วันนี้ Dyson เปิดตัว 6 ผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับสุขอนามัยที่ดีในครัวเรือน พร้อมทั้งเผยเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่รวบรวมระบบอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์ขั้นสูง และระบบอัจฉริยะเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ดีที่สุด

โดย จอห์น เชอร์ชิลล์ (John Churchill) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Dyson (Chief Technology Officer at Dyson) ได้เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดนี้ ณ สำนักงานใหญ่ (St James Power Station) ประเทศสิงคโปร์ พร้อมเผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของสุขอนามัยภายในบ้าน ที่มีต้นกำเนิดจากความเชี่ยวชาญของ Dyson ที่มุ่งมั่นพัฒนาในเทคโนโลยีการกรองอากาศ การไหลเวียนของอากาศ มอเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวิทยาการหุ่นยนต์มาหลายทศวรรษ

วิทยาการหุ่นยนต์ ระบบตรวจจับ และระบบอัจฉริยะ ล้วนถูกพิจารณาว่าเป็น “นวัตกรรมแห่งอนาคต” แต่ที่ Dyson สิ่งเหล่านี้นับเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรามาอย่างยาวนาน วิศวกรของเราได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาปรับใช้ พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดภาระ ประหยัดเวลา และลดอุปสรรคต่าง ๆ ในการรักษาสุขอนามัยภายในครัวเรือน

ซึ่งนี่เป็นแนวคิดที่วิศวกรของเรายึดมั่นมาโดยตลอด โดยบ้านในอนาคตจากวิสัยทัศน์ของ Dyson คือบ้านที่สะอาดได้โดยเราไม่ต้องลงแรงทำความสะอาดเอง และนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรานั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มาพร้อมแรงดูดทรงพลัง เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่สามารถกรองอากาศในพื้นที่กว้างได้ รวมไปถึงเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีหัวดูดทำความสะอาดแบบมัลติฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน” จอห์น เชอร์ชิลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Dyson กล่าว

แม้ในปีที่ผ่านมาเราจะพบว่าระยะเวลาในการทำความสะอาดบ้านของผู้คนนั้นลดลง แต่ยังคงใช้เวลา 25 นาทีต่อสัปดาห์ หรือเทียบเป็น 65 ชั่วโมงต่อปีในการดูดฝุ่นภายในบ้าน ดังนั้นระบบตรวจจับ ซอฟต์แวร์ และระบบอัติโนมัติ จึงเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของผลิตภัณฑ์ Dyson ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นหรือเครื่องฟอกอากาศ เพราะนวัตกรรม และเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนให้ผลิตภัณฑ์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมอบการปฎิบัติการที่เหมาะสม ซึ่งการทำงานที่สอดคล้องกันนี้เริ่มตั้งแต่ตัวซอฟต์แวร์ที่ส่งผลต่อการตรวจจับที่แม่นยำ ระบบไฟฟ้า และระบบอัตโนมัติ รวมไปถึงกลไกภายในผลิตภัณฑ์ อย่างมอเตอร์ ตัวกรอง และตัวดักจับอนุภาค หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมพร้อมตอบสนองได้อย่างอัตโนมัติ

เทคโนโลยีหลักในผลิตภัณฑ์

เซ็นเซอร์และซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งในผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Dyson ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้การทำงานของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการในการใช้งาน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Dyson 360 Vis Nav มีเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับตำแหน่งของมุมห้องมาช่วยแก้ไขปัญหาการทำความสะอาดได้ไม่ถึงบริเวณขอบห้องของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไป โดยเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับมุมห้องได้แล้ว เครื่องดูดฝุ่นจะเปลี่ยนทิศทางการทำงานด้วยมอเตอร์ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวด้านข้าง เพื่อการเข้าทำความสะอาดบริเวณขอบหรือมุมห้องได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ระบบประมวลผลระดับสูงในตัวเครื่องยังสามารถวิเคราะห์ ปรับเปลี่ยน รวมถึงระบุตำแหน่งเป้าหมายได้ในระยะ 71 มิลลิเมตรอีกด้วย

dyson360visnav1

เครื่องดูดฝุ่นไร้สายของ Dyson มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Acoustic Piezo ในการระบุจำนวนและจำแนกประเภทของอนุภาคต่าง ๆ ที่ดูดจับมา และแจ้งเตือนผู้ใช้งานผ่านจอ LED ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการคำนวณกำลังดูดที่ต้องใช้ พร้อมช่วยปรับระดับกำลังดูดได้อย่างอัตโนมัติ

เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde ประกอบด้วยเซ็นเซอร์แบบผสม เซ็นเซอร์ในตัวเครื่องจะคอยวิเคราะห์อากาศและมลภาวะโดยรอบอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัลกอริทึมแบบเฉพาะของ Dyson จะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่าง ๆ ทุกวินาที พร้อมสามารถวิเคราะห์คุณภาพอากาศภายในห้อง หรือสั่งเปิดระบบฟอกอากาศอัตโนมัติเมื่อมลภาวะในห้องเพิ่มขึ้น

Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde

อีกทั้งยังสามารถสั่งปิดการใช้งานได้อัตโนมัติเมื่ออากาศในห้องสะอาดดีแล้ว นอกจากนั้นเซ็นเซอร์กำจัดฟอร์มาลดีไฮด์แบบโซลิดสเตตโซลิดสเตต (Solid-state) ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องฟอกอากาศนี้ ยังสามารถตรวจจับฟอร์มาลดีไฮด์ได้อย่างแม่นยำโดยไม่รวมข้อมูลกับจำนวนก๊าซ และสารอินทรีย์ระเหยง่ายต่าง ๆ (VOCs)

dysonpurifierbigquiet1
Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde

เครื่องดูดฝุ่น Dyson Gen5detect ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ที่ทำให้เซ็นเซอร์สามารถตรวจสอบความเร็ว รวมถึงอุณหภูมิของมอเตอร์ขณะใช้งานได้ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงหน้าจอการแสดงผลที่ช่วยระบุความผิดปกติของเครื่องดูดฝุ่น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทราบถึงความขัดข้องของตัวเครื่อง และดูแลรักษาเครื่อดูดฝุ่นด้วยตัวเองได้ อีกทั้งยังมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ Over-the-air ที่ช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นสามารถอัปเกรดคุณสมบัติต่าง ๆ และการปรับปรุงคุณภาพได้อย่างอัตโนมัติอีกด้วย

dysongen5detect1
เครื่องดูดฝุ่น Dyson Gen5detect

Dyson มีการพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ. 2547 จนถึงในปัจจุบัน มีการลงทุนไปแล้วมากกว่า 350 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง ทั้งในด้านการวิจัย ห้องปฏิบัติการทดลอง ทีมผู้เชี่ยวชาญ และความสามารถในการผลิต

โดยมอเตอร์ใหม่ Dyson Hyperdymium รุ่นที่ 5 มีขนาดที่เล็กกว่า หมุนเร็วกว่า และทรงพลังมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วยแรงหมุนมากถึง 135,000 รอบต่อนาที ซึ่งแรงกว่าเครื่องยนต์ Formula One ถึง 9 เท่า และพลังของมอเตอร์ Dyson Hyperdymium รุ่นที่ 5 นี้เอง จะทำให้เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Gen5detect มีแรงในการดูดสูงถึง 262 แอร์วัตต์ เพื่อมอบประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดีเยี่ยม

เป็นเวลามากกว่า 30 ปีแล้วที่การแยกอนุภาคด้วยแรงลมและตัวกรอง คือหัวใจหลักของผลิตภัณฑ์จาก Dyson ซึ่งเราได้ลงทุนในการสร้างห้องปฏิบัติการทดลองรวมถึงแท่นทดสอบที่วัดประสิทธิภาพการกรอง ที่ไม่ได้วัดแค่ประสิทธิภาพตัวกรอง (Filter) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่อุตสาหกรรมกำหนดเท่านั้น แต่ยังวัดประสิทธิภาพในการกรองของผลิตภัณฑ์จาก Dyson พร้อมทั้งยังมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการทดสอบทั้งหมดในผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องฟอกอากาศของเราอีกด้วย

dysongen5detect2
เครื่องดูดฝุ่น Dyson Gen5detect

โดยเครื่องดูดฝุ่นจาก Dyson มาพร้อมเทคโนโลยีการกรอง 5 ระดับ ในถังที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนา โดยเริ่มจากตัวกรองที่ช่วยแยกสารด้วยเทคโนโลยีไซโคลน (Cyclonic separation) หรือเทคโนโลยีดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากกระแสลมในถังแยกสาร ไปจนถึงไซโคลนแพ็ค (Cyclone pack) ตัวกรองตาข่ายเหล็ก และตัวกรองก่อนและหลังมอเตอร์ เพื่อการแยกอนุภาคขนาดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนเครื่องฟอกอากาศ Dyson ประกอบไปด้วยตัวกรอง 3 ชั้น ที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพการกรองอากาศระดับสูงภายในอาคาร สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.1 ไมครอน ด้วยตัวกรองใยแก้ว HEPA พร้อมทั้งยังสามารถดักจับก๊าซมลพิษ ดูดซับไนโตรเจนไดออกไซด์3 (NO2) และสลายโมเลกุลฟอร์มาลดีไฮด์ได้อย่างต่อเนื่อง4

HEPA H13 คือมาตรฐานตัวกรองของตัวกรอง HEPA ซึ่งการที่เครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องดูดฝุ่นสามารถผ่านมาตรฐาน HEPA H13 ได้ หมายถึงว่า มลภาวะหรืออนุภาคใดก็ตามที่เข้าไปข้างในเครื่องนั้นแล้ว จะไม่มีวันกลับออกมาด้านนอก ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ปิดผนึกที่มิดชิด ไม่มีช่องว่างให้สิ่งสกปรกหรืออากาศที่ยังไม่ได้ถูกกรองแล้วออกจากตัวเครื่อง

ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Dyson 360 Vis Nav5 เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde และเครื่องฟอกอากาศ Dyson HEPA Big+Quiet purifier ได้รับการรับรองแล้วว่าผ่านมาตรฐาน HEPA H13 และเครื่องดูดฝุ่น Dyson Gen5detect รวมถึงเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ล่าสุดของ Dyson ทั้งสองรุ่นก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถดักจับไวรัสได้

ภาพรวมผลิตภัณฑ์

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Dyson 360 Vis Nav นับเป็นอีกก้าวของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะจาก Dyson มาพร้อมกับพลังดูดทรงพลังที่สุดซึ่งมากกว่าผลิตภัณฑ์ดูดฝุ่นอื่นถึง 6 เท่า พร้อมได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้หุ่นยนต์สร้างแผนที่ของสภาพแวดล้อมโดยรอบขณะกำลังเคลื่อนที่และสามารถระบุตำแหน่งของตัวเองไปพร้อมกันได้ (Simultaneous Localisation and Mapping)

โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Dyson 360 Vis Nav  มีระบบการมองเห็น 360 องศา พร้อมเลนส์ ฟิชอายแบบครึ่งวงกลมที่ช่วยในการจดจำตำแหน่งที่เคยไปมา ตรวจจับบริเวณที่ควรเข้าไปทำความสะอาด และสามารถสร้างแผนที่ฝุ่นในบ้านของคุณได้อย่างชาญฉลาด

Dyson 360 Vis Nav

โดยมีระบบประมวลผลระดับสูงไว้เก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ทั้ง 26 ตัวเพื่อมอบการทำงานรูปแบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม รวมถึงการตรวจจับฝุ่น การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และการตรวจจับผนัง เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้แบบจรดขอบ และเข้าถึงทุกซอกทุกมุม

โดดเด่นด้วยด้ามแปรงใหม่ที่ทำงานแบบ Triple-action เต็มความกว้าง อย่างแปรงไนลอน ‘Fluffy’ สำหรับเก็บเศษขยะขนาดใหญ่ และเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำหน้าที่ต้านไฟฟ้าสถิตเพื่อแยกฝุ่นผงขนาดเล็กออกจากพื้นแข็ง มาพร้อมขนแปรงไนลอนแบบแข็งที่สามารถใช้กับพื้นพรมได้ และระบบกันสั่นช่วงล่างแบบดูอัลลิงก์ (Dual link) ที่ช่วยให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถขึ้นไปยังพื้นต่างระดับได้สูงถึง 21 มิลลิเมตร และด้วยรูปทรงที่แบนและต่ำทำให้สามารถเข้าไปทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ได้ที่ความต่ำสุด 99 มิลลิเมตร หลังจากใช้งานไป 50 นาที6 ตัวเครื่องจะกลับไปชาร์จที่แท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ และแอปพลิเคชัน MyDyson จะรายงานการทำความสะอาดหลังใช้งานในแต่ละครั้ง

dyson360visnav2
Dyson 360 Vis Nav

“หุ่นยนต์ดูดฝุ่นควรเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาความสะอาดบ้านของคุณได้อย่างชาญฉลาดโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำเอง การใช้งานเครื่องดูดฝุ่นเหล่านี้ต้องอาศัยอัลกอริทึมในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน การตีความข้อมูลด้วยสิ่งที่เห็น ความสามารถในการตรวจจับฝุ่น รวมไปถึงเทคโนโลยีสำหรับมอเตอร์ที่ทรงพลัง ซึ่งวิศวกรของเราได้นำทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นของเรามาประยุกต์เข้ากับซอฟต์แวร์อัจริยะเพื่อพัฒนา Dyson 360 Vis Nav หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะที่ทรงพลังที่สุดของเรา” – เจค ไดสัน (Jake Dyson) หัวหน้าทีมวิศวกรของ Dyson (Chief Engineer at Dyson) กล่าว

เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่โล่งขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ส่วนเครื่องฟอกอากาศ Dyson HEPA Big+Quiet Purifier ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่เชิงพานิชย์ อย่างเช่นสำนักงาน ร้านค้า หรือสถานีบริการ โดยรูปร่างที่คล้ายกรวยของตัวเครื่องถูกออกแบบมาตามหลักการอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ที่ทำให้สามารถฟอกอากาศได้ไกลถึง 10 เมตร รวมถึงเซ็นเซอร์ใหม่สำหรับตรวจจับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)7 จะช่วยระบุว่าควรฟอกอากาศตอนไหน นอกเหนือจากความสามารถในการฟอกอากาศอันทรงพลังแล้ว Dyson Purifier Big+Quiet ยังถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างเงียบเชียบ โดยทำให้เกิดเสียงเพียงแค่ 56 เดซิเบลเท่านั้น ทำให้นี่เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศที่เงียบแต่ทรงพลังที่สุดของ Dyson

dysonpurifierbigquiet2
เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde

ตัวกรอง HEPA H13 มีอายุการใช้งาน 5 ปี สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กพิเศษได้ 99.95%8 ขณะที่ตัวกรองตัวใหม่อย่าง K-Carbon จะกำจัดก๊าซ9และไนโตรเจนออกไซด์ (NO2) ซึ่งเป็นมลพิษได้มากถึง 3 เท่า10 และแผ่นกรอง Selective Catalytic Oxidation (SCO) สามารถกำจัดฟอร์มาลดีไฮด์ได้ถาวรตลอดอายุการใช้งาน11 โดยเซ็นเซอร์จะตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง และจะรายงานผลอากาศแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน MyDyson12

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Gen5detect ใช้เทคโนโลยีมอเตอร์ Hyperdymium รุ่นที่ 5 สร้างพลังดูดที่ไม่มีใครเทียบได้ และมีความสามารถในการดักจับไวรัสภายในบ้านของคุณ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายนี้มีตัวกรอง HEPA ภายในระบบถังปิดผนึกทั้งตัวเครื่อง โดยออกแบบมาเพื่อให้สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.99%13 พร้อมกับไซโคลน 14 ตัวที่สามารถคัดแยกฝุ่นออกจากกระแสลมโดยไม่ต้องสูญเสียพลังดูด14 จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะทำความสะอาดได้อย่างหมดจดในทุกครั้ง มาพร้อมกับหัวดูดทำความสะอาด Fluffy Optic ตัวใหม่ซึ่งมีความสว่างของแสงเลเซอร์และขนาดที่เพิ่มขึ้น15 จะทำให้คุณมองเห็นฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ชัดขึ้น 2 เท่าและรู้จุดที่ควรทำความสะอาดได้อย่างแม่นยำ โดยแบตเตอรี่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานแบบถอดใส่ได้สามารถมอบพลังดูดให้คุณได้นานต่อเนื่องถึง 70 นาที

dysonsubmarine2
Dyson V12s Detect Slim Submarine

เครื่องดูดฝุ่น Dyson V15s Detect Submarine และเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12s Detect Slim Submarine มาพร้อมกับหัวดูดทำความสะอาดลูกกลิ้งแบบเปียก Dyson Submarine ซึ่งสามารถปล่อยน้ำทำความสะอาดออกมาในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับการกำจัดรอยเปื้อน คราบสกปรก และเศษขยะชิ้นเล็กบนพื้นแข็งได้อย่างหมดจด หัวดูดทำความสะอาดลูกกลิ้งแบบเปียกนี้ถูกออกแบบทางวิศวกรรมด้วยระบบไฮเดรชัน (Hydration) 8 จุด ที่ใช้ช่องแรงดันช่วยกระจายน้ำให้เต็มความกว้างของลูกกลิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นเปียกจนเกินไปหลังการทำความสะอาด

dysonsubmarine1
Dyson V12s Detect Slim Submarine

ลูกกลิ้งมอเตอร์ไมโครไฟเบอร์สามารถกำจัดรอยเปื้อน คราบสกปรกฝังลึก และเศษขยะชิ้นเล็ก ครอบคลุมพื้นที่ถึง 110 ตารางเมตร ด้วยถังบรรจุน้ำขนาด 300 มิลลิลิตร แผ่นโลหะภายในจะแยกน้ำที่ปนเปื้อนกับสิ่งสกปรกออกจากหัวลูกกลิ้งและทิ้งในถังน้ำเสียที่แยกต่างหาก

ผู้ใช้งานจึงสามารถมั่นใจได้ว่าฝุ่นและเศษขยะจะไม่กลับไปอยู่บนพื้นอีก การออกแบบหัวดูดทำความสะอาดลูกกลิ้งแบบเปียก Dyson Submarine มีรูปทรงต่ำและด้ามแปรงยาวซึ่งช่วยกำจัดฝุ่น คราบสกปรก และเศษขยะชิ้นเล็กที่อยู่ใต้เฟอร์นิเจอร์หรือจุดที่เข้าถึงยากได้อย่างง่ายดาย

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
เผยดีไซน์ใหม่ “Wireless Charge” ของ OPPO มีชื่อว่า AirVOOC ให้กำลังสูงสุด 40W
Apple เริ่มขาย “iPhone 12” และ “iPhone 12 Pro” รุ่น Refurbished
YouTube เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ช่วยครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์และเพิ่มรายได้

Leave Your Reply

*