หัวเว่ยประกาศผลประกอบการธุรกิจช่วงครึ่งแรกของปี 2563 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ทางบริษัทสร้างรายได้รวม 4.54 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.07 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบปีต่อปี อัตรากำไรสุทธิ (NPM) อยู่ที่ร้อยละ 9.2

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจแคร์ริเออร์, กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ และกลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ของหัวเว่ย มีรายได้ 1.596 แสนล้านหยวน (เกือบ 7.29 แสนล้านบาทโดยประมาณ), 3.63 หมื่นล้านหยวน (เกือบ 1.66 แสนล้านบาทโดยประมาณ) และ 2.558 แสนล้านหยวน (เกือบ 1.17 ล้านล้านบาทโดยประมาณ) ตามลำดับ

สืบเนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) จึงไม่เพียงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนเครื่องยนต์ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เน้นย้ำถึงจุดยืนในการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและพาร์ทเนอร์ในแวดวงอุตสาหรรมเดียวกัน เพื่อรักษามาตรฐานการบริหารจัดการเครือข่ายให้มีเสถียรภาพ เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และสนับสนุนการควบคุมการแพร่ระบาดในระดับประเทศ รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ด้วยปัจจัยภายนอกที่ซับซ้อนส่งผลให้เกิดความร่วมมือแบบเปิดกว้างและก่อให้เกิดเชื่อมั่นต่อห่วงโซ่แห่งคุณค่า (value chains) ในระดับโลกมากกว่าครั้งไหนๆ หัวเว่ยให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าปฏิบัติตามพันธกิจที่มีต่อลูกค้าและซัพพลายเออร์ รวมทั้งจะยืนหยัดต่อสู้ ขับเคลื่อนไปข้างหน้า และอุทิศตนให้กับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก ไม่ว่าบริษัทจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายใดๆ ในอนาคตก็ตาม

*หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินหยวนอ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 1 บาท เท่ากับ 4.566 หยวน

ข่าวประชาสัมพันธ์

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
GoPro เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบไม่จำกัดให้กับสมาชิกโกโปรพลัส
เสียวหมี่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ เปิดศูนย์การวิจัยและพัฒนาในเมืองตัมเปเร ประเทศฟินแลนด์
New Nokia 2.1 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย เพียงแค่ 3,390 บาท

Leave Your Reply

*