งานเปิดตัวใหญ่ของ Apple เมื่อวันที่ 9 กันยายนนี้กำลังใกล้เข้ามา และแม้ว่าข่าวลือเรื่องราคาจะยังไม่ชัดเจน แต่รายงานส่วนใหญ่ชี้ว่า iPhone 17 ทุกรุ่นอาจแพงขึ้น 50 ดอลลาร์จากเดิม ขณะที่มาพร้อมการปรับปรุงฟีเจอร์สำคัญหลายประการ

จากข้อมูลที่รั่วไหลออกมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา iPhone 17 Pro และ Pro Max คาดว่าจะเป็นดาวเด่นของปีนี้ ด้วยการปรับโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีสำหรับรุ่น Pro รวมถึงการอัปเกรดกล้องและการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน

Apple ยังมีแผนเปลี่ยน iPhone Plus ให้เป็น iPhone 17 Air รุ่นใหม่ล่าสุด ขณะที่ iPhone 17 รุ่นมาตรฐานอาจได้รับการอัปเกรดที่ผู้ใช้เฝ้ารอมานาน อย่างหน้าจอรีเฟรชเรตสูง

ราคาที่อาจสูงขึ้นจากปัจจัยภายนอก

เมื่อพูดถึงราคา ข่าวลือส่วนใหญ่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน คือการเพิ่มขึ้น 50 ดอลลาร์ รายงานบางฉบับระบุว่าการปรับราคานี้อาจส่งผลต่อเฉพาะรุ่น Pro และ Air เท่านั้น ขณะที่บางรายงานคาดว่าทั้งสี่รุ่นจะได้รับผลกระทบ

หากข่าวลือเป็นจริง โครงสร้างราคาของ iPhone 17 อาจเป็นดังนี้: iPhone 17 รุ่นมาตรฐานเริ่มต้น 849 ดอลลาร์ iPhone 17 Air 899 ดอลลาร์ iPhone 17 Pro 1,049 ดอลลาร์ และ iPhone 17 Pro Max 1,249 ดอลลาร์

การเพิ่มขึ้น 50 ดอลลาร์นี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ประกาศภาษีนำเข้าใหม่ที่ส่งผลต่อเกือบทุกประเทศ รวมถึงประเทศที่ใช้ในการผลิต iPhone อย่างไรก็ตาม คู่แข่งอย่าง Samsung และ Google ยังคงรักษาราคาเดิมของสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ทำให้ Apple อาจเลือกทำเช่นเดียวกัน

เหตุผลที่ Apple อาจคงราคาไว้

ผู้เล่นรายใหญ่อื่นในตลาดสมาร์ทโฟนได้ต่อต้านการขึ้นราคาในปีนี้ Google เปิดตัว Pixel 10 ซีรีส์ด้วยราคาเท่ากับ Pixel 9 และ Samsung Galaxy S25 ซีรีส์ก็คงราคาเดิมเมื่อเทียบกับ Galaxy S24 ปีที่แล้ว

บริษัททั้งสองต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าและค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกัน เนื่องจากอุปกรณ์ของพวกเขาไม่ได้ประกอบในสหรัฐอเมริกา แต่ยังสามารถควบคุมราคาได้ Apple อาจตัดสินใจทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากการตั้งราคามีบทบาทสำคัญในการตอบสนองของผู้บริโภคต่อการเปิดตัว iPhone ใหม่

อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคา 50 ดอลลาร์ที่เป็นข่าวลือก็อาจเป็นจริงได้ หนึ่งในเหตุผลคือมาตรการภาษีล่าสุดของทรัมป์ ที่เพิ่มต้นทุนสำหรับอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิต iPhone ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา นอกเหนือจากภาษีแล้ว Apple อาจใช้โอกาสนี้ปรับกลยุทธ์การตั้งราคา

ตามรายงาน รุ่น Pro ไม่เพียงแค่แพงขึ้น แต่ iPhone 17 Pro ยังอาจเพิ่มพื้นที่จัดเก็บพื้นฐานจาก 128 GB เป็น 256 GB ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความรู้สึกแย่จากราคาที่สูงขึ้น

การอัปเกรดที่คาดหวัง: คุ้มค่าการจ่ายหรือไม่

หาก Apple เพิ่มราคา 50 ดอลลาร์จริง จะคุ้มค่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริโภค ต่อไปนี้คือการอัปเกรดที่คาดการณ์สำหรับแต่ละรุ่น iPhone 17

iPhone 17 รุ่นมาตรฐานคาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.3 นิ้ว เพิ่มจาก 6.1 นิ้วเดิม สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าขนาดเดิมเล็กเกินไป นี่อาจเป็นขนาดที่เหมาะสม รีเฟรชเรต 120Hz หรือ ProMotion และ Always-On Display คาดว่าจะมาถึงทุกรุ่นในที่สุด

การชาร์จเร็วขึ้นเป็นอีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญ Apple กำลังพัฒนาชาร์จเจอร์ MagSafe ที่รองรับพลังงานสูงสุด 45W เกือบสองเท่าจาก 25W ปัจจุบัน กล้องหน้าได้รับการอัปเกรดเป็น 24 MP แทนที่ 12 MP ที่ใช้มาอย่างยาวนาน และ RAM เพิ่มขึ้นเป็น 12 GB แทน 8 GB ซึ่งจะช่วยรองรับ AI บนอุปกรณ์ที่ Apple ให้ความสำคัญมากขึ้น

iPhone 17 Pro และ Pro Max จะได้รับการอัปเกรดสำคัญหลายประการ กล้องเทเลโฟโต้ 48 MP พร้อมซูม 5 เท่าเฉพาะรุ่น Pro รวมถึงกล้องหลักและกล้องมุมกว้าง 48 MP การบันทึกวิดีโอ 8K ซึ่งเป็นก้าวกระโดดจากข้อจำกัด 4K ปัจจุบัน แต่จำกัดเฉพาะรุ่น Pro

การออกแบบเกาะกล้องใหม่แบบใหญ่เกือบขอบจอ น่าจะเพื่อให้พอดีกับเลนส์เปอริสโคปและเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ กล้องหน้า 24 MP เช่นเดียวกับรุ่นอื่น กรอบอลูมิเนียมแทนไทเทเนียม คู่กับฝังหลังแบบอลูมิเนียมและกระจกผสม หน้าจอป้องกันแสงสะท้อนแบบด้าน อาจใช้กระจก nano-texture เช่นเดียวกับ iMac และ iPad

สำหรับ iPhone 17 Pro Max อาจมีแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น ด้วยดีไซน์ที่หนาขึ้นเล็กน้อยอาจทำให้ความจุแบตเตอรี่เกิน 5,000 mAh ในที่สุด

iPhone 17 Air เป็นรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ คาดว่าจะเป็น iPhone บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้ยังไม่มีการยืนยันความหนาขั้นสุดท้าย แต่ข่าวลือชี้ไปที่ 5.44 มม. หรือ 5.5 มม. ซึ่งบางกว่า Samsung Galaxy S25 Edge RAM 12GB เช่นเดียวกับรุ่นอื่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Apple Intelligence

กรอบไทเทเนียมที่น่าสนใจคือ Air อาจเป็น iPhone 17 รุ่นเดียวที่ใช้โครงสร้างไทเทเนียม กล้องหลังเดี่ยว Apple คาดว่าจะทำให้เรียบง่ายด้วยกล้อง 48MP เพียงตัวเดียวด้านหลัง แบตเตอรี่เล็ก 2,800mAh ดีไซน์บางพิเศษมาพร้อมต้นทุน แบตเตอรี่มีความจุเพียง 2,800mAh ซึ่งดูไม่น่าประทับใจเมื่อเทียบกับมาตรฐานสมัยใหม่

อ้างอิง | Phonearena.com