News

สงครามสมาร์ทโฟนบางเฉียบปี 2025 เมื่อ iPhone 17 Air ท้าชน Galaxy S25 Edge ใครจะเป็นราชาแห่งความบาง

Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Edge เป็นตัวจริงแล้ว ด้วยความบางเพียง 5.8 มิลลิเมตร ส่วน Apple เตรียมตอบโต้ด้วย iPhone 17 Air ที่คาดว่าจะบางกว่าอีก แข่งขันเพื่อครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนเรือธงที่บางที่สุดในโลก

Samsung ออกสตาร์ทแรกด้วย Galaxy S25 Edge

Samsung ได้ประกาศเปิดตัว Galaxy S25 Edge อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเริ่มจำหน่ายในเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม และในตลาดสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ราคาเริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 256GB

ข้อมูลจากการทดลองใช้งานจริงพบว่า Galaxy S25 Edge มีความบางเพียง 5.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเบาเพียง 163 กรัม ซึ่งเบากว่าแม้แต่ Galaxy S25 รุ่นมาตรฐาน อุปกรณ์ใช้เฟรมไทเทเนียมพร้อมหน้าจอ Gorilla Glass Ceramic 2 และด้านหลังเป็น Gorilla Glass Victus 2

หน้าจอและการแสดงผล

Galaxy S25 Edge มาพร้อมหน้าจอ AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2,796 x 1,290 พิกเซล และรองรับอัตราการรีเฟรช 1-120Hz แบบปรับได้อัตโนมัติ เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ ของ Samsung

สำหรับ iPhone 17 Air คาดว่าจะใช้แผงหน้าจอ Samsung M14 OLED ที่ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และอาจจะได้เทคโนโลยี ProMotion เป็นครั้งแรกในไลน์อัป iPhone รุ่นปกติ

ประสิทธิภาพและชิปประมวลผล

Galaxy S25 Edge ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite Mobile Platform for Galaxy เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในตระกูล Galaxy S25 ขณะที่ iPhone 17 Air คาดว่าจะมาพร้อมชิป A19 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรจาก TSMC

อย่างไรก็ตาม ความบางพิเศษอาจส่งผลต่อการระบายความร้อน ซึ่งอาจจำกัดประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องได้

กล้องและการถ่ายภาพ

Galaxy S25 Edge มีกล้องหลัก 200 เมกะพิกเซล ที่ให้ความละเอียดเดียวกับ Galaxy S25 Ultra แต่ขาดกล้องเทเลโฟโต้เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ มีเพียงกล้องอัลตร้าไวด์ 12 เมกะพิกเซลเป็นกล้องที่สอง กล้องหน้า 12 เมกะพิกเซล

สำหรับ iPhone 17 Air คาดว่าจะใช้กล้องหลัก 48 เมกะพิกเซลคล้ายกับ iPhone 16 Pro พร้อมกล้องหน้า 24 เมกะพิกเซล และอาจมี Dynamic Island แทนการเจาะรูหน้าจอแบบปกติ

ข้อจำกัดจากความบาง

การทำให้สมาร์ทโฟนบางลงต้องแลกมาด้วยการเสียสละหลายอย่าง Galaxy S25 Edge มีแบตเตอรี่ขนาด 3,900 มิลลิแอมป์ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าแม้แต่ Galaxy S25 รุ่นมาตรฐาน ผลการทดสอบพบว่าใช้งานได้ประมาณ 28 ชั่วโมงด้วยเวลาเปิดหน้าจอ 7 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่า Galaxy S25 Plus ถึง 4 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังขาดกล้องเทเลโฟโต้สำหรับการซูม และมีราคาแพงกว่ารุ่นมาตรฐาน

การออกแบบและวัสดุ

Galaxy S25 Edge ใช้เฟรมไทเทเนียมเพื่อความแข็งแรง ในขณะที่ iPhone 17 Air คาดว่าจะใช้อลูมิเนียมเพื่อให้เบาและบางยิ่งขึ้น Apple อาจตัดช่องใส่ซิมกายภาพออกไปเพื่อลดความหนา ใช้เฉพาะ eSIM เท่านั้น

ตลาดและราคา

Galaxy S25 Edge มีราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ ซึ่งแพงกว่ารุ่นมาตรฐาน แต่ Samsung เสนอโปรโมชั่นอัพเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีจาก 256GB เป็น 512GB สำหรับการสั่งจองล่วงหน้า

iPhone 17 Air คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025 และอาจมาแทนที่ iPhone Plus ในไลน์อัป ราคายังไม่มีการเปิดเผย

การตอบรับจากตลาด

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความกังวลว่าการแข่งขันทำสมาร์ทโฟนให้บางที่สุดอาจทำให้ผู้ผลิตลืมสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคต้องการจริง อย่างอายุแบตเตอรี่และความสามารถของกล้อง

อย่างไรก็ตาม การถือใช้งานจริงของ Galaxy S25 Edge สร้างความประทับใจให้กับผู้ทดลองใช้หลายคน ที่รู้สึกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ดูหนาและหนักเกินไป

การแข่งขันระหว่างสองอุปกรณ์นี้จะเป็นการทดสอบว่าผู้บริโภคพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสิทธิภาพและอายุแบตเตอรี่เพื่อความบางและเบาหรือไม่ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในอนาคต

อ้างอิง | Phonearena.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เคาะราคา “Galaxy Z Fold3 และ Galaxy Z Flip3 Thom Browne Edition” เริ่มต้น 76,000 บาท
เอาอีกแล้ว! “iPhone 14” โทร 911 ผิดพลาดอีกครั้งจากการเล่นของนักเล่นสกีหรือนักสโนว์บอร์ด
ดื่มด่ำช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปกับบทเพลงสุดพิเศษจาก Apple Music ใน From Apple Music

Leave Your Reply

*