
Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด VIVOACTIVE 6 พร้อมบริการสมาชิก Garmin Connect+ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย
Garmin ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จีพีเอสและสมาร์ทวอทช์ระดับโลก ได้ประกาศเปิดตัว VIVOACTIVE 6 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับคนรักสุขภาพ โดยมาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยให้ผู้ใช้งานติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Garmin ยังได้เปิดตัวโปรแกรมสมาชิก Garmin Connect+ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

VIVOACTIVE 6 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่ให้สีสันสดใส คมชัด อ่านง่ายแม้อยู่ใต้แสงแดดจ้า และมีแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 11 วัน ที่โดดเด่นคือการรวมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายยอดนิยมกว่า 80 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ พิลาทิส ฟีเจอร์แสดงท่าออกกำลังกายบนหน้าจอ (On-screen Animated Workouts) และฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดสำหรับการฝึกการเคลื่อนไหวข้อต่อ (Mobility Workouts)
คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการประจำ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “ข้อมูลอินไซด์สุขภาพเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจร่างกายของตัวเอง สามารถดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง รวมถึงพัฒนาเพอร์ฟอร์แมนซ์สู่การพิชิตเป้าหมายการออกกำลังกายใหม่ๆ ได้ VIVOACTIVE 6 จึงมาพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายระดับพรีเมียมที่จะมอบการเข้าถึงข้อมูลอินไซด์ร่างกายตั้งแต่ตื่นนอนในตอนเช้า ทำกิจกรรมระหว่างวัน ไปจนถึงพักผ่อนในช่วงกลางคืน เป็นทั้งเพื่อนคู่ใจในทุกย่างก้าว และเป็นโค้ชส่วนตัวที่ช่วยซัพพอร์ตผู้ใช้ให้พิชิตทุกเป้าหมายการออกกำลังกาย”
สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่างนาฬิกาปลุกอัจฉริยะ (Smart Wake Alarm) ที่จะปลุกผู้สวมใส่อย่างอ่อนโยนด้วยการสั่นเบาๆ ในช่วงที่ผู้ใช้อยู่ในสเตจหลับตื้น และสามารถรับรายงานตอนเช้า (Morning Report) ที่สรุปภาพรวมการนอนในคืนที่ผ่านมา อินไซด์การฟื้นตัวของร่างกาย ระดับพลังงานร่างกาย (Body Battery) รวมถึงปฏิทินประจำวัน
ฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่สำคัญของ VIVOACTIVE 6 ประกอบด้วย การติดตามระดับพลังงานร่างกาย (Body Battery) ที่แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาไหนเหมาะสำหรับการออกกำลังกายหรือพักผ่อน, Sleep Coach ที่ให้คะแนนคุณภาพการนอนและคำแนะนำระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล, HRV Status ที่ติดตามความแปรปรวนอัตราการเต้นหัวใจขณะหลับ, การติดตามความเครียด (Stress Tracking), ฟีเจอร์สมาธิและการหายใจ (Meditation and Mindful Breathing), การติดตามค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Pulse OX) และฟีเจอร์สุขภาพสำหรับผู้หญิง (Women’s Health)
สำหรับนักกีฬา VIVOACTIVE 6 รองรับกิจกรรมกีฬากว่า 80 ชนิด พร้อมฟีเจอร์พิเศษสำหรับนักวิ่งอย่าง Running Dynamics ที่ติดตามรอบขา (Cadence) ระยะก้าว (Stride Length) และเวลาที่เท้าสัมผัสพื้น (Ground Contact Time) รวมถึงฟีเจอร์วัดค่าพลังงานที่ใช้ในการวิ่ง (Running Power) และ Pace Pro ที่ให้คำแนะนำเพซการวิ่งที่เหมาะสม
นอกจากนี้ VIVOACTIVE 6 ยังมีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สามารถส่งข้อความพร้อมตำแหน่งที่อยู่ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินหากตรวจพบเหตุการณ์ผิดปกติ และระบบชำระเงินไร้สัมผัส Garmin Pay ที่รองรับบัตรเครดิตจากธนาคารที่เข้าร่วม รวมถึงบริการ Garmin x Rabbit สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย
สำหรับบริการ Garmin Connect+ เป็นโปรแกรมสมาชิกที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์ Garmin โดยมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Active Intelligence ที่ประมวลผลด้วย AI เพื่อให้ข้อมูลอินไซด์และคำแนะนำที่เหมาะกับแต่ละบุคคล, Performance Dashboard สำหรับดูกราฟและชาร์ตเปรียบเทียบข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย, Live Activity ที่แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์บนสมาร์ทโฟน, Training Guidance ที่ให้คำแนะนำการฝึกซ้อมโดยผู้เชี่ยวชาญ, ฟีเจอร์ Live Track ที่อัพเกรดให้สามารถปรับแต่งโปรไฟล์การแชร์ข้อมูลได้ และฟีเจอร์ทางสังคมอย่างกรอบโปรไฟล์พิเศษและเหรียญสัญลักษณ์จากการทำชาเลนจ์ต่างๆ

VIVOACTIVE 6 มีให้เลือกหลากหลายสีทั้ง Black Slate, Bone/Lunar Gold, Jasper Green และ Pink Dawn วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกโปรแกรม Garmin Connect+ สามารถทดลองใช้ฟรีได้ 30 วัน และสมัครสมาชิกรายเดือนในราคา 249 บาท หรือรายปี 2,490 บาท ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Garmin หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม Garmin Thailand
Garmin ก่อตั้งขึ้นในปี 2532 โดย แกรี่ เบอร์เรลล์ และ ดร.มิน คาโอ และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสูงในหลากหลายธุรกิจทั้งการบิน ยานยนต์ การเดินเรือ กีฬาและออกกำลังกาย และกิจกรรมกลางแจ้ง ปัจจุบัน Garmin มีสำนักงานใหญ่ที่รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานทั่วโลกกว่า 80 แห่ง พร้อมพนักงานกว่า 16,000 ราย และมีสำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 21 แห่ง พร้อมพนักงานกว่า 7,600 ราย