
Huawei บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากจีนประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ “โหมดวีลแชร์” (Wheelchair Mode) บนระบบ Active Ring ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เพื่อยกระดับประสบการณ์การออกกำลังกายและติดตามสุขภาพสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ทั่วโลก
จู ผิง ประธานฝ่ายการตลาดและการให้บริการด้านการขายของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า ทีมพัฒนาของ Huawei ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับแรงบันดาลใจจากมาจิด ราเชด ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งเอเชีย ในการพัฒนาฟีเจอร์นี้ขึ้นมา ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการเข้าถึง (Accessibility) บนอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ
จู อธิบายว่า หลังจากศึกษารูปแบบการเคลื่อนไหวและความต้องการด้านการออกกำลังกายของผู้ใช้วีลแชร์อย่างละเอียด ทีมงานจึงพัฒนา Wheelchair Mode ขึ้นมาเพื่อบันทึกจำนวนการผลักรถเข็น ระยะเวลาออกกำลังกาย และการเผาผลาญแคลอรี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามสุขภาพได้แม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมระบบแจ้งเตือนกิจกรรมเพื่อดูแลสุขภาพประจำวันอย่างครบวงจร
การเปิดตัวฟีเจอร์นี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ “เทคโนโลยีเพื่อทุกคน” ของ Huawei ที่มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่ม ปัจจุบัน Huawei มียอดจัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ทั่วโลกสะสมทะลุ 200 ล้านเครื่อง และครองอันดับหนึ่งของโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่เติบโตต่อเนื่องในกว่า 20 ประเทศ
นักวิเคราะห์ตลาดมองว่า ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงศักยภาพของ Huawei ในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและการขยายตลาดเชิงรุกทั่วโลก โดยในรายงาน Kantar BrandZ Top 100 Global Brands 2025 บริษัทขยับอันดับขึ้นมาอยู่ที่ 39 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2024
“การเติบโตของ Huawei มาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลก แม้ต้องเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่เสียงตอบรับของตลาดยังคงแข็งแกร่ง เราเห็นผู้ใช้บางรายยังคงเก็บโทรศัพท์ Huawei ที่ใช้นานกว่า 6 ปีไว้อย่างภาคภูมิ นั่นคือแรงบันดาลใจของเรา” จู กล่าว
แนวทางนวัตกรรมของ Huawei เริ่มต้นจากประสบการณ์จริงของผู้ใช้ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนพับได้สามทบ เทคโนโลยีการถ่ายภาพบนมือถือที่ล้ำสมัย ไปจนถึง MatePad สำหรับการเรียนรู้ และ FreeClip หูฟังไร้สายดีไซน์เบาแบบคล้องหู ที่ตอบโจทย์ความคาดหวังที่หลากหลายของผู้บริโภคทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
บริษัทเดินหน้าสร้างระบบนิเวศอุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพและการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักในการเสริมความแข็งแกร่งและขยายตลาดทั่วโลก โดยมีการจัดกิจกรรม Active Rings ต่อเนื่องในเมืองใหญ่ทั้งปารีส อิสตันบูล ดูไบ เม็กซิโกซิตี้ และกัวลาลัมเปอร์ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์กับผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคและสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าถึงง่าย
นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Huawei Health ยังเปิดข้อมูลกว่า 70 ประเภทให้พันธมิตรใช้วิเคราะห์สุขภาพทางกายและจิตใจ พร้อมร่วมมือกับกว่า 150 สถาบันวิจัยทั่วโลก เช่น ห้องแล็บสุขภาพที่เฮลซิงกิ ซึ่งมีเครื่องจำลองสกีและสโนว์บอร์ดเพื่อเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวอย่างละเอียด
ในด้านบริการลูกค้า Huawei ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความใส่ใจ โดยมีศูนย์บริการกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก วิศวกรบริการกว่า 1,800 คน และเครือข่ายออนไลน์ที่รองรับมากกว่า 30 ภาษา พร้อมแคมเปญ “5-Free Services” เพื่อยกระดับประสบการณ์หลังการขาย
Huawei จะยังคงเดินหน้าเคียงข้างผู้ใช้ทั่วโลก เติบโตไปพร้อมกับชุมชนท้องถิ่น และส่งต่อความรุ่งเรืองสู่หลากหลายวัฒนธรรม พร้อมตอกย้ำแนวคิดแบรนด์ “Now is Yours” ที่ตั้งใจเชื่อมโยงมนุษย์และเทคโนโลยีด้วยความจริงใจและวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้าง เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างประสบการณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
จู กล่าวปิดท้ายว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคือสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดของบริษัท และแนวคิดการยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางจะยังคงเป็นคุณค่าหลักในระยะยาว ผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการให้แบรนด์เข้าใจความรู้สึกอย่างแท้จริง ดังนั้น Huawei จึงตั้งใจสื่อสารกับพวกเขาอย่างเปิดเผยและจริงใจ พร้อมสร้างสายสัมพันธ์ข้ามภูมิภาคและวัฒนธรรมด้วยท่าทีที่อบอุ่นและเปิดกว้าง เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้ร่วมแบ่งปันความสุขจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี