Apple เตรียมเปิดตัว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พร้อมการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การใช้งานมือถือระดับพรีเมียม

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เริ่มต้นจากการที่ iPhone 17 Pro รุ่นใหม่คาดว่าจะเปลี่ยนกลับมาใช้โครงสร้างอลูมิเนียม แทนที่ไทเทเนียมที่ใช้ใน iPhone 15 Pro และ iPhone 16 Pro การเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมกับดีไซน์ด้านหลังแบบ “อลูมิเนียม-กระจกผสม” ที่จะสร้างรูปลักษณ์ใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงของ Apple กล้องด้านหลังจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นแบบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แทนการจัดเรียงแบบเดิม ขณะที่เลนส์กล้องยังคงการจัดเรียงแบบสามเหลี่ยม สีใหม่ที่น่าสนใจคือ Sky Blue ที่จะทำให้ iPhone 17 Pro มีตัวเลือกสีที่แตกต่างจากรุ่นก่อน

ระบบกล้องได้รับการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ โดยกล้องหน้าจะอัปเกรดเป็น 24 เมกะพิกเซล เพิ่มขึ้นจาก 12 เมกะพิกเซลของรุ่นปัจจุบัน ขณะที่กล้องเทเลโฟโต้จะมีความละเอียด 48 เมกะพิกเซล ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือการบันทึกวิดีโอแบบ Dual Recording ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมกันผ่านแอพกล้องมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนการถ่ายวิดีโอ 8K ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟนของ Apple การที่สามารถถ่ายวิดีโอด้วยความคมชัดระดับโรงภาพยนตร์นี้จะเปิดโอกาสใหม่ให้กับครีเอเตอร์และนักถ่ายภาพมืออาชีพ

หัวใจสำคัญของเครื่องคือชิป A19 Pro ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm รุ่นที่ 3 จาก TSMC ชิปตัวใหม่นี้จะให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นเดิม ส่วน Wi-Fi 7 จะใช้ชิปที่ Apple ออกแบบเอง แทนการพึ่พาผู้ผลิตภายนอกอย่าง Broadcom การที่ Apple ออกแบบชิป Wi-Fi เองนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ภายนอก

การอัปเกรดที่สำคัญอีกประการคือ iPhone 17 Pro รุ่นใหม่จะมาพร้อม RAM ขนาด 12GB เพิ่มขึ้นจาก 8GB ของรุ่นปัจจุบัน การอัปเกรดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Apple Intelligence และการทำงานหลายๆ แอปพลิเคชันพร้อมกัน ผู้ใช้จะสามารถเรียกใช้แอปพลิเคชันหนักๆ ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความช้า ระบบระบายความร้อนได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดย iPhone 17 Pro คาดว่าจะใช้ระบบ Vapor Chamber ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบายความร้อนขั้นสูงที่จะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในการใช้งานหนัก เทคโนโลยีนี้จะช่วยกระจายความร้อนได้ดีกว่าระบบเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมหรือใช้แอปพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพสูงได้นานขึ้นโดยไม่มีปัญหาเครื่องร้อน

สุดท้าย iPhone 17 Pro Max จะมีความหนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าเดิม การปรับปรุงนี้จะช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการผสมผสานของฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone

อ้างอิง | Macrumors.com