แม้ว่าวันเปิดตัว iPhone 16 ซีรีส์ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Apple ว่าจะเป็นวันที่ 10 กันยายน

แต่มีความเชื่อมั่นสูงว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างมากมาย อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า AI อาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่

ล่าสุด SellCell แพลตฟอร์มซื้อขายอุปกรณ์มือถือออนไลน์ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของ iPhone กว่า 2,000 รายในสหรัฐอเมริกา เพื่อประเมินความสนใจในการอัปเกรดเป็น iPhone รุ่นปี 2024 ผลการสำรวจพบว่าประมาณ 62 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามกำลังพิจารณาที่จะอัปเกรดเป็น iPhone 16

ปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจอัปเกรดสำหรับเกือบหนึ่งในสามของผู้ใช้ iOS คือราคาของโทรศัพท์รุ่นใหม่ รองลงมาคือระบบระบายความร้อนที่คาดว่าจะได้รับการปรับปรุง โดยมีผู้สนใจ 26.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาความร้อนสูงเกินไปในรุ่น Pro ปัจจุบัน ความสามารถด้าน AI อยู่ในอันดับที่สาม (21.9 เปอร์เซ็นต์) ตามมาด้วยชิปประมวลผลที่เร็วขึ้น (21.5 เปอร์เซ็นต์) และหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับรุ่น Pro (19.3 เปอร์เซ็นต์)

ในด้านขนาดของโทรศัพท์ 55 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความชื่นชอบต่อโทรศัพท์ขนาดใหญ่ ขณะที่ 33 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าขนาดที่ใหญ่เกินกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจเป็นปัจจัยลบต่อการตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ เกือบ 12 เปอร์เซ็นต์ยังคงหวังว่าจะมีโทรศัพท์ขนาดเล็กลงและพร้อมที่จะรอ iPhone SE 4 ตามข่าวลือ ทั้งนี้ ผู้ใช้ชาย (62 เปอร์เซ็นต์) ดูจะชื่นชอบรุ่น Pro ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าผู้ใช้หญิง (48 เปอร์เซ็นต์)

แม้ว่ามีข่าวลือว่าฟีเจอร์ AI อาจไม่พร้อมใช้งานในวันเปิดตัว แต่ 82 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามยินดีที่จะรอหนึ่งเดือนเพื่อให้ได้ใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว

สำหรับผู้ที่ไม่มีแผนจะซื้อ iPhone 16 ซึ่งมีอยู่ 38 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมด เหตุผลหลักคือไม่สามารถซื้ออุปกรณ์ใหม่ได้ (34 เปอร์เซ็นต์) และพอใจกับโทรศัพท์ปัจจุบัน (34 เปอร์เซ็นต์)

แม้ว่าการสำรวจนี้จะมีผู้เข้าร่วมเพียง 2,000 ราย แต่ก็ถือว่ามีขนาดตัวอย่างที่เพียงพอในการให้ผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการสำรวจนี้บ่งชี้ว่าผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะอัปเกรดเมื่อ iPhone 16 เปิดตัวในเดือนกันยายนนี้

อ้างอิง | Macrumors.com