News

Apple เปิดตัวฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึงใหม่บน iPhone, Mac และ Vision Pro ที่จะมาในปีนี้

Apple ประกาศคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอันทรงพลังที่จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ รวมถึง Accessibility Nutrition Labels บน App Store และฟีเจอร์ใหม่หลากหลาย

Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ที่จะมาในปีนี้ พร้อมเสริมความสามารถให้อุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro คุณสมบัติเด่นประกอบด้วย Accessibility Nutrition Labels บน App Store ที่จะแสดงข้อมูลคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงของแอปแต่ละตัว แอปแว่นขยายสำหรับ Mac ที่ช่วยให้ผู้ที่มีสายตาเลือนรางเข้าถึงสิ่งรอบตัวได้ง่ายขึ้น และประสบการณ์ Braille Access แบบใหม่ที่เปลี่ยนอุปกรณ์ให้กลายเป็นเครื่องจดโน้ตอักษรเบรลล์

Tim Cook, CEO ของ Apple กล่าวว่า “ที่ Apple การช่วยการเข้าถึงเป็นส่วนหนึ่งใน DNA ของเรา การทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้สำหรับทุกคนคือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ และเรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้แบ่งปันนวัตกรรมใหม่ในปีนี้”

Accessibility Nutrition Labels จะเพิ่มส่วนใหม่ในหน้ารายละเอียดแอปบน App Store เพื่อแสดงคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงของแอปและเกมแต่ละรายการ ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบได้ก่อนดาวน์โหลดว่าจะเข้าถึงแอปนั้นได้หรือไม่ ป้ายเหล่านี้จะแสดงการรองรับคุณสมบัติต่างๆ อาทิ VoiceOver, การสั่งการด้วยเสียง, ข้อความตัวใหญ่ และคำบรรยาย

Accessibility Nutrition Labels บน App Store

Eric Bridges, ประธานและ CEO ของ American Foundation for the Blind กล่าวว่า “Accessibility Nutrition Labels ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับการช่วยการเข้าถึง ผู้บริโภคควรมีสิทธิ์ได้รับข้อมูลตั้งแต่แรกว่าพวกเขาจะเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นได้หรือไม่”

แอปแว่นขยายบน Mac ที่จะเปิดตัวใหม่ในปีนี้ ช่วยให้ผู้ที่มีสายตาเลือนรางใช้กล้องเพื่อซูมดูสิ่งรอบตัว เช่น หน้าจอหรือกระดานไวท์บอร์ด แอปยังรองรับการเชื่อมต่อกับกล้อง iPhone ผ่านคุณสมบัติกล้องต่อเนื่อง รวมถึงกล้อง USB และสามารถอ่านเอกสารด้วยมุมมองด้านหน้าโต๊ะ ผู้ใช้สามารถทำงานแบบมัลติทาสก์ด้วยหน้าต่างถ่ายทอดสดหลายหน้าต่าง ปรับความสว่าง คอนทราสต์ และฟิลเตอร์สีได้ตามความต้องการ

Braille Access เป็นประสบการณ์ใหม่ที่แปลง iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro ให้กลายเป็นเครื่องจดโน้ตอักษรเบรลล์แบบครบครัน ผู้ใช้สามารถเปิดแอปผ่านการพิมพ์ด้วยอักษรเบรลล์บนหน้าจอหรืออุปกรณ์เบรลล์ที่เชื่อมต่อ จดโน้ตและคำนวณด้วย Nemeth Braille (รหัสเบรลล์สำหรับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์) และเปิดไฟล์ BRF (Braille Ready Format) ได้โดยตรง

Accessibility Reader คือโหมดการอ่านใหม่ทั่วทั้งระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ที่มีภาวะดิสเล็กเซียหรือสายตาเลือนรางอ่านข้อความได้ง่ายขึ้น ใช้งานได้บน iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro พร้อมตัวเลือกปรับแต่งแบบอักษร สี และระยะห่างระหว่างบรรทัด

คุณสมบัติคำบรรยายสดพร้อมใช้งานบน Apple Watch แล้ว มาพร้อมคำบรรยายแบบเรียลไทม์สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน คุณสมบัติฟังสดจะเปลี่ยน iPhone ให้เป็นไมโครโฟนระยะไกลส่งเสียงไปยัง AirPods หรือหูฟัง Made for iPhone ขณะที่ Apple Watch แสดงคำบรรยายของสิ่งที่ iPhone ได้ยิน

visionOS บน Apple Vision Pro จะขยายขีดความสามารถในการช่วยการเข้าถึงด้วยคุณสมบัติซูมที่ทรงพลังขึ้น ให้ผู้ใช้ซูมดูสิ่งต่างๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ใช้ VoiceOver คุณสมบัติสังเกตรอบตัวจะใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์เพื่ออธิบายสิ่งรอบตัว ค้นหาวัตถุ และอ่านเอกสารได้แม่นยำ นักพัฒนายังจะได้ใช้ API ใหม่ที่ช่วยให้แอปเข้าถึงกล้องหลักเพื่อให้ความช่วยเหลือแบบตัวต่อตัวในการตีความภาพแบบเรียลไทม์

เสียงเบื้องหลังสามารถปรับแต่งได้ง่ายขึ้นด้วยการตั้งค่า EQ ใหม่ ตัวเลือกหยุดเสียงอัตโนมัติ และแอ็คชั่นใหม่สำหรับแอปคำสั่งลัด เสียงส่วนตัวปรับปรุงให้เร็วและใช้งานง่ายขึ้น สร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีโดยใช้เสียงบันทึกเพียง 10 วลี พร้อมรองรับภาษาสเปน (เม็กซิโก) เพิ่มเติม

จุดนำสายตาเมื่ออยู่บนรถที่ช่วยลดอาการเมารถกำลังจะพร้อมใช้งานบน Mac ผู้ใช้การติดตามดวงตาบน iPhone และ iPad สามารถเลือกใช้การกดสวิตช์หรือการอยู่นิ่งเพื่อสั่งการได้ การพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดขณะใช้การติดตามดวงตาหรือการควบคุมสวิตช์จะง่ายขึ้นด้วยนาฬิกาจับเวลาการอยู่นิ่งบนคีย์บอร์ดใหม่และการรองรับ QuickPath

Music Haptics บน iPhone ปรับแต่งได้มากขึ้น เลือกให้ระบบตอบสนองด้วยการสั่นตลอดทั้งเพลงหรือเฉพาะช่วงเสียงร้อง คุณสมบัติการจำเสียงเพิ่ม Name Recognition ช่วยให้ผู้ที่หูหนวกหรือมีความบกพร่องทางการได้ยินรู้เมื่อมีคนเรียกชื่อ

การสั่งการด้วยเสียงเพิ่มโหมดการเขียนโปรแกรมใน Xcode สำหรับนักพัฒนาที่มีข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว พร้อมความสามารถซิงค์คำศัพท์ระหว่างอุปกรณ์และรองรับภาษาเพิ่มรวมถึงเกาหลี อาหรับ ตุรกี อิตาลี สเปน จีนกลาง อังกฤษ (สิงคโปร์) และรัสเซีย

คำบรรยายสดเพิ่มการรองรับภาษามากขึ้น รวมถึงภาษาอังกฤษ (อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สิงคโปร์) จีนกลาง กวางตุ้ง สเปน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมัน และเกาหลี CarPlay อัปเดตด้วยการรองรับข้อความขนาดใหญ่และคุณสมบัติการจำเสียงที่แจ้งเตือนเสียงเด็กร้อง แตร และไซเรน

Share Accessibility Settings เป็นวิธีใหม่ในการแชร์การตั้งค่าการช่วยการเข้าถึงไปยัง iPhone หรือ iPad เครื่องอื่นแบบชั่วคราว เหมาะสำหรับการยืมอุปกรณ์หรือใช้ Kiosk สาธารณะในคาเฟ่

Sarah Herrlinger, ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Global Accessibility Policy and Initiatives ของ Apple กล่าวว่า “ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา Apple ไม่เคยหยุดสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการช่วยการเข้าถึง และวันนี้เรายังคงเดินหน้าต่อไปด้วยคุณสมบัติใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา”

เพื่อเฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (Global Accessibility Awareness Day) Apple Retail กำลังเปิดพื้นที่จัดแสดงคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงบนอุปกรณ์ต่างๆ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการตลอดเดือนพฤษภาคม Apple Music แบ่งปันเรื่องราวของศิลปิน Kiddo K และพลังของ Music Haptics พร้อมเปิดตัวเพลย์ลิสต์วิดีโอเพลงพร้อมล่ามภาษามือ ASL

Apple TV+ จะฉายสารคดี Apple Original เรื่อง Deaf President Now! ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองในปี 1988 เมื่อนักศึกษาสี่คนนำฝูงชนผ่านการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยสำหรับผู้พิการทางการได้ยินแห่งเดียวในโลก

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เจาะลึก iPhone 17 Air สมาร์ทโฟนบางที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมฟีเจอร์ระดับ Pro ในราคาที่เข้าถึงได้
ลือ Apple อาจจะเปิดตัว iPhone ขนาด 4.7 นิ้วใช้ CPU A13 ใหม่ในปี 2020
Apple และ Samsung ตอบโต้ โฆษณาล้อเลียนในอินเดียของ Xiaomi

Leave Your Reply

*