ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับ iPhone 17 รุ่นใหม่ หึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงวัสดุกรอบเครื่อง โดยมีรายงานว่า Apple อาจยกเลิกการใช้ไทเทเนียมใน iPhone 17 Pro และ Pro Max กลับไปใช้อลูมิเนียมแทน
Mark Gurman จาก Bloomberg เขียนว่า “การเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกประการหนึ่งในการออกแบบ iPhone 17 Pro และ 17 Pro Max จะเป็นการย้อนกลับ คือการกลับไปใช้กรอบอลูมิเนียมหลังจากเปลี่ยนมาใช้ไทเทเนียมในปี 2023 กับ iPhone 15 Pro อลูมิเนียมมีน้ำหนักเบากว่าและระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีสำหรับผู้ที่ใช้ iPhone 15 Pro หรือ 16 Pro“
แม้ว่าจะทราบมานานแล้วว่าอลูมิเนียมจะมาแทนที่ไทเทเนียมในรุ่น iPhone 17 Pro แต่ไม่เคยมีความชัดเจนว่าทำไม Apple เปิดตัวไทเทเนียมเมื่อสองปีที่แล้วกับ iPhone 15 Pro และนำเสนอเป็นฟีเจอร์พรีเมียม
อย่างไรก็ตาม iPhone 15 Pro ประสบปัญหาความร้อนสูงในบางสถานการณ์ แม้ว่า Apple จะปรับปรุงการจัดการความร้อนใน iPhone 16 Pro แล้ว แต่ปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
Gurman เน้นย้ำถึงประโยชน์สองประการหลักของการเลือกใช้อลูมิเนียมในปีนี้ คือน้ำหนักและการระบายความร้อน จากข่าวลืออื่นๆ จึงเห็นได้ง่ายว่าทำไมประโยชน์เหล่านี้จึงสำคัญ
เรื่องน้ำหนัก รุ่น 17 Pro ทั้งสองต้องแข่งขันกับ iPhone 17 Air ที่บางเฉียบและเบาในปีนี้ ยิ่ง Apple สามารถลดน้ำหนักของสาย Pro ได้มากเท่าไร ก็จะช่วยลดช่องว่างระหว่างรุ่นต่างๆ นอกจากนี้ iPhone 17 Pro Max จะได้รับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้หนักเกินไปหากยังใช้ไทเทเนียมต่อไป
สำหรับการระบายความร้อน ในยุคของ Apple Intelligence และเครื่องมือ AI อื่นๆ เรื่องนี้มีความสำคัญมากกว่าที่เคย ช่วงที่ iPhone 16 Pro ร้อนขึ้น มักเกิดจากสองสิ่ง คือฟีเจอร์ Apple Intelligence และแอปกล้อง
AI จะยังคงเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ iPhone โดยมีฟีเจอร์ Apple Intelligence ใหม่กว่า 20 รายการที่จะมาใน iOS 26 และทุกสัญญาณชี้ไปที่การเน้นการอัปเกรดกล้องอย่างมากในสาย 17 Pro
มีข่าวลือว่า Apple กำลังใช้ชิ้นส่วนจัดการความร้อนแบบใหม่ในสาย iPhone 17 แต่การเปลี่ยนไปใช้อลูมิเนียมแทนไทเทเนียมดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อขยายประโยชน์นี้ต่อไป
เมื่อพิจารณารายละเอียดทั้งหมดนี้แล้ว แทนที่จะถามว่าทำไม Apple ถึงเปลี่ยนไทเทเนียมเป็นอลูมิเนียม คำถามที่ดีกว่าอาจจะเป็น ทำไมถึงไม่เปลี่ยน
อ้างอิง |9to5mac.com
