สืบเนื่องจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ภายหลังการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุดในจังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งพบประวัติการใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab ในช่วงที่ผ่านมานั้น แกร็บ ประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ รวมถึงสิ่งที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการในทันทีภายหลังรับทราบข้อมูล ดังนี้

บริษัทฯ ได้ติดต่อประสานงานกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นับตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 โดยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางย้อนหลังเพื่อระบุตัวตนของพาร์ทเนอร์คนขับ รวมถึงผู้ใช้บริการทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะนี้พาร์ทเนอร์คนขับที่ได้ให้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวได้รับการติดต่อจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการแล้ว ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการระงับสัญญาณการให้บริการเป็นการชั่วคราวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับกรมอนามัย นำหลักปฏิบัติและมาตรการต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขมาใช้เป็นแนวทางในการดูแลสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์คนขับ ทั้งยังส่งเสริมให้ทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและผู้โดยสารสวมหน้ากากทุกครั้งในระหว่างการเดินทาง

โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ หากผู้โดยสารพบว่าพาร์ทเนอร์คนขับ “ไม่สวมหน้ากาก” หรือ “มีอาการป่วยหรือไม่สบาย” สามารถยกเลิกบริการได้ทันทีโดยไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก

ในขณะเดียวกันพาร์ทเนอร์คนขับก็สามารถยกเลิกการรับงานได้เช่นกันหากพบว่าผู้โดยสารไม่สวมหน้ากากหรือมีอาการป่วย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับทั้งสองฝ่าย

บริษัทฯ ยังคงให้บริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Grab ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น บริการเรียกรถ บริการจัดส่งอาหาร (GrabFood) บริการจัดส่งสินค้าและพัสดุ (GrabExpress) ตลอดจนบริการทางการเงิน และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์

Grab

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญสูงสุดกับสุขภาพและความปลอดภัยพาร์ทเนอร์คนขับ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ผู้ใช้บริการ ตลอดจนพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจ โดยนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและได้ประกาศใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งยังได้ประสานความร่วมมือกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาโดยตลอด อาทิ

  • การแจกหน้ากากอนามัยและเจลฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ
  • การร่วมมือกับสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค จัดกิจกรรมตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุกสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ
  • การพัฒนาระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยผ่านแอปพลิเคชัน โดยให้พาร์ทเนอร์คนขับทุกคนต้องประเมินเพื่อยืนยันว่าไม่มีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 รวมถึงต้องปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยที่แกร็บกำหนดอย่างเคร่งครัดก่อนการให้บริการในทุกวัน
  • การให้พาร์ทเนอร์คนขับถ่ายภาพเซลฟี่ของตนเองขณะสวมใส่หน้ากาก พร้อมอัปโหลดภาพผ่านระบบเพื่อยืนยันก่อนการรับงาน
  • การประกาศใช้มาตรการจัดส่งอาหาร-พัสดุแบบไร้การสัมผัส รวมถึงการกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการหันมาชำระค่าใช้บริการโดยหลีกเลี่ยงการใช้เงินสด

ข่าวประชาสัมพันธ์

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
AIS 5G กางแผน “มาตรการพารอด” ร่วมเซฟร้านเล็กฝ่าวิกฤตด้วย แอปฯ “เอไอเอส พารวย”
ลาซาด้า ส่งฟีเจอร์ใหม่ “Daily Cashback ช้อปวันไหนก็ได้เงินคืน” ให้นักช้อปใช้ง่าย หายห่วง
รพ. วิมุต จับเทรนด์ จุลชีพ มาแรง ร่วมมือ AMILI สิงคโปร์ ส่งนวัตกรรมสร้างสมดุล ไมโครไบโอมในระบบทางเดินอาหาร

Leave Your Reply

*