
เสียวหมี่ ประเทศไทย ประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition และ Redmi Note 14 สีใหม่ Sand Gold อย่างเป็นทางการ พร้อมจัดโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับ Redmi Note 14 Series ทุกรุ่น
Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition โดดเด่นด้วยดีไซน์ลิมิเต็ด
Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition มาพร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีลายเซ็นของ แบมแบม กันต์พิมุกต์ บนฝาหลังและตัวเครื่องสีพิเศษ ทำให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร นอกจากดีไซน์ลิมิเต็ดแล้ว ตัวอุปกรณ์ยังให้คุณถ่ายภาพปังทุกช็อตด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์) ผ่านกล้องความละเอียด 200MP และฟีเจอร์ Advanced AI มากมาย

อุปกรณ์รุ่นนี้ใช้งานได้อย่างราบรื่นด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7300-Ultra พร้อมความทนทานรอบด้านตามมาตรฐาน IP68 สำหรับการป้องกันฝุ่นและน้ำ มีการป้องกันรอยขีดข่วนจาก Corning Gorilla Glass Victus 2 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,110mAh ที่รองรับการใช้งานได้ตลอดวัน
Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 10,990 บาท จากราคาปกติ 11,990 บาท ที่ Xiaomi Store เท่านั้น สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2568 จะได้รับฟรีหูฟัง Redmi Buds 6 กระเป๋า XFF Sport Bag ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน มูลค่ารวม 12,780 บาท
Redmi Note 14 สี Sand Gold หรูหราในทุกการสัมผัส
Redmi Note 14 สีใหม่ Sand Gold ให้ความรู้สึกหรูหราในทุกการสัมผัส มาพร้อมระบบกล้อง AI ความละเอียด 108MP และฟีเจอร์การแต่งรูป AI อย่าง AI Sky และ AI Erase ที่ทำให้การสลับพื้นหลังหรือการลบสิ่งที่ไม่ต้องการเป็นเรื่องง่าย

อุปกรณ์รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99-Ultra ที่มอบประสิทธิภาพราบรื่นและตอบสนองได้ดีเยี่ยม มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,500mAh และการชาร์จเทอร์โบ 33W รวมถึงการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
Redmi Note 14 สี Sand Gold รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม ลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2568 จะได้รับฟรีกระเป๋า Redmi Note 14 Series Hologram Bag ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน มูลค่ารวม 5,490 บาท
โปรโมชันพิเศษ Redmi Note 14 Series ครบทุกรุ่น
เสียวหมี่ ประเทศไทย มอบโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Series ในระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2568 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
Redmi Note 14 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Lavender Purple, Frost Blue และ Midnight Black วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 12,990 บาท จากราคาปกติ 14,990 บาท รับฟรีหูฟัง Redmi Buds 6 ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน มูลค่ารวม 12,590 บาท

Redmi Note 14 Pro 5G รุ่นความจุ 12GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 10,990 บาท จากราคาปกติ 11,990 บาท รับฟรีหูฟัง Redmi Buds 6 ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน มูลค่ารวม 11,790 บาท
Redmi Note 14 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Lavender Purple และ Coral Green รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 7,499 บาท จากราคาปกติ 7,999 บาท และรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 9,499 บาท จากราคาปกติ 9,999 บาท รับฟรีกระเป๋า Redmi Note 14 Series Hologram Bag ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน มูลค่ารวม 7,490 บาท

Redmi Note 14 รุ่นความจุ 8GB+256GB มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Midnight Black, Mist Purple, Lime Green และสีใหม่ Sand Gold วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท รับฟรีกระเป๋า Redmi Note 14 Series Hologram Bag ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และประกันหน้าจอแตกเปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน มูลค่ารวม 5,490 บาท
โปรแกรมผ่อนชำระร่วมกับ SG Capital
เสียวหมี่ ประเทศไทย ร่วมกับ เอสจี แคปปิตอล ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน Redmi Note 14 Series ด้วยโปรแกรม SG Finance+ สมัครง่าย ผ่อนสบาย อนุมัติไว ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ โดยดาวน์เริ่มต้น 20% และผ่อนสูงสุด 24 เดือน
เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 เป็นบริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก
ในเดือนมีนาคม 2568 ยอดผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 718.8 ล้านรายรวมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เสียวหมี่ ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT (AI+IoT) ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อกับแพลทฟอร์มกว่า 943.7 ล้านเครื่อง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ผลิตภัณฑ์ของ เสียวหมี่ มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก