Xiaomi สร้างแผ่นดินไหวใหญ่ในวงการรถยนต์ไฟฟ้าโลกอีกครั้ง! YU7 SUV รุ่นใหม่ของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีนสร้างสถิติสะเทือนใจด้วยออเดอร์มหาศาลถึง 289,000 คันภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงแรก ทุบสถิติความคาดหวังของตลาดที่คาดไว้ 100,000 คันให้กลายเป็นเศษผง

การเปิดตัว YU7 SUV รถยนต์ไฟฟ้าคันที่สองของ Xiaomi เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 กลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครคาดคิด เล่ย จุ่น (Lei Jun) ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Xiaomi ตัวสั่นจากความตื่นเต้นเผยว่าภายในเวลาเพียง 18 ชั่วโมงแรก บริษัทได้รับออเดอร์ที่ยืนยันการชำระเงินมัดจำแล้วจำนวน 240,000 คัน ซึ่งหมายถึงกำลังการผลิตของบริษัทถูกจองหมดจนถึงต้นปี 2027 ทำให้ลูกค้าใหม่ต้องรอนานถึง 56 สัปดาห์

ผลกระทบจากปรากฏการณ์นี้ทำให้หุ้น Xiaomi ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงระเบิดขึ้น 8% ไปสู่จุดสูงสุดประวัติศาสตร์ ปิดที่ระดับ 61 ดอลลาร์ฮ่องกง พุ่งมูลค่าตลาดไปแตะ 1.55 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง กลายเป็นหุ้น Large Cap ที่ให้ผลตอบแทนอันดับหนึ่งของเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ด้วยการเติบโตมากกว่า 70%

YU7 วางแผนโจมตี Tesla Model Y ด้วยการกำหนดราคาเริ่มต้นที่ 253,500 หยวน (ประมาณ 1.25 ล้านบาท) ซึ่งถูกกว่า Tesla Model Y ที่วางจำหน่ายในตลาดจีนที่ 263,500 หยวน หรือประมาณ 4% โดยบริษัทเสนอขาย 3 รุ่นได้แก่ YU7 Standard, YU7 Pro และ YU7 Max ในราคา 253,500, 279,900 และ 329,900 หยวนตามลำดับ

นักวิเคราะห์จาก Jefferies ระบุว่า YU7 มีราคาต่ำกว่า Tesla Model Y เล็กน้อย แต่นำเสนอสเปคและประสิทธิภาพที่ดีกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ Citi คาดการณ์ว่า Tesla อาจต้องลดราคาเพิ่มเติม หรือให้ซอฟต์แวร์ Full Self-Driving ฟรี เพื่อแข่งขันกับ Xiaomi ได้

สเปคและเทคโนโลยีโดดเด่น

YU7 เป็น SUV ขนาดกลางถึงใหญ่ 5 ที่นั่ง มีขนาด 4,999 มิลลิเมตรยาว 1,996 มิลลิเมตรกว้าง และ 1,600 มิลลิเมตรสูง ฐานล้อยาว 3,000 มิลลิเมตร ซึ่งใหญ่กว่า Tesla Model Y ในทุกมิติ

รุ่น Standard ใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 320 แรงม้า วิ่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.88 วินาทีรุ่น Pro และ Max ใช้มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลัง 496 และ 690 แรงม้าตามลำดับ โดยรุ่น Max สามารถเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 3.23 วินาที

ด้านระยะทางการขับขี่ รุ่น Standard วิ่งได้ไกลถึง 835 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC) ขณะที่รุ่น Pro และ Max วิ่งได้ 770 และ 760 กิโลเมตรตามลำดับ ทุกรุ่นใช้แพลตฟอร์ม 800 โวลต์ ที่รองรับการชาร์จเร็วสูง

ระบบนิเวศเทคโนโลยีแบบบูรณาการ

YU7 มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 16.1 นิ้ว และระบบ “Human x Car x Home” ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รถยนต์ และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมของ Xiaomi เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ระบบผู้ช่วยเสียง XiaoAI สามารถควบคุมรถจากภายนอกได้ เช่น เปิดท้ายรถหรือตรวจสอบสภาพอากาศ

ที่น่าสนใจคือ Xiaomi ให้ซอฟต์แวร์ช่วยขับขี่มาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขณะที่ Tesla คิดค่าบริการซอฟต์แวร์ขับขี่อัจฉริยะ 64,000 หยวน นอกจากนี้เบาะหลังยังมีลิ้นชักเก็บของใต้เบาะ และฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

ผลกระทบต่อตลาด EV จีน

การเปิดตัว YU7 ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน โดยเฉพาะต่อ Tesla ที่เห็นส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 15% ในปี 2020 เหลือเพียง 7.6% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2025 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตในประเทศ

รถซีดาน SU7 ของ Xiaomi ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2024 ทำยอดขายเกิน Tesla Model 3 ในจีนทุกเดือนตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา และได้รับคำชื่นชมจาก จิม ฟาร์ลีย์ (Jim Farley) ซีอีโอของ Ford ด้วย

กลุ่มเป้าหมายและแนวโน้มตลาด

ข้อมูลจากการสั่งซื้อครั้งแรกแสดงให้เห็นว่า 55% ของผู้ซื้อเป็นผู้ชายอายุ 22-35 ปี ในเขตเมือง ประมาณ 60-70% เป็นการเปลี่ยนรถคันเดิม และที่น่าสนใจคือมี 5-7% ที่เปลี่ยนจากการจอง SU7 มาเป็น YU7 แทน

CMB International Securities คาดการณ์ว่า YU7 จะมียอดขายรายเดือน 30,000-40,000 คัน และอาจช่วยให้ Xiaomi มียอดส่งมอบรวม 350,000-400,000 คันในปี 2025 ขณะที่ในปี 2026 อาจเข้าถึงเป้าหมาย 700,000-800,000 คันต่อปี

เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น เล่ย จุ่น ประกาศว่าบริษัทจะ “ไม่ไว้หน้า” ในการขยายกำลังการผลิต โดยได้ซื้อที่ดิน 485,100 ตารางเมตร สำหรับสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ด้วยเงินลงทุน 635 ล้านหยวน

อ้างอิง | Arenaev.com