News

Nothing Phone 3 เปิดตัวแล้วด้วยเทคโนโลยี Glyph Matrix สุดล้ำ ที่จะเปลี่ยนวิธีการใช้โทรศัพท์ของคุณไปตลกาล

Nothing สั่นสะเทือนตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Nothing Phone 3 เรือธงรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมนวัตกรรม Glyph Matrix ที่ไม่เหมือนใครในโลก ชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 4 สุดทรงพลัง และแบตเตอรี่ยักษ์ 5,150mAh ที่พร้อมท้าทายทุกขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม

การออกแบบที่ไม่เหมือนใครนี้โดดเด่นด้วยระบบ Glyph Matrix ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ล้ำหน้ากว่า Glyph Interface เดิมหลายชั่วอายุคน

Nothing Phone 3

Nothing Phone 3 นำเสนอการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าด้วยระบบ Glyph Matrix ซึ่งเป็นพัฒนาการจาก Glyph Interface เดิม ระบบใหม่นี้ประกอบด้วยไมโครแอลอีดี 489 ดวงที่สามารถควบคุมได้แยกเป็นรายตัว ทำให้สามารถแสดงการแจ้งเตือนและข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น

Carl Pei ซีอีโอของ Nothing กล่าวว่า เทคโนโลยีได้กลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ โทรศัพท์ทุกเครื่องดูเหมือนกัน รู้สึกเหมือนกัน และทำงานเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาใช้เวลาในการพัฒนา Phone 3 เป็นเวลา 2 ปี เพื่อสร้างสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทำให้เทคโนโลยีกลับมารู้สึกเป็นส่วนตัวอีกครั้ง

Glyph Toys เป็นส่วนขยายที่น่าสนใจของ Glyph Matrix ที่นำเกมและเครื่องมือเล็กๆ มาไว้ที่ด้านหลังของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Glyph Mirror สำหรับการถ่ายเซลฟี่ นาฬิกาดิจิทัล เครื่องจับเวลา ตัวบ่งชี้แบตเตอรี่ และเกมอย่าง Spin the Bottle ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านปุ่มเฉพาะที่ด้านหลังเครื่อง

หัวใจสำคัญของ Nothing Phone 3 คือชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8s Gen 4 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร แม้ว่าจะไม่ใช่ชิปเซ็ตระดับท็อปสุด แต่ก็ให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ Phone 2 โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพซีพียู 36 เปอร์เซ็นต์ จีพียู 88 เปอร์เซ็นต์ การประมวลผลเอไอ 60 เปอร์เซ็นต์ และการรู้จำภาพที่เร็วขึ้น 125 เปอร์เซ็นต์

เครื่องมาพร้อมแรม 12GB หรือ 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB หรือ 512GB พร้อมเทคโนโลยี RAM Boost ที่สามารถขยายได้สูงสุด 24GB เพื่อการใช้งานแบบมัลติทาสกิ้งที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น

Nothing Phone 3

นอกจากประสิทธิภาพที่ทรงพลังแล้ว Nothing Phone 3 ยังมาพร้อมระบบกล้องระดับมืออาชีพ ประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.3 นิ้ว พร้อมระบบกันสั่น OIS กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP มุมกว้าง 114 องศา และกล้องเทเลโฟโต้ periscope 50MP พร้อมการซูมออปติคอล 3 เท่าและความสามารถในการถ่ายภาพแมโครจากระยะ 10 เซนติเมตร

กล้องทั้งหมดรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60fps และได้รับการปรับปรุงด้วย Truelens Engine 4 และปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้ภาพที่คมชัดและสีสันที่สมจริงยิ่งขึ้น กล้องหน้า 50MP ยังสามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้เช่นกัน

ด้านการแสดงผล Nothing Phone 3 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1260 x 2800 พิกเซล พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz แบบปรับอัตโนมัติ และความสว่างสูงสุด 4,500 นิต ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในแสงแดดจ้า หน้าจอได้รับการปกป้องด้วย Corning Gorilla Glass 7i และมี PWM dimming ที่ 2,160Hz เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของสายตา

Nothing Phone 3

แบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอน 5,150mAh เป็นแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดใน Nothing Phone จนถึงปัจจุบัน สามารถใช้งานได้เกินหนึ่งวันเต็ม ระบบชาร์จเร็ว 65W สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 54 นาที พร้อมการชาร์จไร้สาย 15W และการชาร์จย้อนกลับทั้งแบบมีสายและไร้สาย

เรื่องของซอฟต์แวร์ Nothing Phone 3 ทำงานบน Nothing OS 3.5 ที่วางอยู่บน Android 15 Nothing ให้คำมั่นว่าจะอัปเดตระบบปฏิบัติการหลักเป็นเวลา 5 ปี และการอัปเดตความปลอดภัยเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการรับประกันการอัปเดตที่ยาวนานที่สุดในตลาด

Nothing OS 4.0 ที่ใช้ Android 16 เป็นฐานจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 ระบบปฏิบัติการนี้ออกแบบมาเพื่อการมุ่งเน้นและขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ พร้อมธีมโมโนโครมที่ช่วยลดสิ่งรบกวนและตัวเลือกการนำป้ายชื่อแอปออกเพื่อรูปลักษณ์ที่สะอาดตายิ่งขึ้น

ด้านความทนทาน แม้จะมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ Nothing Phone 3 ยังคงได้รับการรับรอง IP68 สำหรับการกันฝุ่นและกันน้ำ เครื่องมาพร้อมลำโพงสเตอริโอ ไมโครโฟน 2 ตัว มอเตอร์เชิงเส้นแกน X เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือในหน้าจอ และการเชื่อมต่อที่ครบครันด้วย WiFi 7 บลูทูธ 6.0 NFC และ GPS หลายระบบ

คุณสมบัติ Flip to Record ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเริ่มการบันทึกและสรุปบทสนทนาได้เพียงแค่พลิกโทรศัพท์หงาย ผ่านระบบ Essential Space โดยไม่ต้องใช้หน้าจอ

Nothing Phone 3

สำหรับเรื่องราคา Nothing Phone 3 มีราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,000 บาท) สำหรับรุ่น 12GB/256GB และ 899 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 30,000 บาท) สำหรับรุ่น 16GB/512GB ในตลาดอินเดีย มีราคา 79,999 รูปี (รุ่น 12GB/256GB) และ 89,999 รูปี (รุ่น 16GB/512GB) โดยสามารถลดราคาได้เหลือ 62,999 รูปี และ 72,999 รูปี ตามลำดับ เมื่อใช้สิทธิ์แลกเปลี่ยนและส่วนลดจากธนาคาร

การเปิดจองเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม และจะเริ่มขายจริงในวันที่ 15 กรกฎาคม ผ่านทาง Flipkart ร้านค้าออนไลน์ Nothing และร้านค้าปลีกที่เลือกสรร สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าจะได้รับ Nothing Ear มูลค่า 14,999 รูปี ฟรี

Nothing Phone 3 มาในสีขาวและสีดำ ถือเป็นการกลับมาของ Nothing ในฐานะผู้นำในการสร้างนวัตกรรมด้านการออกแบบสมาร์ทโฟนที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนใคร

อ้างอิง | Gsmarena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เราจัดเต็มให้คุณแล้ว! เปรียบเทียบ iPhone 15 vs iPhone 16 มีอะไรต่างกันบ้าง? ก่อนเปิดตัว
เปิดตัว “iPad Air (Gen 3)” และ “iPad Mini รุ่นที่ 5” พร้อมรองรับ Apple Pencil
อุ๊ปส์! ป้ายโฆษณาล่าสุดของ Apple มาพร้อมดีไซน์แบบลึงค์

Leave Your Reply

*