon Style Bokeh, Cinematic Style Bokeh, และ Cine-flare Portrait และยังสามารถปรับสีสันต่าง ๆ ได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งสีสันได้ตามความต้องการ เพื่อให้ภาพถ่ายมีลุคที่โดดเด่นทั้งในสภาวะแสงกลางวันและกลางคืน

อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นแล้วว่า vivo V30 Pro 5G ได้รับการออกแบบร่วมกับ ZEISS บริษัทด้านการถ่ายภาพชื่อดังสัญชาติเยอรมัน พร้อมนำคุณสมบัติต่างๆ เช่น ZEISS Style Portrait หรือ ZEISS Natural Color มาไว้บนสมาร์ทโฟนด้วย ถือเป็นอีกตัวช่วยดี ๆ ในการสร้างสรรค์ ภาพสวยๆ ให้เรา

ขึ้นชื่อว่าได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ ZEISS แล้วนั้นความสามารถของ vivo V30 Pro 5G จึงยังมไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะในโหมดการถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกับ ZEISS Natural Color รูปแบบให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกันคือ สดใส | มีมิติ | ธรรมชาติ

ต่อกันด้วยความสามารถของกล้อง Ultra-Wide-Angle กล้องถ่ายภาพมุมกว้าง 119 องศา เก็บหมดทุกบรรยากาศ

ด้านกล้องเซลฟี่ที่มาพร้อมขนาด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.0 (เซนเซอร์ Samsung ISOCELL JN1) ทำให้สามารถรับแสงได้มากขึ้น 50% จากรุ่นก่อนหน้า พร้อมออโต้โฟกัสที่ให้เราได้ภาพที่คมชัด เก็บได้หมดไม่ต้องกลัวใครน้อยใจ ถ่ายเซลฟี่เล่นได้ทั้งวันแบบเพลินๆ แน่นอน

เทคโนโลยี Aura Light Portrait System 3.0 ที่ให้แสงนุ่มนวลยิ่งขึ้นสำหรับการถ่ายภาพบุคคลในสภาวะแสงน้อย

สำหรับในรุ่นนี้นั้นมาพร้อมดีไซน์ใหม่จากไฟออร่าทรงกลมมาเป็นทรงเหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และแบ่งแยกออกจากโมดูลกล้องโดยชัดเจน (ออร่าใหญ่ขึ้น 19 เท่า และแสงออร่านุ่มนวลขึ้น 50 เท่า)

ด้วยแสงออร่าแบบใหม่นั้นทำให้เราได้แสงออร่าที่สว่างและนุ่มนวลที่เหมาะสมกว่าเวอร์ชันก่อน ๆ ช่วยให้ใบหน้าสว่าง ช่วยให้ตัวแบบดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีความนุ่มนวลกว่าแฟลชปกติที่มักใช้กันในสภาวะแสงน้อย เราจึงไม่ต้องกลัวว่าถ่ายออกมาแล้วแสงจะแข็งกระด้าง

และนอกจากนี้ Aura Light Portrait 3.0 ยังมาพร้อม AI Powered Photography อัจฉริยะที่สามารถช่วยแนะนำการเปิดใช้ออร่าตามสภาพแวดล้อมได้ โดยเราสามารถปรับอุณหภูมิแสงอัตโนมัติตามสถานการณ์ หรือเลือกปรับเองตามความเหมาะสมก็ได้เช่นกัน

และต่อไปนี้คือตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย Aura Light Portrait 3.0 แบบอัตโนมัติในสภาวะแสงที่แตกต่างกันไป

ลูกเล่นต่อมาที่ทุกคนต้องหลงรัก สไตล์ ฟิลเตอร์ เอฟเฟ็กต์แสง และการใส่โบเก้ เริ่มกันที่การใส่โบเก้ลายต่างๆ

รวมไปถึงรองรับ Far / Near Lighting หรือฟีเจอร์ตรวจจับระยะห่างบุคคลแบบเรียลไทม์ ที่จะปรับความสว่างของไฟ ตามระยะห่างระหว่างกล้องและคนได้อีกด้วย

สุดท้ายต้องยกให้ Smart Color Temperature Adjustment การปรับแสงออร่าให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างอัฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นโทนอุ่นหรือโทนเย็นก็ทำให้เราได้ภาพที่ดูสว่างและคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ บอกเลยสาว ๆ ต้องหลงรักแน่นอน

Food photography เชิญทางนี้ … Aura Light Food Mode อีกหนึ่งโหมดดี ๆ สำหรับถ่ายภาพอาหารโดยเฉพาะ นอกจากนี้ Aura Light Food Mode แน่นอนว่าการได้ไฟออร่าเข้าช่วย ยังช่วยเน้นรายละเอียดของอาหาร เช่น รอยสันของเนื้อสัตว์ที่สุกได้ที่ หรือความละเอียดของผักและของแห้งต่าง ๆ คมชัดขึ้น ทำให้อาหารแต่ละจานโดดเด่นและกระตุ้นน้ำลายได้อย่างดี อีกทั้งยังเบลอฉากหลังแบบโบเก้ และปรับโทนสีให้โดยอัตโนมัติได้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ฟีเจอร์เลือกสีกรอบภาพอัตโนมัติ ที่จะช่วยให้การถ่ายและปรับแต่งรูปภาพสนุกสนานยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไต

ฟิลเตอร์ที่ให้มาในเครื่องก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ มีให้เลือกใช้งานมากมาย บอกเลยว่าสวยไม่แพ้ของจริง จะถ่ายอะไรก็สวยงามพร้อมให้คุณโพสต์ได้เลย

นอกจากลายน้ำสุดปังอย่าง ZEISS ที่มีมาให้แล้ว ครั้งนี้เขายังมีกรอบภาพอัตโนมัติ ให้ถ่ายภาพได้สนุกมากขึ้นด้วยและทำให้เราได้ภาพสวย ๆ ผสมผสานอารมณ์ของภาพและสีสัน ทำให้เข้ากันอย่างชาญฉลาด แบบที่ไม่ต้องไปผ่านแอปแต่งภาพอีกต่อไป

ส่วนชาว Vlog ที่เน้นการถ่ายวิดีโอ บอกเลยว่าต้องชอบใจกับ Micro Movie สำหรับใครที่ชอบถ่ายวิดีโอ Vlog หรือคอนเทนต์วิดีโอต่างๆ ด้วยสมาร์ตโฟน Vivo V30 Pro 5G น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคุณ เพราะในรุ่นนี้เขามีเทมเพลตถ่าย Vlog มาให้เราได้เป็นตัวเลือกใช้งานนตั้งแต่ในเครื่องเลย สะดวกและรวดเร็วด้วยการเลือกแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะความสามารถในการปรับแต่งภาพพอร์ตเทรต, หรือจะเป็นความสามารถในการแก้ไขวิดีโอ, ปรับปรุงโฟกัส,แสง, สกรินโทน ฯลฯ การใช้งานก็ง่าย ๆ ทำให้คุณสามารถปรับแต่งให้เข้ากับคอนเทนต์ของคุณ เช่น เพิ่มข้อความ, วิดีโอหรือภาพประกอบ, ปรับโทนสี ฯลฯ ก็สามารถสร้างผลงานคอนเทนต์มืออาชีพได้ง่ายๆ แล้ว

สำหรับคนรักการถ่ายภาพและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ Aura Light 3.0 ที่มาใน vivo V30 Pro 5G รุ่นใหม่นี้ จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายและวิดีโอให้ดูโดดเด่น มีสีสัน และดูมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

ส่งท้ายกันด้วยตัวอย่างรูปถ่ายจากโหมดอัตโนมัติ

[ เล่าเท่าที่เล่น I vivo V30 Pro 5G ไว้ใจได้เรื่องภาพสวย]

vivo V30 Pro 5G เป็นอีกรุ่นที่ว้าวกว่าที่คิดนอกจากมาพร้อมดีไซน์สวยล้ำและให้การสัมผัสที่เกิดราคา ควงคู่มาพร้อมกับเลนส์ ZEISS ถือว่าเป็นเรื่องทีดีมาก ๆ หากให้บอกกันตรง ๆ รุ่นนี้คือจัดหนักมาสำหรับคนชอบถ่ายภาพจริง ๆ และจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ระบบกล้องถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอระดับพรีเมี่ยม ยิ่งเป็นภาพถ่ายคนรุ่นนี้ทำออกมาได้สุดอยู่

โดยรวมแล้ว vivo V30 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่เหมาะสำหรับคนรักการถ่ายภาพ, สร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง หรือใช้งานด้านความบันเทิงระดับมืออาชีพ ด้วยสเปกเครื่องและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เหล่านั้นได้อย่างครบครัน พร้อมดีไซน์สวยงาม หรูหรา จึงนับว่าคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของเป็นอย่างยิ่ง

นี้ยังไม่นับความเจ๋งของจอแสดงผลขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260p อัตรารีเฟรช 120 Hz และความสว่างสูงสุด 2,800 nits ช่วยให้การไถฟีดโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, Twitter หรือ TikTok ก็ไม่มีปัญหา รวมไปถึงกิจกรรมยาวว่างอย่างการเล่นเกม, ดูซีรีส์ นั้นก็ให้ผลที่คมชัด ลื่นไหลสบายตาแม้จะมองเป็นเวลานาน ๆ

อ่านมาถึงตรงนี้ต้องบอกเลยว่า ใครที่มีงบจำกัดแต่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบครัน ในราคาไม่เกินสองหมื่น ผมว่า vivo V30 Pro 5G คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์คุณได้ในตอนนี้

ราคา vivo V30 Pro 5G 

vivo V30 Pro 5G มาพร้อมความจุ 12/512GB มี 2 สีให้เลือกใช้งานได้แก่ Shell White และ Night Sky Black โดยวางจำหน่ายที่ราคา 19,999 บาท ใครที่สนใจสามารถตามไปซื้อได้ที่ vivo Official Shop ของ Shopee และ Lazada, เครือข่ายมือถือทุกเจ้า และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้เลย !