
สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลพกพาที่ใช้งานได้กับทุกเครื่อง Kingston Dual Portable SSD ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์สุดๆ

ด้วยจุดเด่นที่โดดเด่นคือพอร์ตคู่ทั้ง USB Type-A และUSB-C ในตัวเดียวไม่ต้องพกสายแปลงหรือหัวต่อให้ยุ่งยากใช้งานได้ทันทีกับทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปพีซีสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต
นอกจากความสะดวกในการเชื่อมต่อแล้วประสิทธิภาพก็ไม่เบาด้วยมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ให้ความเร็วสูงถึง 1,050MB/s สำหรับการอ่านข้อมูลและ 950MB/s สำหรับการเขียนไฟล์ภาพถ่ายความละเอียดสูงวิดีโอ 4K หรือไฟล์งานขนาดใหญ่ล้วนย้ายได้รวดเร็วทันใจพร้อมความจุให้เลือก 3 แบบคือ 512GB, 1TB และ 2TB ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
รูปลักษณ์ภายนอก: เพรียวบางพอดีมือพกพาสะดวก
ดีไซน์ของ Kingston Dual Portable SSD โดนใจตั้งแต่แรกเห็นรูปทรงเพรียวบางคล้ายแฟลชไดรฟ์แต่เคสภายนอกทำจากโลหะผสมพลาสติกให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานขนาดเพียง 71.85 x 21.1 x 8.6 มิลลิเมตรน้ำหนักเบาแค่ 13 กรัมพกพาง่ายใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงก็พอดี

ที่เจ๋งคือไม่ต้องพกสายเคเบิลติดตัวอีกต่อไปเพราะตัวเครื่องมีพอร์ตคู่ USB-A และUSB-C ในตัวเดียวเสียบใช้งานได้ทันทีทั้งกับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ใช้พอร์ต USB-A และสมาร์ตโฟนหรือแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่ใช้พอร์ต USB-C ความยืดหยุ่นแบบนี้ทำให้ใช้งานได้จริงในทุกสถานการณ์
สเปคเบื้องต้น: ครบครันทุกรายละเอียด
เจาะลึกสเปคของ Kingston Dual Portable SSD จะเห็นว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลายระดับอินเตอร์เฟซคู่ USB Type-A และ USB Type-C ทำงานบนมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียนสูงสุด 950MB/s ถือว่าเร็วมากในระดับ SSD พกพา
หน่วยความจำใช้เทคโนโลยี 3D NAND ที่มั่นคงทนทานความจุให้เลือก 3 แบบตั้งแต่ 512GB สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป, 1TB สำหรับคนเก็บไฟล์เยอะ, ไปจนถึง 2TB สำหรับมืออาชีพอย่างช่างภาพวิดีโอกราฟเฟอร์หรือคนทำคอนเทนต์ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บจุใจ

ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีใช้งานได้ที่อุณหภูมิ 0-60°C และเก็บรักษาได้ที่ -20 ถึง 85°C ที่สำคัญมาพร้อมการรับประกัน5 ปีพร้อมบริการทางเทคนิคฟรีสะท้อนความมั่นใจในคุณภาพจาก Kingston ส่วนเรื่องความเข้ากันได้ครอบคลุมครบทุกระบบทั้ง Windows 11, macOS, Linux, Chrome OS, Android และiOS/iPadOS ใช้งานได้กับสมาร์ตโฟนทั้ง Android และ iOS (บางรุ่นอาจต้องใช้อะแดปเตอร์ OTG เพิ่มเติม)
เมนูและฟังก์ชันการใช้งาน: ง่ายดายไม่ซับซ้อน
ใช้งาน Kingston Dual Portable SSD ง่ายสุดๆแค่เสียบเข้ากับพอร์ตบนอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟนระบบก็จะรู้จักทันทีพร้อมใช้งานไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมหรือไดร์เวอร์ใดๆ

ฟังก์ชันหลักคือการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้รวดเร็วเช่นถ่ายรูปด้วยสมาร์ตโฟนทั้งวันแล้วต้องการย้ายไปเก็บในคอมพิวเตอร์ก็แค่เสียบ SSD เข้ากับสมาร์ตโฟนผ่าน USB-C คัดลอกไฟล์จากนั้นเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านUSB-A ได้เลยไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตหรือคลาวด์
การสำรองข้อมูลก็เป็นเรื่องง่ายไม่ว่าจะเป็นเอกสารสำคัญโปรเจ็กต์งานภาพถ่ายความทรงจำหรือวิดีโอคอนเทนต์ด้วยความจุสูงสุด 2TB และความเร็วที่รวดเร็วการสำรองข้อมูลจึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

สำหรับผู้ทำงานไฟล์หนักเช่นวิดีโอ 4K หรือโปรเจ็กต์กราฟิกสามารถใช้เป็นพื้นที่ทำงานชั่วคราวได้ความเร็วอ่าน-เขียนที่สูงทำให้เปิดไฟล์และบันทึกงานรวดเร็วไม่กระตุกส่วนการแชร์ไฟล์ระหว่างเครื่องก็ง่ายดายแค่คัดลอกใส่ SSD แล้วส่งต่อให้คนอื่นเสียบใช้งานได้ทันทีไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตหรือแอปใดๆ
ราคาและช่องทางจำหน่าย
Kingston Dual Portable SSD วางจำหน่ายแล้ววันนี้โดยมีให้เลือก 3 ความจุตามการใช้งานได้แก่รุ่นความจุ 512GB ราคา2 ,490 บาทเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป, รุ่นความจุ 1TB ราคา 3,690 บาทซึ่งเป็นรุ่นที่เราได้ทดลองใช้งานในบทความนี้ให้ความจุที่พอดีสำหรับคนที่ต้องเก็บไฟล์จำนวนมาก, และรุ่นความจุ 2TB ราคา 5,960 บาทสำหรับมืออาชีพที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บสูงสุด
สรุปหลังได้ทดสอบ
Kingston Dual Portable SSD เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกคนที่ต้องการโซลูชันจัดเก็บข้อมูลพกพาที่ใช้งานได้จริงครอบคลุมทุกอุปกรณ์ตั้งแต่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปไปจนถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตดีไซน์กะทัดรัดเบาความเร็วสูงความจุเพียงพอทำให้เป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดตัวไว้

เมื่อเทียบราคากับฟีเจอร์ที่ได้รับรวมถึงการรับประกัน 5 ปีถือว่าคุ้มค่ามากโดยเฉพาะรุ่นความจุ 1TB ที่ราคา 3,690 บาทให้ทั้งประสิทธิภาพและความจุที่เหมาะสมที่สุดสนใจเพิ่มเติมตรวจสอบได้ที่ kingston.com หรือติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook และ YouTube ของ Kingston Thailand