
เอไอเอส ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยี 5G 3CC ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย โดยการรวมคลื่นความถี่ 5G จำนวน 3 ย่านมาทำงานพร้อมกัน เพื่อมอบความเร็วและเสถียรภาพของเครือข่ายที่เหนือกว่าเดิมให้แก่ผู้ใช้งาน

การปรับตัวของเอไอเอสในยุคเทคโนโลยี AI
ในยุคที่เทคโนโลยีเครือข่ายมือถือและ AI มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน หากเครือข่ายไม่มีความเร็วก็อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความหงุดหงิดได้ เอไอเอส ได้เปิดเผยการนำเทคโนโลยีเครือข่ายอัจฉริยะมาใช้งาน โดยเปลี่ยนแนวคิดสู่ “AI for Sustainable and Nation” เพื่อทำให้เครือข่ายมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
ปัจจุบันเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ของ เอไอเอส ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กลางเมือง ขณะที่การขยายไปยังต่างจังหวัดก็กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยี 5G 3CC และประโยชน์ที่เกิดขึ้น
5G 3CC คือการนำเทคโนโลยี 5G CA (Carrier Aggregation) มาใช้งานในระดับที่สูงขึ้น โดย “3CC” ย่อมาจาก 3 Component Carriers หมายถึงการรวมคลื่นความถี่ 5G จำนวน 3 ย่านความถี่มาทำงานพร้อมกัน หากเปรียบเทียบกับภาพถนนที่เราคุยกันก่อนหน้า 5G 3CC ก็คือการสร้างซุปเปอร์ไฮเวย์ขนาด 3 เลนนั่นเอง
ผู้ใช้จะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนจากเครื่องหมาย 5G+ ที่แสดงบนมือถือเมื่อใช้เทคโนโลยีนี้
วิธีการทำงานของ 5G 3CC
สมาร์ทโฟนจะเชื่อมต่อกับคลื่น 5G สามย่านความถี่พร้อมกัน ดังนี้
คลื่น 2600 MHz ทำหน้าที่เป็นเลนหลักสำหรับทำความเร็วสูง คลื่น 700 MHz เป็นเลนที่วิ่งได้ไกล ทะลุทะลวงอาคารได้ดี และคลื่น 2100 MHz หรือย่านอื่น เป็นเลนเสริมเพื่อเพิ่มความจุ รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก
เมื่อทั้ง 3 เลนทำงานพร้อมกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์ 5G ที่เร็วสุดขีด เสถียรสุดขั้ว และครอบคลุมยิ่งขึ้น แต่จะมีข้อจำกัดคืออุปกรณ์ต้องรองรับด้วย และบริเวณนั้นผู้ใช้งานต้องมีจำนวนเครื่อง 5G ที่มากพอ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้

ประโยชน์สูงสุดของ 5G 3CC
ประโยชน์สูงสุดของ 5G 3CC คือเมื่อรองรับเครือข่ายความถี่มากขึ้นทำให้ถนนกว้างขึ้น ได้รับประสบการณ์ที่เร็วกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ปกติหรือตึกสูง 5G 3CC อาจมีอยู่แล้วในบางพื้นที่ เพราะบางพื้นที่อาจมีการใช้งาน 5G ได้มาก ทำให้สามารถตัดความถี่ของคลื่น 4G ได้ เอไอเอส อ้างว่าความเร็วเพิ่มขึ้น 16% และรองรับการใช้งานเพิ่มขึ้น 23%
สำหรับการอัปโหลด เมื่อมีการนำเทคโนโลยี 5G 3CC จะทำให้ผู้ที่ชอบใช้งานอัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นการโต้ตอบกับ AI หรือ Live เพื่อติดต่อกับ Service จะรองรับได้มากขึ้น ช่วยให้ได้รับการตอบสนองได้ดีมากขึ้น

ความยากของการทำ 5G 3CC
การทำเครือข่าย 5G 3CC ต้องมีความร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือในการนำมือถือมาทดสอบ เพื่อทำให้เทคโนโลยี 5G 3CC รับความถี่ได้มากเพียงใด ขั้นแรก เอไอเอส ต้องไปคุยและพัฒนาร่วมกับผู้ผลิตชิปเซ็ตมือถือเพื่อทำให้รู้ว่ามือถือที่กำลังออกรองรับหรือไม่ และผู้ผลิตมือถือเพื่อนำมาทดสอบกับเครือข่าย เพื่อหารุ่นที่มีความพร้อมที่สุดในการเปิดใช้เทคโนโลยี
การเปลี่ยนผ่านจากเทคโนโลยี 5G 2CC หรือ 4G ต้องขึ้นกับพื้นที่นั้นๆ ว่ามีการใช้งานเครือข่ายรูปแบบเดิมอยู่มากน้อยเพียงใด
การทดสอบจริงและรายชื่อรุ่นที่รองรับ
จากการทดสอบพบว่ามีการรองรับทั้งมือถือที่ใช้ชิป MediaTek และ Qualcomm ที่หลากหลายพอสมควร กลุ่มนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะเวลาหลังจากนี้อาจมีการเพิ่มเติมอีก เนื่องจากมือถือใหม่ไม่ได้เปิดตัวแค่ช่วงนี้ แต่แทบจะเปิดตัวทั้งปี รวมถึงเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ๆ ก็จะได้เห็นกัน

เมื่อทดลองพบว่าความเร็วที่ได้หากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำ Speed Test ก็สามารถทำความเร็วได้ระดับ 900 Mbps ไม่ยาก แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้ความเร็วนี้ เพราะระบบเครือข่ายจะดูว่ามือถือของคุณใช้อะไร เมื่อเทียบความเร็วแบบนี้ ช่วยให้เรื่องการตอบสนองได้ทุกรูปแบบไม่ยากเลย บางครั้งอาจเร็วกว่าเน็ตบ้านอีก
การสำรวจเครือข่ายในกลางเมืองแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการใช้งานเปลี่ยนแปลงอย่างไร เครือข่ายก็ต้องปรับตัวให้ทันกับอุปกรณ์และกระแสเทคโนโลยีที่เข้ามามากขึ้น เอไอเอส เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าการพัฒนาไม่สิ้นสุดและจะไปต่อเรื่อยๆ ตราบใดที่อุปกรณ์มีการเปลี่ยนแปลงและโลกมีเทคโนโลยีใหม่ๆ
ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้อมือถือใหม่ตลอด เพราะบางครั้งรุ่นที่ใช้อยู่อาจรองรับเทคโนโลยีใหม่อยู่แล้ว