News PR

หัวเว่ยผนึกกระทรวงพาณิชย์ พัฒนา MOC Plus ด้วย AI-Cloud ยกระดับบริการภาครัฐไทย

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลจี่ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม MOC Plus ด้วยเทคโนโลยี AI และ Cloud เพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพฯ กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศเจตจำนงความร่วมมือกับพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ประกอบด้วย Huawei, Google, Amazon Web Services และ Microsoft เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และ Cloud ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม MOC Plus ให้ก้าวสู่การเป็นระบบรัฐบาลดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการบริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โปร่งใสยิ่งขึ้น และเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า MOC Plus เป็นส่วนสำคัญของนโยบาย Quick Big Win ที่มุ่งยกระดับภาครัฐด้วยนวัตกรรม AI และ Cloud เพื่อลดภาระประชาชน เพิ่มความโปร่งใส และปรับขั้นตอนราชการให้ทันสมัย การร่วมมือกับหัวเว่ยและพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลกในครั้งนี้ จะเร่งให้การเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลของไทยเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ดร. ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลจี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเว่ยมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐของไทย ผ่านความเชี่ยวชาญด้าน AI และ Cloud โดยมุ่งสนับสนุนกระทรวงพาณิชย์ในการสร้างแพลตฟอร์มบริการภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลที่ก้าวหน้าของประเทศไทย

ภายใต้กรอบความร่วมมือครั้งนี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลจี่ (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งเสริมขีดความสามารถให้กับกระทรวงพาณิชย์ใน 4 ด้านหลัก โดยด้านแรกคือการพัฒนาโมเดล AI สำหรับระบบ Call Center อัจฉริยะ ซึ่ง AI ของหัวเว่ยจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตอบข้อซักถามได้รวดเร็ว แม่นยำ และรองรับการใช้งานปริมาณมาก ลดการทำงานซ้ำซ้อนและเพิ่มคุณภาพการให้บริการ

ด้านที่สองคือการประเมินความพร้อมด้าน AI และ Cloud ของทุกกรมในกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนการยกร่าง Digital Transformation Roadmap หรือแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ในขณะที่ด้านที่สามเน้นการยกระดับทักษะบุคลากรภาครัฐด้วยการอบรมเทคโนโลยี AI และ Cloud ครอบคลุมหลักสูตรด้านคลาวด์ ด้านข้อมูล และการใช้งาน AI ในงานบริการสาธารณะ และด้านสุดท้ายคือการพัฒนาเครื่องมือและระบบต้นแบบด้าน AI เช่น Chatbot ผู้ช่วยอัจฉริยะ และระบบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสนับสนุนงานบริการประชาชนและงานภายในกระทรวง

ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มใช้งาน AI ใน 3 หน่วยงานหลัก โดยหัวเว่ยมีส่วนสำคัญในการผลักดันโครงสร้างพื้นฐาน AI-Cloud ให้รองรับการใช้งานจริง หน่วยงานแรกคือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งใช้ AI วิเคราะห์และตรวจจับนอมินีหรือบุคคลที่ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติผ่านระบบ Risk Score Card หน่วยงานที่สองคือกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีระบบ Chatbot AI ช่วยตอบคำถามด้านทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานสุดท้ายคือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีการใช้ AI ผู้ช่วยด้านข้อมูลการค้าระหว่างประเทศสำหรับผู้ประกอบการ SMEs หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

แพลตฟอร์ม MOC Plus จะช่วยให้ทุกกรมภายใต้กระทรวงพาณิชย์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน ลดความผิดพลาด และสร้างประสบการณ์บริการที่ดีขึ้นให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เผยว่า หนึ่งในความก้าวหน้าที่ชัดเจนคือการนำ AI ผู้ช่วยอัจฉริยะมาเสริมศักยภาพ Call Center ของทุกกรม ทำให้การตอบคำถามรวดเร็ว แม่นยำ และลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ลงอย่างมาก

ดร. ชวพล จริยาวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและกระทรวงพาณิชย์ในครั้งนี้ เป็นการยืนยันถึงบทบาทของหัวเว่ยในฐานะพันธมิตรสำคัญด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย ที่พร้อมผลักดันภาครัฐสู่การใช้ประโยชน์จาก AI และ Cloud อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการเข้าถึงบริการที่ทันสมัย โปร่งใส และยั่งยืน

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
ไมโครซอฟท์ตั้งศูนย์ข้อมูลเขตใหม่ในอินโดนีเซีย ภายใต้โครงการ Berdayakan Ekonomi Digital Indonesia
“iQOO 13 5G” เปิดตัวในไทย จัดเต็มชิป Snapdragon 8 Elite พร้อมแบตฯ 6,150mAh ราคาเริ่ม 27,900 บาท
อยู่บ้านไม่มีคำว่าเบื่อ! ให้การอยู่บ้านมีแต่ความสนุก กับคอนเทนต์แบบจัดเต็มบนซัมซุงทีวี

Leave Your Reply

*