Device and Gadget Reviews-Previews

รีวิว “Nothing Headphone (1)” หูฟังดีไซน์โปร่งใส สเปกจัดเต็ม จูนเสียงโดย KEF

เมื่อ Nothing บริษัทดาวรุ่งจากลอนดอนประกาศจะทำหูฟังครอบหูเป็นครั้งแรก หลายคนคงสงสัยว่าแบรนด์ที่โด่งดังเรื่องดีไซน์โปร่งใสสุดเท่ จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้น่าตื่นตาแค่ไหน วันนี้เราได้มาลองแล้ว และต้องบอกเลยว่า Nothing Headphone (1) นี่ไม่ใช่แค่หูฟังธรรมดา แต่เป็นงานศิลปะที่ฟังเพลงได้!

Nothing Headphone (1)

จากแบรนด์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2020 แต่ขายผลิตภัณฑ์ไปแล้วกว่า 10 ล้านชิ้น และมีรายได้สะสมทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเปิดตัวหูฟังครอบหูครั้งแรกนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่แฟนแบรนด์รอคอยมานาน

Nothing Headphone (1)

เปิดกล่องแล้วหัวใจเต้นแรง! ของในกล่องครบทุกสิ่ง

เปิดกล่องมาแล้วจิตใจก็ฟุ้งไปกับความโปร่งใสของ Headphone (1) ที่นอนอยู่ในกล่องอย่างสวยงาม ความรู้สึกแรกคือ “ว้าว! นี่มันเท่มาก” เพราะเห็นอะไหล่ภายในผ่านตัวโปร่งใส แต่ไม่ได้ดูวุ่นวาย กลับดูเป็นระเบียบสวยงาม

Nothing Headphone (1)
Nothing Headphone (1)

ภายในกล่องจะได้ตัวหูฟัง Nothing Headphone (1), เคสผ้านุ่มๆ สำหรับพกพาขนาด 52 x 220 x 220 มม. น้ำหนัก 264 กรัม, สายชาร์จ USB-C คุณภาพดี, สายเสียบ 3.5mm สำหรับใช้แบบมีสาย และคู่มือการใช้งานพร้อมใบรับประกันครบถ้วน การจัดวางของในกล่องทำอย่างประณีต ไม่รู้สึกรกรุงรัง

Nothing Headphone (1)

สิ่งที่ Nothing ทำได้ดีคือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีพลาสติกเลย ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในการผลิต และมี Carbon footprint เพียง 14.84 kg CO2e ซึ่งถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก ได้รับการรับรองจาก Amazon Climate Pledge-friendly ด้วย แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมจริงจัง ไม่ใช่แค่พูดเปล่า

ดีไซน์สุดจี๊ด สัมผัสแรกที่ประทับใจทันที

หากใครเคยใช้ผลิตภัณฑ์ Nothing มาก่อน จะรู้ทันทีว่านี่คือลายเซ็นแบรนด์แน่นอน ดีไซน์โปร่งใสที่เรียกว่า “Transparent Design” ทำให้เห็นอะไหล่ภายในอย่างชัดเจน ทั้งห้องเสียง คอมโพเนนต์ต่างๆ และไดรเวอร์ที่ถูกจัดวางอย่างสวยงาม ราวกับได้ดูภาพตัดขวางของเครื่องจักรที่ซับซ้อน

Nothing Headphone (1)

ตัวหูฟังมีขนาด 173.8 x 78 x 189.2 มม. น้ำหนักเพียง 329 กรัม รู้สึกแข็งแรงแต่ไม่หนัก

Nothing Headphone (1)

เมื่อจับขึ้นมาแล้วรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของวัสดุ โครงสร้างใช้อลูมิเนียมขึ้นรูปที่จุดสำคัญ ส่วนพลาสติกปั้นขึ้นรูปที่มีความแม่นยำสูง การกระจายน้ำหนักทำได้ดีมาก ใส่แล้วไม่รู้สึกว่าหนักเอาเรื่อง

Nothing Headphone (1)

ส่วนหูคัพใช้โฟม memory foam ที่นิ่มมาก อุ้มหูได้พอดี ไม่แน่นจนเกินไป และผิว PU ที่สัมผัสแล้วเรียบลื่น เนื้อสัมผัสคล้ายหนังแท้ ต้านทานคราบมันและเครื่องสำอางได้ดี ทำความสะอาดง่าย

Nothing Headphone (1)

สามารถปรับขนาดด้วยแขนแบบเทเลสโคปิกที่เลื่อนเงียบสนิท ไม่มีเสียงแหลงกิ๊งหรือเสียงขัดแคลงใดๆ

Nothing Headphone (1)
Nothing Headphone (1)

มาในสีให้เลือก 2 สี คือ White และ Black ทั้งสองสีดูดีไปคนละแบบ สีขาวดูสะอาดเรียบหรู ส่วนสีดำดูคลาสสิกและเท่ห์

เสียงเทพ ฟีเจอร์เสียงที่ทำให้ต้องทึ่ง

นี่คือจุดแข็งที่สุดของ Headphone (1)! Nothing ร่วมมือกับ KEF บริษัทเสียงระดับตำนานที่มีประสบการณ์มากว่า 60 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านลำโพงระดับไฮเอนด์ ทำให้ได้ไดรเวอร์ 40mm ที่ปรับแต่งเสียงได้สมดุลมาก ย่านความถี่ 20Hz-40kHz ครอบคลุมทั้งเบสลึกจนถึงเสียงแหลมใสที่มีรายละเอียด

ไดรเวอร์ใช้เทคโนโลยี high-linearity suspension กับ PU surround ขนาด 8.9mm ที่เคลื่อนอากาศได้มากกว่าวัสดุ PET ธรรมดา ทำให้เสียงเบสลึกและมีการตอบสนองดีกว่า เมมเบรนเคลือบนิกเกิลทั้งขอบและโดม เพิ่มความแข็งแกร่งและความใสของเสียงแหลม พื้นผิวโดมที่สม่ำเสมอช่วยให้เสียงออกมาสะอาดแม้ในระดับเสียงสูง

Nothing Headphone (1)

ระบบ Active Noise Cancellation แบบ Hybrid ใช้ไมโครโฟน 4 ตัว แบบ dual feed-forward และ feedback สแกนสิ่งแวดล้อมทุก 600 มิลลิวินาที และระบบตรวจจับการรั่วของเสียงระหว่างหูคัพกับหูทุก 1875 มิลลิวินาที ทำให้ได้ ANC ที่ลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 42dB มีประสิทธิภาพดีที่สุดในช่วงความถี่ต่ำถึง 2kHz

ฟีเจอร์ Spatial Audio กับ Dynamic Head Tracking สร้างเสียง 3 มิติแบบ 360 องศาที่ตามการหมุนหัว ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์หรือคอนเสิร์ต เหมาะสำหรับดูหนังหรือเล่นเกมเป็นพิเศษ ขณะที่ Transparency Mode ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟัง สะดวกมากเวลาคุยกับคนหรือต้องฟังประกาศ

ระบบ Adaptive Bass Enhancement ปรับเบสอัตโนมัติให้เหมาะกับแต่ละแนวเพลง ทำให้ทุกเพลงฟังสนุกและมีมิติมากขึ้น

ประสิทธิภาพแรงไม่มีสะดุด เชื่อมต่อลื่นไหลทุกสถานการณ์

Headphone (1) รองรับ Bluetooth 5.3 ระยะการเชื่อมต่อ 10 เมตร เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ ไม่ว่าจะดูหนังในแล็ปท็อปแล้วมีโทรศัพท์เข้าในสมาร์ตโฟน ก็สลับได้ทันทีไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อหรือจับคู่ใหม่ ระบบนี้ทำงานได้เรียบร้อยมาก ไม่มีปัญหาเสียงขาดหายหรือดีเลย์

Nothing Headphone (1)

รองรับ codec หลายแบบ ได้แก่ LDAC, AAC และ SBC พร้อมการรับรอง Hi-Res Audio และ LDAC Hi-Res Wireless ให้เสียงคุณภาพสูงแบบ 24-bit/96kHz ที่สามารถเล่นไฟล์เสียงคุณภาพสูงได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ FLAC หรือ DSD ก็ฟังได้เต็มรายละเอียด รองรับทั้งแอนดรอยด์ 5.1+ และ iOS 13+ รวมถึง Nothing OS อย่างเต็มประสิทธิภาพ

มี Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ทำให้จับคู่กับอุปกรณ์ใหม่ได้รวดเร็วแค่เปิดกล่องใกล้ๆ ก็จับคู่อัตโนมัติ มีโหมด Low-latency สำหรับเล่นเกมและดูวิดีโอ ลดการหน่วงเสียงจนแทบไม่รู้สึกมีดีเลย์เลย เหมาะสำหรับเล่นเกมแนว FPS หรือดูภาพยนตร์ที่ต้องการความแม่นยำของเสียงกับภาพ

รองรับ IP52 ป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ ใช้ออกกำลังกายเบาๆ หรือใส่ตอนฝนพรำก็ไม่ต้องกังวล

ควบคุมง่าย ใช้สะดวกกว่าแบบสัมผัส

สิ่งที่ทำให้ Headphone (1) พิเศษและแตกต่างจากหูฟังทั่วไปคือการใช้ปุ่มกดแทนการสัมผัสแบบ touch control ซึ่งให้ความแม่นยำและง่ายต่อการใช้งานมากกว่า มี 3 ประเภท คือ

Roller ที่เป็นปุ่มหมุนสำหรับปรับระดับเสียง หมุนได้ลื่นไหลและมี feedback ที่ชัดเจน กดเพื่อเล่น/หยุดเพลง กดค้างเพื่อสลับระหว่างโหมด ANC และ Transparency ใช้งานแล้วรู้สึกมั่นใจว่าคำสั่งถูกส่งไปแน่นอน

Nothing Headphone (1)

Paddle เป็นปุ่มแบบโยกซ้าย-ขวา สำหรับข้ามเพลงหน้า-หลัง โยกไปทางขวาเพื่อข้ามเพลงถัดไป โยกซ้ายเพื่อกลับเพลงก่อนหน้า กดค้างเพื่อเลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลังอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยเพื่อกลับมาเล่นปกติ

Nothing Headphone (1)

Button เป็นปุ่มสำหรับเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะหรือฟีเจอร์พิเศษต่างๆ ในสมาร์ตโฟน Nothing จะมีฟีเจอร์ Channel Hop ที่กดปุ่มครั้งเดียวแล้วเปลี่ยนแอปเพลงได้ หรือจะตั้งค่าให้เปิด Spotify, ChatGPT, ฟังข่าว หรือเรียก AI Assistant ก็ได้ ทุกอย่างปรับแต่งผ่านแอป Nothing X ตามความต้องการ

Nothing Headphone (1)

ระบบ Clear Voice Technology ใช้เทคโนโลยี AI ที่เทรนจากสถานการณ์จริงกว่า 28 ล้านครั้ง มีไมโครโฟน 6 ตัว (4 ตัวสำหรับ ANC และ 2 ตัวสำหรับโทรศัพท์) ทำให้เสียงโทรศัพท์ชัดเจนแม้ในที่เสียงดัง ลมแรง หรือในรถไฟฟ้า

Nothing Headphone (1)
Nothing Headphone (1)

อีกทั้งในรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบ Auto Play/Pause ที่ตรวจจับการสวมใส่ เมื่อถอดหูฟังออกจะหยุดเพลงอัตโนมัติ ใส่กลับก็เล่นต่อทันที

แบตอึดสุดๆ ชาร์จเร็วไม่ต้องรอนาน

นี่คือจุดเด่นใหญ่ที่ทำให้หลายคนต้องใจฟู! แบตเตอรี่ Lithium-ion 1040mAh ให้เวลาฟังที่ยาวนานสุดๆ ถึง 80 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC หรือ 35 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC เทียบกับหูฟังในตลาดแล้วถือว่าเป็นระดับท็อปเลย หมายความว่าใช้งานปกติวันละ 2-3 ชั่วโมง อาจใช้ได้มากกว่าเดือนโดยไม่ต้องชาร์จ

Nothing Headphone (1)

สำหรับการใช้งาน LDAC ซึ่งใช้พลังงานมากกว่า จะได้เวลาฟัง 54 ชั่วโมง (ปิด ANC) และ 30 ชั่วโมง (เปิด ANC) ซึ่งก็ยังถือว่ายาวนานมาก

สามารถใช้งานในเรื่องของการโทรได้ 53 ชั่วโมง (ปิด ANC) และ 37 ชั่วโมง (เปิด ANC) ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องใช้ประชุมออนไลน์หรือโทรศัพท์บ่อยๆ

ระบบชาร์จเต็มใช้เวลา 120 นาที หรือ 2 ชั่วโมง ซึ่งไม่นานมาก หรือชาร์จด่วน 5 นาทีเท่านั้น จะได้เวลาฟัง 5 ชั่วโมง (ปิด ANC) หรือ 2.4 ชั่วโมง (เปิด ANC) ใช้พอร์ต USB-C เหมือนอุปกรณ์สมัยใหม่ทั่วไป ไม่ต้องหาสายพิเศษ

มีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ ดูแล้วรู้ทันทีว่าแบตหมดหรือเต็ม มีระบบตรวจจับการสวมใส่แบบอัตโนมัติ หยุดเพลงเมื่อถอดออกเพื่อประหยัดแบต เพิ่มเวลาใช้งานได้มากขึ้น

ลองใช้แล้วรู้สึกยังไง? บอกเลยว่า…ความประทับใจที่เกินคาด

หลังจากใช้มาสักพักและทดลองในสถานการณ์ต่างๆ รู้สึกประทับใจในความคุ้มค่าอย่างมาก Nothing สร้างหูฟังครอบหูที่ไม่ได้มีแค่หน้าตาดี แต่เสียงดีจริงๆ ความร่วมมือกับ KEF ให้ผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายจริงๆ เรียกว่าส่วนทางกับราคาที่เปิดมาเลย

Nothing Headphone (1)

ด้านความสบาย ใส่ได้นานหลายชั่วโมงไม่รู้สึกเมื่อยหู น้ำหนักกระจายดี ไม่กดทับหัวหรือหูจนเจ็บ โฟมนิ่มพอดี ระบายอากาศได้ดีไม่อับชื้น ใส่ทำงานหรือเล่นเกมนานๆ ก็สบาย

Nothing Headphone (1)

ฟีเจอร์ ANC ทำงานได้ดีจริง ทดลองใช้ในรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และสำนักงานที่มีเสียงแอร์ รู้สึกว่าเสียงรบกวนลดลงชัดเจน แต่ไม่ได้เงียบสนิทจนแปลกใจ ยังได้ยินเสียงสำคัญได้อยู่ ฟีเจอร์ Transparency Mode สะดวกมาก เปิดแล้วได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจน ไม่ต้องถอดหูฟังเวลามีคนมาคุย

ราคาคุ้มค่า โปรโมชั่นน่าสนใจ

Nothing Headphone (1) พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้แล้วในราคา 8,999 บาท พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยผ่านช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มาใน 2 สี คือ White และ Black พร้อมเคสผ้าคุณภาพดีในกล่อง รองรับการันตีตัวเครื่องตามมาตรฐานสากล มีศูนย์บริการในประเทศ

Nothing Headphone (1)

เมื่อเทียบราคากับคุณภาพที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามาก โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับหูฟังแบรนด์ดังระดับเดียวกัน ได้คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ฟีเจอร์ครบครัน แบตเตอรี่อึด และดีไซน์สวยเป็นเอกลักษณ์

สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ติดตามโปรโมชั่นจากร้านค้าต่างๆ เพราะบางช่วงอาจมีส่วนลดหรือของแถมน่าสนใจ

สรุปสุดท้าย คุ้มค่าสุดๆ แนะนำให้ลอง

Nothing Headphone (1) เป็นหูฟังที่ทำให้เห็นว่าแบรนด์นี้ไม่ได้มีแค่หน้าตาสวย แต่มีสาระและคุณภาพภายในจริงๆ การร่วมมือกับ KEF ทำให้ได้เสียงระดับพรีเมียมที่สมดุลและฟังสบาย ดีไซน์โปร่งใสเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ฟีเจอร์ครบครันตั้งแต่ ANC, Spatial Audio, ไปจนถึง dual connection แบตเตอรี่อึดมาก และการควบคุมด้วยปุ่มกดที่ใช้งานง่าย

Nothing Headphone (1)

จุดเด่นที่โดดเด่นคือแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานมาก ฟีเจอร์ ANC ที่ทำงานได้ดี และเสียงที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม การออกแบบควบคุมด้วยปุ่มกดแทนระบบสัมผัสก็เป็นจุดขายที่ดี ใช้งานแม่นยำและไว้ใจได้

สำหรับคนที่หาหูฟังครอบหูในระดับนี้ที่ดูดีและฟังดี Nothing Headphone (1) คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะใช้กับสมาร์ตโฟน Android, iPhone หรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ มันคือการพิสูจน์ให้เห็นว่า Nothing พร้อมที่จะก้าวสู่ตลาดหูฟังระดับโลกแล้วจริงๆ และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติตลาดหูฟังครอบหูในอนาคตก็เป็นได้!

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
รีวิว “realme Watch 5” สมาร์ตวอทช์ฟีเจอร์ระดับเรือธง ในราคาที่ใครก็จับต้องได้
[เล่าเท่าที่เล่น] ไปไหนไปด้วยกับ “แท่นชาร์จไร้สาย BAZIC 3-in-1 GoMag Gyre MagSafe” แท่นชาร์จแม่เหล็กไร้สาย 3-in-1
แกะกล่องทดสอบ “HUAWEI WATCH GT 5 Series” ครบทั้งสุขภาพ กีฬา และแฟชั่น ในหนึ่งเดียว

Leave Your Reply

*