CARS

โตโยต้าเปิดตัว C-HR+ รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ กำลังสูงสุดถึง 338 แรงม้า

ล่าสุด โตโยต้า ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ C-HR+ ซึ่งเป็นรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุดถึง 338 แรงม้า

โตโยต้า ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกลยุทธ์การตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยยกเลิกการใช้แบรนด์ “beyond Zero” หรือ “bZ” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดความสับสนในการเรียกชื่อผลิตภัณฑ์ แม้ว่าชื่อ C-HR+ อาจยังไม่สื่อชัดเจนว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่นี่คือทิศทางใหม่ที่บริษัทเลือกใช้

ในด้านการออกแบบ C-HR+ มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับ C-HR รุ่นมาตรฐาน แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีฐานล้อที่ยาวกว่า ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระในห้องท้ายถึง 416 ลิตร พร้อมกับห้องโดยสารที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร การออกแบบที่เพิ่มขนาดนี้ไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบายแต่ยังตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถในกลุ่ม SUV ขนาดกลางอีกด้วย

C-HR+ ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งมีความใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น bZ4X มากกว่า C-HR รุ่นมาตรฐาน โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบระบบขับเคลื่อน ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) สำหรับรุ่น RWD ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า เมื่อใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็ก 57.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในขณะที่รุ่นที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 77 กิโลวัตต์ชั่วโมง จะมีมอเตอร์ที่ให้กำลัง 221 แรงม้า

โตโยต้า C-HR+

แม้ว่าทาง โตโยต้า ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัดสำหรับทุกรุ่น แต่บริษัทระบุว่า C-HR+ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งถือเป็นระยะทางที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม SUV

สำหรับรุ่นที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ (AWD) จะจับคู่กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 77 กิโลวัตต์ชั่วโมงเท่านั้น และให้กำลังสูงสุดถึง 338 แรงม้า นับเป็นสมรรถนะที่น่าประทับใจสำหรับรถ SUV ขนาดกลางจาก โตโยต้า ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจแก่ผู้ใช้งาน

เรื่องระยะเวลาในการชาร์จยังคงเป็นปริศนา แต่บริษัทระบุว่า C-HR+ รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ เมื่อเชื่อมต่อกับสถานีชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charging station) ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการชาร์จให้สั้นลงเมื่อเทียบกับการชาร์จแบบทั่วไป

โตโยต้า C-HR+

ภายในห้องโดยสารของ C-HR+ ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ C-HR รุ่นมาตรฐาน แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่ดีขึ้น แผงหน้าปัดได้รับการอัพเกรดด้วยหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลและหน้าจอกลางขนาด 14 นิ้ว ซึ่งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่น่าเสียดายที่ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศแบบกายภาพได้ถูกรวมเข้าไปในซอฟต์แวร์ ทำให้ผู้ขับขี่ต้องใช้หน้าจอสัมผัสสำหรับการควบคุมเกือบทุกอย่าง

คันเกียร์มีขนาดเล็กลง และผู้ใช้มีตัวเลือกสำหรับหลังคาพาโนรามาและแท่นชาร์จไร้สายสองช่อง ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานภายในห้องโดยสาร

โตโยต้า เผยว่าจะนำ C-HR+ เข้าสู่ตลาดในบางประเทศในยุโรปภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ในทวีปยุโรปจะได้รับรถ SUV รุ่นนี้ในปี 2026 ยังไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีการนำเข้ามาจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียหรือไม่

อ้างอิง | Arenaev.com

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เจาะอนาคตต้นแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสุดเท่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในงาน Japan Mobility Show 2023
Tesla เผยโฉม Cybertruck รุ่นประหยัดใหม่ RWD 70,000 ดอลลาร์ วิ่งได้ไกล 563 กม. แต่ตัดฟีเจอร์เพียบ!
เตรียมพบกับ! โรดสเตอร์ MG CYBERSTER และ คูเป้เอสยูวีสุดหรู IM LS6 ในงาน Motor Expo ครั้งที่ 40

Leave Your Reply

*