Reviews-Previews Smartphone

รีวิว “vivo X300 Series” สมาร์ตโฟนซูมแรง กล้อง ZEISS คมชัด 200MP ถ่ายมุมไหนก็คมชัดเป๊ะ

ใครเคยไปดูคอนเสิร์ตแล้วเจอปัญหานี้บ้าง? นั่งไกลจนซูมเข้าไปถ่าย idol ที่รัก แต่ภาพออกมาพร่ามัวไม่เป็นท่า หรือต้องลุ้นเอาเป็นเอาตายว่าจะได้ที่นั่งแถวหน้าหรือเปล่า?

แต่พอมาวันนี้ปัญหาพวกนี้จะหมดไปแล้ว เพราะ vivo เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ใหม่ล่าสุด vivo X300 Series ที่มาพร้อม Tagline สุดปัง “แค่คลิก ซูมชิดติดเวที” ตอบโจทย์สายคอนเสิร์ตและสายถ่ายภาพกันเต็มที่

vivo X300 Pro + ชุดเลนส์เสริม

สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มาเป็นคู่ให้เลือก 2 รุ่น คือ vivo X300 และ vivo X300 Pro ที่เน้นหนักเรื่องกล้องถ่ายภาพซูมความละเอียดสูงสุดถึง 200MP ร่วมมือกับ ZEISS อีกครั้ง ยกทัพมาพร้อมชิปประมวลผลแรงระเบิด MediaTek Dimensity 9500 แบตเตอรี่อึดทนใช้ได้ทั้งวัน บวกกับดีไซน์สวยหรูสไตล์พรีเมียมสุดๆ วันนี้เราจะพาไปสำรวจกันว่าสมาร์ตโฟนตัวนี้เจ๋งแค่ไหน พร้อมไปดูกันเลย

vivo X300 Pro + vivo X300

พอได้กล่องสมาร์ตโฟน vivo X300 Series มาถึงมือ สิ่งแรกที่สะดุดตาคือกล่องที่ดีไซน์เรียบหรู ดูพรีเมียมเต็มๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันเปิด

vivo X300 Pro

พอเปิดฝากล่องขึ้นมาก็เจอตัวเครื่องสมาร์ตโฟนนอนเรียบร้อยอยู่ด้านบนสุด โชว์ฝาหลังสวยงามพร้อมโมดูลกล้องกลมโตที่เด่นสะดุดตาทันที ยิ่งเห็นโลโก้ ZEISS ก็ยิ่งรู้สึกว่าเจ้านี่ไม่ธรรมดาแน่ๆ

vivo X300 Pro

ภายในกล่องมีอุปกรณ์ครบชุดมาให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นหัวชาร์จแบบ 90W FlashCharge ที่ชาร์จเร็วปานสายฟ้า สายชาร์จ USB-C คุณภาพดี เคสที่ออกแบบมาเฉพาะให้พอดีและสีสันเข้ากับตัวเครื่องเป๊ะ เข็มดันซิมการ์ด คู่มือการใช้งานและเอกสารรับประกันต่างๆ ที่สำคัญคือยังมีฟิล์มกันรอยติดมากับเครื่องอยู่แล้ว ไม่ต้องวิ่งไปหาซื้อเพิ่มอีกให้เสียเวลา

เวลาหยิบสมาร์ตโฟน vivo X300 Series ขึ้นมาจับครั้งแรก สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือความรู้สึก “เบาและบางกว่าที่คิดไว้เยอะ” ทั้งๆ ที่ภายในแน่นขนัดไปด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และกล้องสเปกแรงๆ แต่ vivo ก็ยังสามารถสร้างสมดุลและความถนัดมือได้อย่างน่าทึ่ง

ด้านหลังของตัวเครื่อง

มาดูกันที่ vivo X300 Pro รุ่นท็อปที่มาพร้อมหน้าจอใหญ่ 6.78 นิ้ว น้ำหนักเพียง 226 กรัม หนาแค่ 7.99 มิลลิเมตร ตัวเลขพวกนี้ฟังดูเหมือนธรรมดา แต่พอรู้ว่าภายในบรรจุกล้องซูมเทเลโฟโต้พร้อมเซนเซอร์ขนาด 1/1.4 นิ้ว บวกกับแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุสูงถึง 6510mAh แล้วล่ะก็ ต้องยกนิ้วให้ vivo ที่ออกแบบให้บางเบาและใช้งานได้สบายมือขนาดนี้

ด้านหน้า vivo X300 Pro

vivo X300 Pro มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ Dune Brown (สีน้ำตาลทะเลทราย) อบอุ่นคลาสสิก Mist Blue (สีฟ้ามิสต์บลู) สงบชิคเต็มสไตล์ และ Phantom Black (สีดำแฟนทอม) หรูหราน่าเชื่อถือ

ถ้าพูดถึงดีไซน์ ต้องชมเทคโนโลยี Unibody 3D ที่เชื่อมโมดูลกล้องกับฝาหลังอย่างลงตัวไร้รอยต่อ ทำให้โมดูลกล้องดูเรียบเนียนไม่ทื่อ ขนาดกะทัดรัดกว่าที่คาด

ฝาหลังใช้เทคนิค Coral Velvet Glass สัมผัสนุ่มละมุน กันรอยนิ้วมือได้ดีเยี่ยม ไม่ต้องเช็ดบ่อยๆ ส่วนขอบหน้าจอบางเฉียบสมมาตรทุกด้าน ดูแล้วรู้เลยว่านี่คือสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม โดยเฉพาะรุ่น vivo X300 Pro ยังมีขอบเลนส์แบบเรียบเนียน พร้อมลวดลายซันเบิร์สท์ด้านข้างเลนส์เหมือนกล้องระดับโปรแท้ๆ ยิ่งมองยิ่งหลงรัก

ด้านหลัง vivo X300 Pro

ที่ขาดไม่ได้คือด้านหลัง ที่มาพร้อมฝาหลังดีไซน์ Unibody 3D เนียนสนิทไร้รอยต่อ โมดูลกล้องทรงกลมโค้งสวยงาม บริเวณด้านบนของขอบโมดูลมีข้อความ “VARIO APO SONNAR” เพิ่มความหรูหรา พร้อมไฟแฟลช LED อยู่มุมบนซ้าย ภายในโมดูลบรรจุทัพสามกล้องสุดแกร่ง ได้แก่ กล้องหลัก ZEISS Gimbal-Grade ความละเอียด 50MP กล้อง ZEISS APO Telephoto ความละเอียด 200MP ตัวเด็ดที่ซูมไกลได้คมชัด และกล้อง ZEISS Ultra-Wide ความละเอียด 50MP ถ่ายมุมกว้างได้อลังการ ครบครันพร้อมใช้งานทุกสถานการณ์

vivo X300 Pro

รายละเอียดรอบตัวเครื่องก็คิดมาอย่างดี กรอบอลูมิเนียมคุณภาพดี จับกระชับมือไม่ลื่น ด้านบนมีลำโพงสเตอริโอคุณภาพสูง และด้านล่างมีช่องซิมการ์ด 2 ซิม ไมโครโฟน พอร์ต USB-C และลำโพงสเตอริโออีกตัว ครบครันทุกฟังก์ชัน

ตัวเครื่องด้านบนและด้านล่างของ vivo X300 Pro

ด้านซ้ายวางปุ่ม Shortcut Button เข้าถึงฟีเจอร์ได้รวดเร็ว และในส่วนของด้านขวามีปุ่มปรับเสียงและปุ่ม Power วางในตำแหน่งที่จับได้สบาย

ด้านซ้ายและด้านขวาของตัวเครื่อง vivo X300 Pro

ทุกรายละเอียดของ vivo X300 Pro ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลงตัวและสะดวกสบายที่สุด คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์เลยล่ะ!

สมาร์ตโฟน vivo X300 Series มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ที่ใช้วัสดุเปล่งแสง Q10 plus จาก BOE ให้สีสันสดใสสมจริง ครอบคลุม 100% P3 Wide Color Gamut เหมาะเป๊ะสำหรับคนที่ชอบดูหนัง เล่นเกม หรือแก้ไขภาพถ่ายที่ต้องการความแม่นยำของสี

vivo X300 Pro โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1260 × 2800 พิกเซล (452 PPI) อัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้ภาพเลื่อนไหลลื่นไม่มีสะดุด พร้อมเทคโนโลยี Circularly Polarized Light 2.0 ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาใส่แว่น มองเห็นหน้าจอชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ต้องถอดแว่นออกมาดูอีกต่อไป

หน้าจอ vivo X300 Pro

ที่สำคัญคือความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วนแตะระดับ 4500nits พร้อมความสว่างสูงสุดทั่วหน้าจอ 2000nits แปลว่าแม้ออกไปถ่ายภาพกลางแดดจ้าแค่ไหนก็มองเห็นหน้าจอชัดเจนไม่มีปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระบบลดแสงกระพริบ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา พร้อมการรับรอง Low Blue Light มาตรฐานจาก SGS ปลอดภัยต่อสายตาแน่นอน

มาถึงจุดไฮไลท์ของสมาร์ตโฟน vivo X300 Series กันแล้ว นั่นก็คือกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 200MP ที่ร่วมมือกับ ZEISS ยักษ์ใหญ่ด้านเลนส์ระดับโลก ทำให้ซูมไกลแค่ไหนก็ยังคมชัดสวยงามตลอด

รุ่นท็อปอย่าง vivo X300 Pro มากับกล้อง 4 ตัวที่แต่ละตัวแจ่มจริง เริ่มต้นด้วยกล้องหลักหลัก 50MP เซนเซอร์ LYT-828 ขนาด 1/1.28 นิ้ว รูรับแสง f/1.57 พร้อมกันสั่น OIS มาตรฐาน CIPA 5.5 ที่ทำให้ถ่ายกลางคืนได้สวยสดใสคมชัดเป๊ะ

กล้อง ZEISS คมชัด 200MP

และที่เด็ดที่สุดคือกล้องซูมเทเลโฟโต้ ZEISS APO 200MP เลยล่ะมาพร้อมเซนเซอร์ HPB ขนาด 1/1.4 นิ้ว ทางยาวโฟกัส 85mm รูรับแสง f/2.67 กันสั่น OIS มาตรฐาน CIPA 5.5 ซูมไกล 10-30x ได้ภาพคมชัดปังสุดๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้เลนส์คุณภาพเกรดฟลูออไรต์ (Fluorite-Grade Glass Lens) ชิ้นแรกและชิ้นเดียวในวงการสมาร์ตโฟนตอนนี้! ผ่านการรับรอง ZEISS APO ช่วยลดการเกิดความคลาดสี เคลือบ ZEISS T* Coating ลดแสงโกสต์และแสงแฟลร์ ทำให้ได้ภาพคมชัดสวยงามทุกครั้ง ถ่าย Telephoto Macro ก็ได้รายละเอียดสวยงามไม่แพ้กัน

ส่วนกล้องมุมกว้าง ZEISS 50MP ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ด้วยเซนเซอร์ JN1 ทางยาวโฟกัส 15mm รูรับแสง f/2.0 มุมมองกว้างถึง 119 องศา ทำให้ถ่ายทิวทัศน์หรือกรุ๊ปเพื่อนได้หมดทุกคนไม่มีใครตกเฟรม

กล้อง ZEISS คมชัด 200MP

นี่คือกล้องซูมเทเลโฟโต้สุดแรงที่สุดในอุตสาหกรรมตอนนี้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro

และที่ขาดไม่ได้เลยคือกล้องหน้า ZEISS 50MP ที่มาพร้อมเซนเซอร์ JN1 ทางยาวโฟกัส 20mm รูรับแสง f/2.0 จุดเด่นคือมีระบบ Auto Focus ที่หาได้ยากในกล้องหน้าของสมาร์ตโฟนทั่วไป มุมมองกว้าง 92 องศา ทำให้เซลฟี่คมชัดสวยงามทุกมุม

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro

ถ่ายกรุ๊ปก็ได้หมดทุกคนไม่ตกเฟรม แถมถ่ายในที่แสงน้อยก็ยังสวยใสไม่มัวไม่มืด เหมาะสุดสำหรับสายเซลฟี่และคนชอบวิดีโอคอล

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า ZEISS 50MP
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า ZEISS 50MP

นอกจากฮาร์ดแวร์แรงแล้ว ยังมีชิปประมวลผลภาพ VS1 ที่ทำงานแบบ Pre-processes ประมวลผลขั้นแรกสุดก่อนส่งต่อให้ Dimensity 9500 และ V3+ ทำงานต่อ ช่วยให้ภาพพอร์ตเทรตคมชัด จัดการแสงสีดีขึ้น ลด noise ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มความเร็ว AI ของกล้อง 200% และลดการใช้พลังงาน 60%

ยังมีระบบไฟแฟลชอัจฉริยะ Adaptive Zoom Flash ที่รองรับการให้แสงแบบ Hardware Fill Light สำหรับเลนส์สามระยะ (24mm, 50mm และ 85mm) ถ่ายในที่แสงน้อยได้สวยสมดุล

ยิ่งไปกว่านั้น ยังถ่ายวิดีโอ 4K 120 FPS ได้ พร้อมรองรับ Dolby Vision HDR 120 FPS และ 10-bit Log ทำให้ได้วิดีโอสีสันสมจริง แก้ไขง่าย กันสั่น EIS วิดีโอนิ่งลื่นไหล เหมาะเป๊ะสำหรับสร้างคอนเทนต์วิดีโอคุณภาพสูง

ถ่ายวิดีโอ 4K
ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K รองรับ Dolby Vision

Stage Mode 2.0 แค่คลิกเดียวซูมชิดติดเวที โหมดนี้ออกแบบมาเพื่อถ่ายภาพในคอนเสิร์ตโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี Telephoto Magic 2.0 และ GTR 3.0 ช่วยให้ภาพพอร์ตเทรตของศิลปินชัดใสยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะนั่งแถวไหนก็ถ่ายได้สวย

โหมด Stage Mode 2.0

ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโหมด Concert Dual-View ถ่ายภาพจากสองเลนส์พร้อมกัน เก็บบรรยากาศเต็มที่กว่าที่เคย

สำหรับ X300 Pro นี่เป็นฟีเจอร์สุดเจ๋งที่ต้องลอง ซูมไกล 10-30x ได้ภาพคมชัดสวยงาม ระบบโฟกัสอัจฉริยะติดตามนกและดอกไม้ได้แม่นยำ รายละเอียดขนและเกสรชัดเป๊ะ เมื่อกล้องจับได้ว่ากำลังถ่ายนก จะปรากฏไอคอน ZEISS Mirotar โบเก้ใหม่ทำให้ภาพดูสวยงามมีศิลปะมากขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro

หนึ่งในฟีเจอร์เด่นสุดๆ ของ vivo X300 Series ที่ต้องพูดถึงเลยคือโหมด 200MP Ultra-High Resolution ที่ให้ความละเอียดสูงพิเศษเหนือระดับจริงๆ ไม่ใช่แค่กล้องเทเลโฟโต้เท่านั้นที่แรง แต่ยังมีให้ใช้ได้ครบทุกกล้องทั้งกล้องหลัก กล้องซูม และกล้องมุมกว้างด้วย ทำให้ถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ได้คมชัดสวยงามระดับโปรเต็มที่

200MP Ultra-High Resolution

ความเจ๋งของโหมดนี้คือเมื่อเปิดใช้งาน คุณจะได้ภาพที่คมชัดมากจนแทบไม่น่าเชื่อ ซูมเข้าไปดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังเห็นชัดเจนทุกจุด ไม่เบลอไม่พร่ามัว เหมาะสุดสำหรับคนที่ต้องการครอปภาพหรือพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ ก็ยังได้คุณภาพสูงสุดเหมือนเดิม

ไม่ว่าจะถ่ายภาพทิวทัศน์ ถ่ายคอนเสิร์ต ถ่ายคน ถ่ายสัตว์เลี้ยง หรือถ่ายอะไรก็ตาม เปิดโหมด 200MP Ultra-High Resolution แล้วจะได้ภาพคมชัดสุดยอดที่พร้อมจะใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพอีกต่อไป

ส่วนใครที่ชอบถ่ายทั้งคนและวิวในช็อตเดียว ต้องลองฟีเจอร์ AI Multi-Crop เลย ช่วยให้ในช็อตเดียวได้ทั้งภาพคนชัดและภาพวิวสวยครบทุกมุม เพียงเปิดโหมด 200MP แตะที่ไอคอนกรอบด้านขวาล่าง เลือกเฟรมที่ต้องการ AI จะช่วยตัดภาพหลายเฟรมให้อัตโนมัติ ไม่ต้องถ่ายหลายรอบให้เมื่อยแขน

ฟีเจอร์ AI Multi-Crop
ฟีเจอร์ AI Multi-Crop

แถมยังมีโหมดเทพอีกตัวคือ AI Landscape Master ที่มี 16 สไตล์ให้เลือก ขับเคลื่อนด้วย AIGC เปลี่ยนภาพในวันที่อากาศไม่ดีให้กลายเป็นท้องฟ้าสวยโปร่งได้แบบปาฏิหาริย์ ด้วยฟิลเตอร์สภาพอากาศ (Weather Filters) ไม่ว่าจะฝนตก หมอกหนา หรืออากาศไม่ดีแค่ไหนก็ยังได้ภาพสวย รองรับทั้งโหมดพอร์ตเทรตและทิวทัศน์

หรือจะเป็น สำหรับใครที่ชอบสไตล์ฟิล์มวินเทจ โทนสีคลาสสิก vivo X300 Series มีโหมดพิเศษมาให้เล่นแบบจุใจ!ด้วยโหมดกล้องฟิล์ม Multi-Style Imaging ที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ โดดเด่นด้วยโทน Cold Film และ Fujifilm-Inspired ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิกอบอุ่น เหมือนถ่ายด้วยกล้องฟิล์มจริงๆ

โหมดกล้องฟิล์ม อินเทอร์เฟซกล้องฟิล์ม

อินเทอร์เฟซกล้องฟิล์ม ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สลับโหมดได้คล่องมือ แค่แตะเลือกสไตล์ที่ชอบก็ถ่ายได้ทันที ไม่ต้องแต่งภาพด้วยแอปให้เสียเวลาอีกต่อไป โทนสีถูกปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน ให้ความรู้สึกโนสตัลเจีย เหมือนย้อนเวลากลับไปยุคฟิล์ม เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพสไตล์อาร์ตๆ มีเอกลักษณ์โดดเด่น ต่างจากภาพสมาร์ตโฟนทั่วไป แค่คลิกเดียวก็ได้ภาพสวยสไตล์ฟิล์มแบบไม่ต้องแต่งเพิ่ม

โหมดกล้องฟิล์ม อินเทอร์เฟซกล้องฟิล์ม

ต่อกันที่ AI พอร์ตเทรต 4 ฤดู อยากถ่ายฟีลไหน ฤดูไหน…ให้ AI ช่วยเลย ต่อมาคือฟีเจอร์ AI Four-Season Portrait ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ของ vivo อย่างเต็มตัวโดยฟีเจอร์นี้สามารถใส่ลูกเล่นเสมือนลงในภาพจริงเพื่อสร้างบรรยากาศตามฤดูกาลที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และตอนนี้เราสามารถแต่งได้ทั้งกับคนและวิวแล้ว

AI Four Season Portrait
AI Four Season Portrait
AI Four Season Portrait

และ Live Photo ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้คมชัดลื่นไหล ที่มาพร้อมของเล่นใหม่อย่าง Live Photo with Zoom Effect สร้างเอฟเฟกต์ซูมเข้า-ออกได้ในคลิกเดียว และ Live Photo Dolly Zoom ให้ฉากดูมีมิติโดดเด่นยิ่งขึ้น

Live Photo with Zoom Effect
Live Photo Dolly Zoom

ที่เจ๋งสุดๆ คือฟีเจอร์ Live Photo AI Erase ที่ลบคนหรือสิ่งรบกวนใน Live Photo ได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือกวงกลมรอบวัตถุที่ไม่ต้องการ ระบบจะลบออกจากทุกเฟรมอัตโนมัติอย่างแม่นยำ ผลลัพธ์ยังคงเป็น Live Photo เหมือนเดิม เจ๋งสุดๆ

ต่อกันที่ Fireworks Portrait ฟีเจอร์สุดเจ๋งที่ถ่ายพอร์ตเทรตกับพลุได้สวยทั้งคนทั้งฉาก ไฟแฟลชจะส่องไฟให้อัตโนมัติตามระยะห่าง ทำให้ได้ภาพสมดุลสวยงามไม่มืดไม่ไหม้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI อื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ทำให้สมาร์ตโฟน vivo X300 Series เป็นมากกว่าแค่เครื่องถ่ายภาพ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจและรู้ใจคุณจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรก็ใช้งานได้ง่าย ได้ภาพสวยทุกช็อต

พูดมาเยอะแล้ว ต้องให้ดูภาพจริงกันบ้างสิ! หลังจากที่ได้รู้จักกับสเปกกล้องสุดแรงของ vivo X300 Pro ไปแล้ว ถึงเวลามาดูกันแล้วว่าเมื่อถ่ายภาพจริงแล้วจะได้ผลลัพธ์ออกมาแบบไหน คมชัดแค่ไหน สีสันสวยสมจริงจริงไหม มาชมตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย vivo X300 Pro กันเลย!

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะซูมต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะซูมต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะซูมต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300 Pro

สมาร์ตโฟน vivo X300 Series มาพร้อมชิปเรือธง MediaTek Dimensity 9500 ที่แรงสุดในตอนนี้ ด้วย All-Big-Core CPU ที่แรงขึ้น +24% (Single-Core) และ +10% (Multi-Core) ทำให้เปิดแอปเร็วปรื๊ด ประมวลผลลื่นไหล

ตามด้วย GPU Industry #1 ให้ประสิทธิภาพอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม เล่นเกมกราฟิกสูงไหลลื่นไม่กระตุก พร้อม NPU Industry #1 ผู้นำด้าน AI ที่เร็วกว่าคู่แข่ง ทำให้ฟีเจอร์ AI ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลื่นไหล

MediaTek Dimensity 9500

นอกจากนี้ vivo X300 Pro ยังมาพร้อมชิป V3+ และชิปแยก VS1 ที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ช่วยประมวลผลภาพคมชัด โดยใช้พลังงานต่ำ ทำให้เราสามารถถ่าย 4K 60FPS Cinematic Portrait Video ครั้งแรกในอุตสาหกรรม พร้อมเอฟเฟกต์โบเก้และโทนภาพระดับมืออาชีพ รวมถึง Ultra-High-Quality Slow Motion สโลว์โมชั่นคุณภาพสูงคมชัดทุกเฟรม

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บน Android 16 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ vivo พัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เรียบง่าย ลื่นไหล และเป็นธรรมชาติมากที่สุด ผสานดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับการปรับแต่งอัจฉริยะด้วย AI

ระบบปฏิบัติการใหม่ OriginOS 6 บน Android 16

มีไฮไลท์สำคัญคือ Smooth Origin ที่มาพร้อมการออกแบบการเคลื่อนไหวแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี Spring Animation และ One-shot ทำให้การใช้งานดูต่อเนื่องสมจริงทุกการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงจากหน้าจอหลักหรือเอฟเฟกต์ขณะชาร์จแบตเตอรี่ ทุกอย่างลื่นไหลไร้สะดุด

ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บน Android 16
ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บน Android 16
ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บน Android 16
ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บน Android 16

ส่วน Origin Design ก็ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดทั้งภายในและภายนอก ตั้งแต่การจัดหน้าจอแบบแบ่งส่วนที่ดูเป็นระเบียบ การแสดงผลด้วยกราฟข้อมูลที่เข้าใจง่าย

OriginOS 6 บน Android 16
OriginOS 6 บน Android 16

ไปจนถึงชุดไอคอนที่ใช้งานได้กับทุกรุ่นสวยงามเป็นหนึ่งเดียว พร้อมปรับเอฟเฟกต์ของวัสดุและแสงให้สมจริงสวยงามยิ่งขึ้น

OriginOS 6 บน Android 16
OriginOS 6 บน Android 16
OriginOS 6 บน Android 16

ฟีเจอร์สุดเจ๋งอย่าง Flip Cards ที่ได้แรงบันดาลใจจากของเล่นเลนติคิวลาร์ แสดงภาพแตกต่างกันตามมุมเมื่อเอียงสมาร์ตโฟน รองรับทั้งภาพนิ่ง Live Photos และวิดีโอ ขับเคลื่อนด้วย Gyroscope ให้ผู้ใช้สลับภาพได้หลายทิศทาง ยกระดับประสบการณ์หน้าจอให้เหนือกว่าภาพนิ่งทั่วไปเยอะ

Flip Cards

Origin Island ขับเคลื่อนด้วยกรอบการทำงานที่รับรู้บริบทของเนื้อหาภายในสมาร์ตโฟน ผสานกับท่าทางสัมผัสที่ใช้งานง่าย เพื่อมอบคำแนะนำส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งานของคุณ ช่วยให้การทำงานสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมข้อมูลสำคัญอยู่ใกล้แค่คลิก

Office Kit

และที่ขาดไม่ได้คือ Office Kit ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งการสะท้อนหน้าจอ (Screen Mirroring) ที่สามารถลากไฟล์จากหน้าจอไปยังเดสก์ท็อปได้โดยตรง

การสะท้อนหน้าจอ (Screen Mirroring)

การโอนไฟล์อย่างอิสระ (Free Transfer) ที่ส่งไฟล์ข้ามอุปกรณ์ได้รวดเร็ว

การโอนไฟล์อย่างอิสระ (Free Transfer)

และการซิงค์บันทึก (Notes Sync) พร้อมการทำงานร่วมกันบนโน้ตหลายอุปกรณ์ ที่ช่วยให้คุณบันทึกไอเดียได้ทันทีและจัดระเบียบเป็นเอกสารบน PC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การซิงก์บันทึก (Notes Sync)

สมาร์ตโฟน vivo X300 Series ทำให้การทำงานและใช้ชีวิตประจำวันลื่นไหลสะดวกสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมากๆ

สมาร์ตโฟน vivo X300 Series มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดจัมโบ้และเทคโนโลยีชาร์จเร็วระดับสุดยอด ทำให้คุณใช้งานได้เต็มที่ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด

vivo X300 Series

vivo X300 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ BlueVolt 6510mAh ขนาดยักษ์ที่ให้คุณใช้งานได้ทั้งวันเต็มๆ แม้ถ่ายภาพถ่ายวิดีโอเยอะๆ เล่นเกมหนัก ก็ยังอึดอยู่ได้ ชาร์จไว 90W FlashCharge เต็มเร็วภายในไม่กี่นาที พร้อม 40W Wireless FlashCharge ชาร์จไร้สายสะดวกสบายสุดๆ วางบนแท่นชาร์จก็เต็มไว

ทั้งสองรุ่นรับรองสุขภาพแบตเตอรี่ 5 ปี (SGS) ใช้งานได้นานไม่ต้องเปลี่ยนแบตบ่อยๆ ประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง Silicon Negative Electrode Gen 4 และ Semi-Solid State ทำให้ความจุสูง ชาร์จเร็ว และปลอดภัยสูงสุด รองรับระบบ Global Bypass Charging ลดความร้อนขณะชาร์จและเล่นเกมพร้อมกัน ไม่ร้อนจัด ใช้งานได้สบายมือ

สมาร์ตโฟน vivo X300 Series ให้คุณใช้งานได้เต็มที่ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดแน่นอน!

สมาร์ตโฟน vivo X300 Series ผ่านการทดสอบความทนทานมาเป็นอย่างดี ได้มาตรฐาน IP68 และ IP69 ทนน้ำทนฝุ่นระดับสูงสุด เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทุกสถานการณ์ ป้องกันฝุ่นละอองและละอองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง มั่นใจได้ในการใช้งานทุกสถานการณ์ทั้งฝนตกหนักหรือกิจกรรมกลางแจ้งแบบใดๆ

มาตรฐาน IP68 และ IP69

vivo X300 Pro ใช้ Armor Glass ที่มอบการปกป้องระดับสูงสุด แข็งแรงกว่า ทนทานกว่าเยอะ ผ่านการทดสอบการตกกระแทกบนพื้นผิวขรุขระ ไม่แตกง่าย ใช้งานได้อุ่นใจสุดๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำตกหรือกระแทก สมาร์ตโฟนจะคุ้มครองตัวเองได้ดีมาก ใช้งานได้อุ่นใจทุกวัน

หลังจากได้ชมความเจ๋งของ vivo X300 Pro ไปแล้ว ต่อมาเรามาดูน้องเล็กอย่าง vivo X300 กันบ้าง ซึ่งถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กกว่า แต่ก็ไม่ธรรมดาเลยนะ! สำหรับคนที่ชอบสมาร์ตโฟนขนาดกะทัดรัดแต่อยากได้สเปกแรงๆ vivo X300 คือคำตอบที่ลงตัวสุดๆ

vivo X300

vivo X300 มาในรูปแบบคอมแพคท์ขนาด 6.31 นิ้ว เหมาะมือมาก ใช้งานได้ด้วยมือเดียวสบายสุด ไม่ต้องอาศัยสองมือก็จับได้สบายแล้ว น้ำหนักเบาเพียง 190 กรัม หนาแค่ 7.95 มิลลิเมตร พกพาสะดวกมาก ใส่กระเป๋ากางเกงได้สบายๆ ไม่หนักกระเป๋า

vivo X300

สีสันของ vivo X300 ก็มีให้เลือกถึง 3 สีสวยๆ คือ Halo Pink (สีชมพูฮาโล พิงก์) ที่ละมุนแต่โดดเด่นด้วยเฉดสีดอกไอริส เผยเสน่ห์สง่างามอย่างมีสไตล์ สีชมพูประกายระเรื่อแบบฮาโล ให้ความรู้สึกสดใสอย่างมีเสน่ห์ พร้อมเสริมลุคแฟชั่นสุดชิค Iris Purple (สีม่วง ไอริส เพอร์เพิล) สง่างามลึกลับ และ Phantom Black (สีดำ แฟนทอม) ที่มอบเสน่ห์แบบคลาสสิก สื่อถึงความมั่นคง น่าเชื่อถือ และหรูหราอย่างมีระดับ เลือกได้ตามสไตล์ที่ชอบเลย

ดีไซน์ก็เหมือนกับรุ่น Pro คือใช้เทคโนโลยี Unibody 3D ฝาหลังเทคนิค Coral Velvet Glass สัมผัสเรียบเนียน ด้วยดีไซน์โมดูลกล้องที่ฝังอยู่ในฝาหลังอย่างลงตัว ดูสวยงามไม่ทื่อ สัมผัสเรียบเนียน ขอบหน้าจอบางเฉียบสมมาตรทุกด้าน

vivo X300 บางเพียง 7.95 มม. และเบาเพียง 190

vivo X300 มีหน้าจอ 6.31 นิ้ว ความละเอียด 1216 × 2640 พิกเซล ความหนาแน่น 460 PPI อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ทำให้ภาพเลื่อนไหลลื่นไม่สะดุดเลย ใช้วัสดุเปล่งแสง Q10 plus (BOE) เช่นกัน มีระบบลดแสงกระพริบ 2160 Hz Full High-Frequency PWM + Full-Range DC Dimming ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 4500nits ความสว่างสูงสุดทั่วหน้าจอ 2000nits สีสันครอบคลุม 100% P3 Wide Color Gamut รองรับ HDR และ Low Blue Light จาก SGS ปลอดภัยต่อสายตาแน่นอน

อย่าดูถูกน้องเล็กนะ เพราะ vivo X300 มากับกล้อง 4 ตัวที่แต่ละตัวก็แจ่มไม่แพ้รุ่นพี่เลย

กล้องหลังหลัก ZEISS ความละเอียด 200MP เซนเซอร์ HPB ขนาด 1/1.4 นิ้ว ทางยาวโฟกัส 23mm รูรับแสง f/1.68 กันสั่น OIS CIPA 4.5 ถ่ายภาพคมชัดสวยงามในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ภาพสวย

vivo X300

กล้องซูมเทเลโฟโต้ ZEISS APO ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ LYT-602 ขนาด 1/1.95 นิ้ว ทางยาวโฟกัส 70mm รูรับแสง f/2.57 กันสั่น OIS CIPA 4.5 ซูมได้คมชัดมาก ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวยงามสุดๆ

กล้องมุมกว้าง ZEISS ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ทางยาวโฟกัส 15mm รูรับแสง f/2.0 Auto Focus มุมมองกว้าง 119 องศา และส่วนของกล้องหน้า ZEISS ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ JN1 ทางยาวโฟกัส 20mm รูรับแสง f/2.0 Auto Focus มุมมองกว้าง 92 องศา

มาพร้อม Adaptive Zoom Flash ระบบแฟลชอัจฉริยะที่ปรับมุมและความเข้มของแสงตามระยะการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ รองรับระบบไฟเสริมแบบฮาร์ดแวร์สำหรับเลนส์สองระยะ (23mm และ 50mm) เพื่อให้แสงสวยสมดุลในทุกช็อต

vivo X300

ฟีเจอร์กล้องต่างๆ ก็ครบเหมือนรุ่นพี่เลย ทั้ง Stage Mode 2.0, 200MP Ultra-High Resolution, AI Multi-Crop, Multi-Style Imaging, 4K 60 FPS Portrait Video, Live Photo, Live Photo AI Erase, Fireworks Portrait, AI Landscape Master ครบจบในเครื่องเดียว

หลังจากที่เราได้พูดถึงฟีเจอร์ต่างๆ กันไปแล้ว คงไม่มีอะไรพิสูจน์ความสามารถของกล้องได้ดีไปกว่าภาพตัวอย่างจริงๆ ที่ถ่ายด้วย vivo X300 ในสถานการณ์การใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายในที่แสงสว่างจ้า กลางวัน หรือสภาพแสงน้อยยามค่ำคืน รวมถึงการถ่ายภาพบุคคล ทิวทัศน์ และการซูมในระยะต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300

ภาพเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของเซนเซอร์ 200MP ในการจับรายละเอียด การจัดการกับสีสันที่สมจริง ไดนามิกเรนจ์ที่กว้าง และการทำงานของระบบกันสั่น OIS ในสถานการณ์จริง คุณจะได้เห็นว่ากล้อง vivo X300 สามารถรับมือกับทุกสถานการณ์การถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่ภาพแมคโครที่ใกล้แค่ 13 เซนติเมตร ไปจนถึงการซูมไกลที่ 10 เท่าโดยที่ยังคงคุณภาพได้ดี

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง vivo X300

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่แค่กดชัตเตอร์เปล่าๆ หรือจะเป็นคนที่ชอบปรับแต่งค่าด้วยโหมด Pro ภาพเหล่านี้จะบอกคุณได้ว่า vivo X300 พร้อมส่งมอบคุณภาพที่น่าพึงพอใจในทุกสถานการณ์

สเปกแรง ลื่นไหลไม่มีสะดุด: ชิปประมวลผลก็ใช้ MediaTek Dimensity 9500 ผสานชิป V3+ เช่นกันเหมือนรุ่นพี่ ประมวลผลเร็ว ใช้งานลื่นไหล เล่นเกมก็ไหล ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บน Android 16 ตั้งแต่แกะกล่อง ใช้งานง่าย ลื่นไหล สวยงาม

เปรียบเทียบ vivo X300 Pro + vivo X300
เปรียบเทียบ vivo X300 Pro + vivo X300

แบตอึด ชาร์จไว: แบตเตอรี่ BlueVolt 6040mAh ใช้งานได้ทั้งวันไม่ต้องกังวล ชาร์จไว 90W FlashCharge เต็มเร็วภายในไม่กี่นาที พร้อม 40W Wireless FlashCharge ชาร์จไร้สายสะดวกสบาย รับรองสุขภาพแบตเตอรี่ 5 ปี (SGS) เช่นกัน

เปรียบเทียบ vivo X300 Pro + vivo X300
เปรียบเทียบ vivo X300 Pro + vivo X300

ทนน้ำทนฝุ่น: ได้มาตรฐาน IP68 และ IP69 ทนน้ำทนฝุ่นระดับสูง ใช้ Reinforced Glass ที่ทนทานต่อแรงกระแทก ผ่านการทดสอบการตกกระแทกบนพื้นผิวขรุขระ ใช้งานได้อุ่นใจ

เปรียบเทียบ vivo X300 Pro + vivo X300

vivo X300 เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่พกพาสะดวก ใช้งานได้ดีครบจบในเครื่องเดียว สเปกแรงไม่แพ้รุ่นพี่ แถมในราคาที่คุ้มค่ากว่า X300 Pro อีกด้วย ใครชอบแบบคอมแพคท์แต่แรงเต็มพิกัดก็ต้องรุ่นนี้เลย

หลังจากได้รู้จักกับความเจ๋งของตัวเครื่องทั้งสองรุ่นไปแล้ว มาดูอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้เหมือนมืออาชีพกันบ้าง

vivo ZEISS ชุดเลนส์เสริมเพิ่มระยะซูม 2.35x

สำหรับ vivo X300 Pro มาพร้อม vivo ZEISS 2.35x Telephoto Extender ชุดเลนส์เสริมที่ vivo ร่วมมือกับ ZEISS พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ให้กำลังขยายถึง 2.35 เท่า เมื่อใช้ร่วมกับกล้องเทเลโฟโต้ 200MP จะได้ระยะโฟกัสถึง 200mm ซูมไกลได้คมชัดทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะถ่ายคอนเสิร์ต กีฬา สัตว์ป่า หรือทิวทัศน์ไกลๆ ก็ได้ภาพสวยชัดเจนทุกครั้ง

vivo ZEISS ชุดเลนส์เสริมเพิ่มระยะซูม 2.35x
vivo ZEISS ชุดเลนส์เสริมเพิ่มระยะซูม 2.35x
ชุดอุปกรณ์เสริม

ปรับโหมดได้หลากหลาย ทั้งเวที ทิวทัศน์ พอร์ตเทรต และวิดีโอ ดีไซน์เลนส์และกริปจับให้ฟีลเหมือนกล้องมืออาชีพ มาพร้อมปุ่มอัดวิดีโอ เชื่อมต่อ USB และแบตในตัว ใช้งานได้สะดวกสบายเหมาะมากสำหรับคนที่จริงจังกับการถ่ายภาพ

ทดสอบใช้งาน
ทดสอบใช้งาน
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย ชุดเลนส์เสริมเพิ่มระยะซูม 2.35x
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย ชุดเลนส์เสริมเพิ่มระยะซูม 2.35x
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย ชุดเลนส์เสริมเพิ่มระยะซูม 2.35x

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเคสสมาร์ตโฟนพร้อมขาตั้งที่ช่วยให้วางดูหนัง ดูซีรีส์ วิดีโอคอล หรือถ่ายภาพได้สะดวกสบายขึ้น โดยรุ่น Pro มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ เชื่อมต่อ USB มีแบตในตัว และปุ่มอัดวิดีโอ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพจริงจัง ส่วนรุ่น X300 ก็มีขาตั้งสะดวกสำหรับใช้งานประจำวัน วางบนโต๊ะดูสวยมีสไตล์

ชุดอุปกรณ์เสริม
ชุดอุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์เสริมสุดพิเศษ
ชุดอุปกรณ์เสริม
ชุดอุปกรณ์เสริม
ชุดอุปกรณ์เสริม

ด้วยอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ คุณจะได้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ พร้อมความสะดวกสบายในการใช้งาน เตรียมตัวสร้างผลงานสุดปังได้เลย

มาถึงคำถามสำคัญที่หลายคนรอคอยกันแล้ว นั่นก็คือราคาของสมาร์ตโฟนสุดเทพทั้งสองรุ่นนี้! ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ กับสเปกที่ได้มา

สำหรับ vivo X300 รุ่นคอมแพคท์ที่แรงไม่แพ้ใคร มี 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่น 12GB + 256GB ราคา 31,999 บาท เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน และรุ่น 16GB + 512GB ราคา 34,999 บาท สำหรับคนที่ต้องการแรมเยอะและพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น

ส่วนรุ่นท็อปอย่าง vivo X300 Pro ที่มาพร้อมกล้องซูม 200MP และอุปกรณ์เสริมสุดเจ๋ง มีเพียงรุ่นเดียว คือ 16GB + 512GB ราคา 39,999 บาท แรมเยอะ พื้นที่เยอะ จัดเต็มทุกด้าน

และที่พลาดไม่ได้เลยคือโปรโมชั่นพิเศษสุดคุ้มมากมาย! เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568 เท่านั้น ช่วงเวลาจำกัด

อย่าพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ สามารถไปดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่เพจ vivo หรือแวะไปดูของจริงที่หน้าสาขา vivo brand shop ใกล้บ้านคุณได้เลย มีพนักงานคอยให้คำแนะนำและให้ทดลองเครื่องก่อนตัดสินใจซื้อได้สบายใจ

ราคานี้ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ กับสเปกและฟีเจอร์ที่ได้มา โดยเฉพาะกล้อง 200MP ร่วมกับ ZEISS ชิป Dimensity 9500 แบตเตอรี่ใหญ่ และหน้าจอสุดแจ่ม นี่คือสมาร์ตโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานจริงๆ

หลังจากได้ลองใช้งาน vivo X300 Series มาพอสมควร ต้องยอมรับว่าประทับใจมาก! จุดเด่นสุดๆ คือกล้องซูมเทเลโฟโต้ 200MP ร่วมกับ ZEISS ที่ซูมไกลแค่ไหนก็ยังคมชัด โดยเฉพาะ Stage Mode 2.0 แค่คลิกเดียวก็ซูมชิดติดเวทีได้ทันที ตอบโจทย์สายคอนเสิร์ตและสายถ่ายภาพเป็นอย่างดี

vivo X300 Pro

สเปกก็แรงไม่แพ้ใคร ชิป Dimensity 9500 ใช้งานลื่นไหล หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 4500 nits แบตอึดใช้ได้ทั้งวัน ชาร์จไว 90W ทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69 ระบบ OriginOS 6 บน Android 16 ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ AI ช่วยเหลือครบครัน

vivo X300 Pro มาพร้อมอุปกรณ์เสริม ZEISS 2.35x Telephoto Extender ยกระดับการถ่ายภาพแบบโปร ส่วน vivo X300 พกสะดวก แต่สเปกแรงครบเครื่องเหมือนกัน

vivo X300 Series

โดยรวมแล้ว vivo X300 Series เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับสายถ่ายภาพและสายคอนเสิร์ต แล้วมาสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพระดับโปรกันเลย!

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
UNBOX: “realme Power Bank” อุปกรณ์คู่บุญ 10000mAh ของคนขาดแบตสำรองไม่ได้
รีวิว “BELKIN BOOST CHARGE Magnetic Wireless Car Charger 10W” เมื่อการชาร์จมือถือในรถไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป
เปิดโลกเสียงระดับมาสเตอร์คลาส “Sonos Arc Ultra” ลำโพงแสนหรูที่เปลี่ยนห้องนั่งเล่นธรรมดาให้กลายเป็นโรงหนังส่วนตัว

Leave Your Reply

*