News PR

POCO เปิดตัว F8 Series พร้อมเทคโนโลยีเสียง Bose และเพลงพิเศษจาก THE TOYS

กรุงเทพฯPOCO แบรนด์สมาร์ทโฟนที่ครองใจคนรุ่นใหม่ที่รักเทคโนโลยี เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด POCO F8 Ultra และ POCO F8 Pro ในงานเปิดตัวระดับโลกที่บาหลี

โดยนับเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมอย่างเป็นทางการ พร้อมความร่วมมือพิเศษกับ Bose ผู้นำด้านเทคโนโลยีเสียงระดับโลก และ THE TOYS ศิลปินชื่อดังเพื่อส่งมอบประสบการณ์ครั้งใหม่ผ่านบทเพลง “แบกเธอได้ (Your Duelist)” ที่จะเปิดตัววันที่ 18 ธันวาคมนี้

ความร่วมมือกับ Bose ยกระดับเสียงบนสมาร์ทโฟน

การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมการประกาศความร่วมมือระหว่าง POCO และ Bose เพื่อนำเทคโนโลยีเสียง Sound by Bose มาสู่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยความมุ่งมั่นร่วมกันในด้านประสิทธิภาพและนวัตกรรม เพื่อมอบเสียงที่คมชัด ดื่มด่ำ และคุณภาพสูงให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วโลก พร้อมยกระดับขีดจำกัดของประสบการณ์การฟังบนสมาร์ทโฟน

นอกจากนี้ POCO ประเทศไทยยังเดินหน้าสร้างประสบการณ์ครั้งใหม่ให้กับโลกสมาร์ทโฟนด้วยการร่วมโปรเจ็คสุดพิเศษกับ THE TOYS ศิลปินชื่อดังชั้นแนวหน้าของเมืองไทยที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และเกมเมอร์ เพื่อร่วมกันรังสรรค์เพลงที่ถ่ายทอดออกมาในแบบฉบับของเกมเมอร์ การร่วมมือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของ POCO ที่ได้ถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ผ่านเสียงเพลงอย่างเต็มรูปแบบภายใต้บทเพลง “แบกเธอได้ (Your Duelist)” ซึ่งจะพร้อมให้ทุกคนรับชมรับฟังพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 บนช่องทางโซเชียลมีเดียหลักของ POCO และ What the duck

มร. คัง โหลว ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และโฆษกของ POCO Global กล่าวว่า “ตลอดเจ็ดปีแห่งความพยายามอย่างทุ่มเท POCO ได้เติบโตจนกลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาดสมาร์ทโฟน และท้าทายกับขนบเดิมๆ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สมาร์ทโฟน POCO F8 Series ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดย POCO F8 Ultra ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างแท้จริง ในขณะที่ POCO F8 Pro ยังคงยึดมั่นในปรัชญาของเราในการสร้างประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทรงพลังและรอบด้านให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น POCO กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมและแบรนด์จะยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและคุ้มค่าที่ทุกคนเข้าถึงได้”

POCO F8 Ultra กับประสิทธิภาพขั้นสุด

POCO F8 Ultra เข้ามากำหนดนิยามให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งอนาคต ด้วยสถาปัตยกรรมชิปเซ็ตคู่ที่ผสาน Snapdragon 8 Elite Gen 5 และชิปเซ็ต VisionBoost D8 ที่ได้รับการอัปเกรด จึงช่วยปลดล็อกศักยภาพประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์ เสริมด้วยประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียมด้วยเทคโนโลยีเสียง Sound by Bose ซึ่งได้ผสานรวมเอาระบบเสียงระดับพรีเมียม ภาพอันสมจริง การถ่ายภาพระดับมืออาชีพ และสไตล์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์

POCO F8 Ultra เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 8 Elite Gen 5 โดยทำคะแนน AnTuTu ได้มากกว่า 3,944,934 คะแนน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต VisionBoost D8 ที่ได้รับการอัปเกรดจึงช่วยให้ทุกเกมได้รับประโยชน์จากฟังก์ชันประสิทธิภาพหลักสามประการ ได้แก่ อัตราเฟรมอัจฉริยะสูงสุด 120 FPS, ความละเอียดสูงสุด 1.5K และ Game HDR (เทคโนโลยีที่เพิ่มช่วงสีและความคมชัดในเกม) นอกจากนี้ยังมาพร้อม AI Super Resolution ผ่านโมดูล GEX ใหม่ ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อเกมยอดนิยม 5 เกม ซึ่งรวมไปถึง Call of Duty: Mobile และ Honkai: Star Rail จากการทดสอบประสิทธิภาพเกม RPG นั้นสามารถเล่นได้ต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมงที่ 120 FPS เมื่อใช้ AI Super Resolution และ Game HDR โดยประสิทธิภาพและคุณภาพของภาพไม่ลดลง

ในระดับซอฟต์แวร์ WildBoost Optimization จะช่วยปรับสมดุลการทำงานของ CPU และการเรนเดอร์ของ GPU อย่างละเอียดส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลงและความร้อนลดลง เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล โดย POCO F8 Ultra ยังสามารถปรับแต่งอัตราเฟรมได้ต่ำสุด 1% อีกด้วย ในการเล่นเกม อัตราเฟรมเฉลี่ยสะท้อนความเร็วโดยรวมแต่การลดลงของประสิทธิภาพเพียงช่วงสั้นๆ ก็สามารถรบกวนประสบการณ์การเล่นเกมได้ นี่จึงเป็นจุดที่อัตราเฟรมต่ำ 1% นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันหมายถึง 1% ของเฟรมที่ต่ำที่สุดในช่วงการเล่น โดยหลักแล้ว เป็นการติดตามช่วงเวลาที่เกิดความหน่วงมากที่สุด จากการทดสอบการเล่นเกม FPS เป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่อัตรา 120 FPS POCO F8 Ultra แสดงความเสถียรที่เหนือกว่า ด้วยอัตราเฟรมเฉลี่ย 119.65 FPS และอัตราเฟรมต่ำสุด 1% คงที่ที่ 89.71 FPS ในขณะที่ใช้พลังงานเพียง 3897.27 เมกะวัตต์ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่ง

เทคโนโลยี LiquidCool ยังช่วยรักษาความเสถียรในการเล่นเกมเป็นระยะเวลานาน ด้วยระบบช่องคู่แบบสามมิติ และระบบ IceLoop แบบสองชั้น ชั้นแรกมีพื้นผิวโค้งนูนขนาดใหญ่ที่จัดวางเพื่อสอดรับกับเมนบอร์ด ขณะที่ชั้นสองมีพื้นผิวโค้งนูนขนาดเล็กกว่า ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับชิป SoC และดีไซน์แบบวงจรคู่ยังช่วยจัดการความร้อนที่เกิดจากโมดูลกล้องอีกด้วย เมื่อผสานเข้ากับระบบ IceLoop ขนาด 6700 ตารางมิลลิเมตร ระบบนี้จะสามารถกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ประสิทธิภาพคงที่แม้จะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียมจาก Bose

POCO F8 Ultra มาพร้อมความโดดเด่นในด้านระบบเสียงบนสมาร์ทโฟนโดยใช้เทคโนโลยีเสียง Sound by Bose ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเป็นผู้นำด้านเสียงและการมอบประสบการณ์เสียงอันยอดเยี่ยมจากอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด Bose จึงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างสรรค์ จากการร่วมมือกับทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญสูงของ POCO ในครั้งนี้ Bose ได้ช่วยพัฒนาระบบเสียงอะคูสติกแบบลำโพงสามตัวที่มีคุณภาพสูงสำหรับ POCO F8 Ultra โดยการนำสถาปัตยกรรมเสียงแบบ 2.1 ช่องสัญญาณมาใช้ ระบบนี้ช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำกัดที่มีอยู่ในตัวของการออกแบบสมาร์ทโฟนขนาดพกพา เป็นครั้งแรกบนอุปกรณ์เสียงบนสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถสัมผัสเบสที่หนักแน่น เสียงที่ชัดเจน และดื่มด่ำไปกับความกว้างของเสียง จึงมอบประสบการณ์เสียงบนสมาร์ทโฟนที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง

ความร่วมมือครั้งนี้ก่อให้เกิดโปรไฟล์เสียงที่แตกต่างกันสองแบบบน POCO F8 Series ได้แก่ “Dynamic” ที่ให้เสียงเบสที่สมจริงและเต็มอิ่ม และ “Balanced” ที่ให้เสียงร้องที่สมดุลและบริสุทธิ์ โดยผู้ใช้สามารถเลือกโปรไฟล์เสียงที่ตรงกับความต้องการเพื่อยกระดับคุณภาพเสียงทั้งในด้านการเล่นเกม การสตรีม และการฟังเพลง

มร. นิค สมิธ ประธานฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยีเสียงและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Bose กล่าวว่า “Bose รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ POCO เพื่อมอบเสียงระดับพรีเมียมให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในยุคใหม่ ด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเสียงของ Bose เข้ากับนวัตกรรมด้านการออกแบบและเทคโนโลยีของ POCO ทำให้ POCO F8 Series มอบความคมชัดและความลึกระดับใหม่ ที่จะนิยามความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเสียงบนสมาร์ทโฟน”

มร. คัง โหลว ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และโฆษกของ POCO Global กล่าวต่อว่า “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ Bose สำหรับคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนเป็นทั้งเครื่องเล่นเกมและลำโพงตัวหลัก ทำให้เสียงคุณภาพสูงเป็นสิ่งจำเป็น หลังจากร่วมพัฒนาทางวิศวกรรมมาหลายเดือน ตั้งแต่การออกแบบฮาร์ดแวร์ไปจนถึงการปรับแต่งประสบการณ์การฟังอย่างละเอียด ความร่วมมือครั้งนี้ได้เป็นก้าวใหม่สำหรับ POCO ในขณะที่เรายังคงเดินหน้าสำรวจว่าเสียงระดับพรีเมียมจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีของผู้คนได้อย่างไร”

หน้าจอ POCO HyperRGB คุณภาพสูง

POCO F8 Ultra สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล ด้วยการเปิดตัวหน้าจอ POCO HyperRGB ซึ่งแตกต่างจากหน้าจอแบบ OLED 2K ทั่วไป หน้าจอนี้ใช้นวัตกรรมโครงสร้างซับพิกเซล (subpixel คือหน่วยแสงขนาดเล็กที่ประกอบขึ้นเป็นพิกเซล) RGB เต็มรูปแบบ ซึ่งซับพิกเซลสีแดง-เขียว-น้ำเงินถูกใช้งานอย่างเต็มที่ ด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำกว่าจอหน้า POCO F7 Ultra รุ่นก่อนหน้าถึง 19.5% จึงมอบความหนาแน่นและความคมชัดของซับพิกเซลที่ยอดเยี่ยม ให้ภาพที่คมชัดและสดใสเทียบเท่ากับความละเอียด 2K

นอกจากนี้หน้าจอยังใช้วัสดุเรืองแสง M10 เป็นครั้งแรกในการเปิดตัวทั่วโลกครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 11.4% และลดการใช้พลังงานลงอีกขั้น ด้วยการรองรับการหรี่แสง DC ตลอดวันและความสว่างต่ำพิเศษเพียง 1 nits หน้าจอจึงมอบประสบการณ์การรับชมที่สบายตาแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน ขณะที่หน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว และขอบจอบางเฉียบก็ช่วยมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำทั้งการอ่าน ดูวิดีโอ และเล่นเกม

ระบบกล้องระดับมืออาชีพ

POCO F8 Ultra มอบการถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่เทียบเท่ากับประสิทธิภาพระดับพรีเมียม มาพร้อมเซ็นเซอร์ Light Fusion 950 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS หรือ Optical Image Stabilization) ที่มอบช่วงไดนามิกที่สูงและการใช้พลังงานต่ำ เพื่อให้สามารถถ่ายภาพได้นานยิ่งขึ้นแม้ในสภาพแสงที่ยากต่อการถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.31 นิ้ว พร้อมพิกเซลขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มีความไวแสงเพิ่มขึ้น 43% เมื่อผสานกับเลนส์ 1G+6P ที่ยอดเยี่ยมและกระบวนการเคลือบหลายชั้นที่แม่นยำ ระบบจะช่วยลดแสงแฟลร์และแสงสะท้อนของเลนส์ ช่วยเพิ่มความบริสุทธิ์ของภาพและปรับปรุงการแสดงผลรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ

POCO F8 Ultra ยังมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP และกล้องเทเลโฟโตความละเอียด 200MP ที่สามารถซูมได้สูงสุด 100 เท่า นอกจากนี้ยังมีกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 50MP ที่สนับสนุนการถ่ายภาพมาโครในระยะใกล้ถึง 2 ซม. ระบบ AI เซ็กเมนต์กลุ่ม 2.0 ช่วยให้การแก้ไขภาพพอร์เทรตเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยการแยกพื้นหน้าและพื้นหลังโดยอัตโนมัติ ทำให้การปรับแต่งมีความแม่นยำยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกระดับความเบลอและปรับแต่งภาพตามความต้องการได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้ POCO F8 Ultra ยังผสานรวมฟีเจอร์ แกลเลอรี่เวทมนตร์ของ Xiaomi ซึ่งใช้พลัง AI เพื่อยกระดับการจัดการภาพ Xiaomi ยังได้ร่วมมือกับ Google เพื่อนำฟีเจอร์ Google Gemini มาสู่อุปกรณ์ทำให้ผู้ใช้สามารถปฏิสัมพันธ์กับความช่วยเหลือเชิงสนทนา AI ที่รองรับการวิเคราะห์ภาพ และค้นหาสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ โดยสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ด้วยการลากจากมุมล่างขวาหรือมุมล่างซ้าย

การชาร์จไวและแบตเตอรี่ทนทาน

POCO F8 Ultra มาพร้อมเทคโนโลยี 100W HyperCharge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 6100mAh ให้เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 48 นาที เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เคลื่อนไหวไว ทำให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์จะไม่ขาดแคลนพลังงานตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไร้สายความเร็วสูงสุด 50W ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จได้อย่างสะดวกสบายตลอดเวลา

ดีไซน์พรีเมียมและระบบปฏิบัติการล่าสุด

POCO F8 Ultra มาพร้อมดีไซน์ที่หรูหราและทันสมัย พร้อมระบบป้องกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP69 ซึ่งเป็นระดับการป้องกันที่สูงที่สุด สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์และสามารถทนต่อการฉีดน้ำด้วยแรงดันสูงที่อุณหภูมิสูง อุปกรณ์มีน้ำหนักเพียง 207 กรัม และมีความหนาเพียง 8.2 มม. สำหรับรุ่น Denim Blue และ 8.65 มม. สำหรับรุ่น Camo Green และ Crystal Black

เครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 3 ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Android 15 พร้อมฟีเจอร์ Xiaomi HyperConnect ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงฟีเจอร์ Xiaomi HyperAI ที่นำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการใช้งานประจำวัน เช่น AI Writing สำหรับการเขียนข้อความอัจฉริยะ และฟีเจอร์การสื่อสารแบบออฟไลน์ที่สามารถโทรติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย

POCO F8 Ultra ยังมาพร้อมชิปปรับสัญญาณ Xiaomi Surge T1S Tuner และ Xiaomi Surge T1+ Tuner ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพสัญญาณและการรับส่งข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น รองรับเครือข่าย 5G และมีความเข้ากันได้กับ eSIM สำหรับความสะดวกในการใช้งานระหว่างประเทศ

POCO F8 Pro ทางเลือกที่คุ้มค่า

POCO F8 Pro ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพระดับเรือธงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมหนัก พร้อมหน่วยความจำ RAM สูงสุด 16GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 1TB

หน้าจอ POCO HyperRGB ขนาด 6.7 นิ้ว ให้ภาพที่คมชัดและสดใส ด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า POCO F7 Pro รุ่นก่อนหน้าถึง 14% และใช้วัสดุเรืองแสง M9+ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างถึง 8% พร้อมรองรับการหรี่แสง DC ตลอดวันและความสว่างต่ำพิเศษเพียง 1 nits

ด้านกล้อง POCO F8 Pro มาพร้อมเซ็นเซอร์ Light Fusion 850 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 20MP และกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 50MP ที่สนับสนุนการถ่ายภาพมาโคร นอกจากนี้ยังมีกล้องเทเลโฟโตความละเอียด 50MP ที่สามารถซูมได้สูงสุด 60 เท่า

แบตเตอรี่ขนาด 6000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W HyperCharge ที่สามารถชาร์จให้เต็ม 100% ได้ภายในเวลาเพียง 37 นาที พร้อมดีไซน์ที่บางเบาน้ำหนัก 192 กรัม และความหนาเพียง 7.9 มม. สำหรับรุ่น Summit White และ 8.2 มม. สำหรับรุ่น Silver Gray และ Crystal Black

POCO F8 Pro ยังมาพร้อมระบบป้องกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68 (สามารถจมน้ำลึกได้สูงสุด 1.5 เมตร นานถึง 30 นาที) และระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 3 พร้อมฟีเจอร์ AI ต่างๆ เช่นเดียวกับ POCO F8 Ultra

ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

POCO F8 Ultra มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • POCO F8 Ultra 12GB+256GB ราคา 29,999 บาท จากราคาปกติ 32,999 บาท
  • POCO F8 Ultra 16GB+512GB ราคา 32,999 บาท จากราคาปกติ 35,999 บาท
  • POCO F8 Ultra 16GB+1TB ราคา 35,999 บาท จากราคาปกติ 38,999 บาท

POCO F8 Pro มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • POCO F8 Pro 12GB+256GB ราคา 19,999 บาท จากราคาปกติ 21,999 บาท
  • POCO F8 Pro 12GB+512GB ราคา 21,999 บาท จากราคาปกติ 23,999 บาท
  • POCO F8 Pro 16GB+1TB ราคา 24,999 บาท จากราคาปกติ 26,999 บาท

POCO F8 Series พร้อมจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Shopee, Lazada, JD Central, TikTok Shop และร้านค้าปลีกชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึง Powerbuy, IT City, Banana และ Jay Mart

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) ผ่าน Shopee หรือ Lazada ระหว่างวันที่ 20-25 พฤศจิกายน 2568 จะได้รับส่วนลดและของแถมมูลค่าสูงสุดถึง 6,000 บาท รวมถึงแฟน POCO เก่าจะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 200 บาท

สำหรับลูกค้าที่ซื้อผ่านช่องทาง Shopee หรือ Lazada ในช่วง 26-30 พฤศจิกายน 2568 จะได้รับส่วนลดและของแถมมูลค่าสูงสุดถึง 4,000 บาท พร้อมโอกาสลุ้นรับรางวัลใหญ่ในแคมเปญ Mega Treasure Hunt ที่มีมูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท รวมถึงโอกาสลุ้นรับ POCO F8 Series ฟรี หูฟัง Xiaomi Buds 6 Play และ Voucher สูงสุด 30,000 บาท

ลูกค้าที่ซื้อผ่านร้านค้าปลีกจะได้รับของแถมมูลค่าสูงสุด 1,000 บาท พร้อมโอกาสลุ้นรับ Xiaomi Buds 6 Play และ Voucher 500 บาท นอกจากนี้ยังมีส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต Krungsri Exclusive และผู้ใช้ True Money Wallet เงื่อนไขโปรโมชั่นเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
กว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน … ชำแหละวิวัฒนาการผลิตมือถือ
หัวเว่ยเผยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2563
เจาะตลาดไฮบริดเวิร์ก! Jabra เปิดตัว PanaCast 40 VBS วิดีโอบาร์ Android ลุยห้องประชุมขนาดเล็ก

Leave Your Reply

*