News PR

Garmin ทุบสถิติรายได้ครึ่งปีแรกโต 16% พร้อมตั้งโรงงานแห่งแรกในไทย ขยายนวัตกรรมสุขภาพและความปลอดภัย

Garmin ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ทุบสกถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยรายได้ถึง 3.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 109.46 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 16% ขณะที่ในประเทศไทยเติบโตกว่า 35% พร้อมประกาศขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย

Garmin ผู้นำตลาดสมาร์ทวอทช์ระบบจีพีเอสระดับโลก เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยรายได้ทั่วโลกสูงถึง 3.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 109.46 พันล้านบาท เติบโตกว่า 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดสุขภาพและฟิตเนสทั่วโลก ขณะเดียวกัน ตลาดประเทศไทยก็แสดงศักยภาพที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน โดยรายได้เติบโตกว่า 35% สะท้อนความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคชาวไทยมีต่อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์

Garmin

คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการประจำการ์มิน ประเทศไทย เปิดเผยว่า Garmin เริ่มต้นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบจีพีเอสสำหรับอุตสาหกรรมการบินและยานยนต์ ก่อนที่จะพัฒนานำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าสู่ชีวิตประจำวันของผู้คน จนกลายเป็นนาฬิกาออกกำลังกายระบบจีพีเอสเรือนแรกของโลก และขยายขอบเขตเข้าสู่อุตสาหกรรมกลางแจ้ง ฟิตเนส และสุขภาพ เพื่อครอบคลุมไลฟ์สไตล์และการดูแลสุขภาพของผู้คนให้ได้มากยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งตลอด 36 ปีที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั่วโลกและก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาด

สำหรับตลาดประเทศไทยนั้น นับตั้งแต่ Garmin เข้ามาเปิดสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว แบรนด์ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยมาโดยตลอด โดยในครึ่งปีแรกของปี 2568 รายได้ของ Garmin ประเทศไทยเติบโตกว่า 35% นอกจากนี้ จากข้อมูลผู้ใช้บน Garmin Connect ยังพบว่า คนไทยทำกิจกรรมการฝึกความแข็งแรง หรือสเตรนท์เทรนนิง เพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยมีสถิติการทำกิจกรรมเติบโตถึง 40% รองลงมาเป็นกิจกรรมคาดิโอในร่ม อย่าง พิลาทิส ไฮท เติบโตมากกว่า 15% สะท้อนให้เห็นถึงกระแสสุขภาพที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย

เพื่อตอบรับกระแสสุขภาพและรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต Garmin จึงตัดสินใจขยายฐานการผลิตและตั้งโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดชลบุรี โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเดินสายการผลิตได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2569 เพื่อรองรับการเติบโตของแบรนด์ทั้งในระดับโลกและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์การขยายธุรกิจแนวดิ่ง หรือเวอร์ติคัลอินทิเกรชัน ซึ่งหมายถึงการที่บริษัทดำเนินการเองทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การพัฒนาด้านวิศวกรรม การผลิต การตลาด ตลอดจนการให้บริการ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพทั้งสายการผลิต และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวให้เท่าทันการเติบโตของอุตสาหกรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น โรงงานแห่งแรกในประเทศไทยแห่งนี้ ยังพัฒนาภายใต้มาตรฐานด้านการจัดการพลังงานในระดับสากล ไอเอสโอ 50001 ด้วยการใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานอย่างระบบโซลาเซลล์

คุณศุภรดา จรูญโรจน์ รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า กระแสสุขภาพยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนไทยให้ความสนใจกับแนวคิดการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ หรือลองเจวิตี กันมากขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของประเทศไทย โดยลองเจวิตีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการมีชีวิตยืนยาวเท่านั้น แต่ต้องควบคู่มากับคุณภาพของทั้งร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรงด้วย ข้อมูลจากบทความของ Harvard Health Publishing ระบุว่าพันธุกรรมมีอิทธิพลต่ออายุขัยของมนุษย์เพียงประมาณ 25% ส่วนที่เหลืออีกกว่า 75% มาจากวิถีชีวิต และการดูแลสุขภาพของตัวเอง เทคโนโลยีสมาร์ทวอทช์จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญในการติดตามสถานะสุขภาพเพื่อให้ผู้ใช้รู้เท่าทันร่างกายของตนเอง

สำหรับ Garmin แบรนด์เชื่อว่าสมาร์ทวอทช์สามารถทำได้มากกว่านั้น นำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ให้สมาร์ทวอทช์ไปไกลกว่าการติดตามข้อมูล สู่การนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเฉพาะบุคคล รวมถึงคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการปรับปรุงพฤติกรรมที่ปรับเปลี่ยนตามเป้าหมายสุขภาพและข้อมูลจริงของผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ เสมือนมีโค้ชดูแลสุขภาพส่วนตัว ช่วยยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตให้กับผู้ใช้ในทุกวัน ภายใต้แนวคิดเทคโนโลยีที่เสริมพลังชีวิต หรือเทคโนโลยี แธท เอ็มพาวเวอร์ ไลฟ์

ในปี 2564 Garmin ได้เปิดตัวฟีเจอร์สลีป สกอร์ ที่ให้คะแนนคุณภาพการนอน นับเป็นก้าวแรกของการวัดคุณภาพการนอนผ่านข้อมูลเชิงลึกต่างๆ และพัฒนาต่อเนื่องสู่การเปิดตัวสลีป โค้ช ในปี 2566 ซึ่งเปลี่ยนจากการติดตามข้อมูลการนอนเพียงอย่างเดียว ให้สามารถให้คำแนะนำเชิงรุกเฉพาะบุคคล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้น ล่าสุดในรุ่น Venu 4 แบรนด์ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สลีป อไลน์เมนท์ ที่สามารถวิเคราะห์รูปแบบการนอนของผู้ใช้ว่าสอดคล้องกับเซอร์เคเดียน ริธึม หรือจังหวะชีวภาพตามธรรมชาติของร่างกายมากน้อยเพียงใด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเวลานอนและกิจวัตรประจำวันเพื่อสุขภาพการนอนที่ดียิ่งขึ้น

Garmin

นอกจากการนอนแล้ว Garmin ยังพัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วยให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกายด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์เดลี ซัจเจสเต็ด เวิร์กเอาท์ส ที่จะแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้ใช้แบบรายวัน หรือฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์ ล็อกกิง ให้ผู้ใช้บันทึกพฤติกรรมประจำวัน อาทิ การดื่มกาแฟ ดื่มแอลกอฮอลล์ การทำสมาธิ และการออกกำลังกาย เพื่อดูว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลต่อการนอน ระดับความเครียด และสุขภาพโดยรวมอย่างไร ทำให้ผู้ใช้เข้าใจร่างกายตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

นอกเหนือจากการเป็นโค้ชดูแลสุขภาพส่วนตัว Garmin ยังพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์สามารถช่วยเพิ่มการรับรู้สถานการณ์ หรือซิทูเอชั่น อวร์แนส ให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการผจญภัย ด้วยคอนเซ็ปต์นวัตกรรมช่วยปกป้อง หรืออินโนเวชั่น แธท โพรเทคส์ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสานเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวได้ในทุกพื้นที่ ตลอดจนได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน แม้แต่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เป็นเสมือนคู่หูที่ช่วยให้ผู้ใช้อุ่นใจในทุกทริปการผจญภัย

ระบบนิเวศการเชื่อมต่อ หรือคอนเนคเต็ด อีโคซิสเต็ม ของ Garmin ประกอบด้วยเทคโนโลยีอินรีช ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความ แชร์ตำแหน่ง ตลอดจนขอความช่วยเหลือได้ในทุกพื้นที่ทั่วโลก แม้ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำงานร่วมกับฟังก์ชันเอสโอเอส และศูนย์ประสานงานฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง หรือการ์มิน รีสปอนส์ เซ็นเตอร์ ที่จะทำหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้งานและรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินที่ตั้งไว้ รวมถึงติดต่อกับหน่วยค้นหาและหน่วยกู้ภัย ตลอดจนหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมอัพเดทข้อมูลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถรองรับผู้ใช้งานกว่า 200 ภาษา และผ่านการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินจากเทคโนโลยีอินรีชแล้วกว่า 17,000 ครั้งในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ Garmin ยังขยายนวัตกรรมช่วยปกป้องครอบคลุมไปถึงการผจญภัยใต้น้ำ ด้วยทุ่นอัจฉริยะ Descent S1 ซึ่งช่วยให้สามารถสื่อสารและนำทางแบบเรียลไทม์ระหว่างนักดำน้ำและทีมงานบนผิวน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นนวัตกรรมล้ำสมัยที่ช่วยยกระดับความคล่องตัว เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยระหว่างการดำน้ำ

เทคโนโลยียกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตที่อัพเดทใหม่ในปีนี้อย่างฟีเจอร์การ์มิน ฟิตเนส โค้ช สลีป อไลน์เมนท์ และไลฟ์สไตล์ ล็อกกิง ได้นำร่องให้ผู้ใช้งานใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น Venu 4 ส่วนนวัตกรรมช่วยปกป้องได้นำเสนอในผลิตภัณฑ์ดำน้ำที่เปิดตัวในปีนี้อย่าง Descent S1 ขณะที่เทคโนโลジีอินรีชและฟังก์ชันเอสโอเอสได้บรรจุในสมาร์ทวอทช์เป็นครั้งแรกใน fēnix 8 Pro Series นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมที่แบรนด์ภาคภูมิใจ นั่นคือการบูรณาการหน้าจอไมโครแอลอีดี มาใช้ในสมาร์ทวอทช์เป็นครั้งแรกของโลกในรุ่น fēnix 8 – MicroLED และ fēnix 8 Pro – MicroLED นับเป็นจอสมาร์ทวอทช์ที่สว่างที่สุดที่เคยมีมา ให้มุมมองภาพกว้างยิ่งขึ้น จึงอ่านข้อมูลได้ง่ายแม้อยู่กลางแดดจ้า ทั้งยังทนทานขึ้นถึง 3 เท่า

แม้ว่าในปีนี้ Garmin Thailand จะวางจำหน่าย fēnix 8 – MicroLED เพียงรุ่นเดียวในซีรีย์นี้ แต่แบรนด์จะยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่กำกับดูแลในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันเทคโนโลยีอินรีชและฟังก์ชันเอสโอเอสสำหรับสมาร์ทวอทช์ให้ผู้ใช้งานชาวไทยสามารถใช้งานได้ในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน

นอกเหนือจากการพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ Garmin ยังมุ่งมั่นในการทำการศึกษาและวิจัยร่วมกับพาร์ทเนอร์ในหลากหลายอุตสาหกรรมผ่านธุรกิจ Garmin Health เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน อาทิ งานวิจัยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาพและความสุขร่วมกับสถาบัน Wellbeing Research Centre ของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยวอร์วิค มหาวิทยาลัยซัสแคตเชวัน และบริษัท Avicenna Research งานวิจัยเพื่อพัฒนาแนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพของแม่และทารก ร่วมกับ King’s College ตลอดจนงานวิจัยศึกษาผลกระทบการเดินทางในอวกาศร่วมกับสถาบันวิจัยการแปลผลเพื่อสุขภาพในอวกาศ หรือทริช ของมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์

Garmin จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต การรับรู้สถานการณ์ การเชื่อมต่อ และประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้คนในทุกมิติ เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากผู้บริโภค และเพื่อเดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์ที่ผู้คนไว้วางใจและเลือกอยู่เคียงข้างในทุกกิจกรรม ทุกการผจญภัย และทุกช่วงเวลาของชีวิต

ผลิตภัณฑ์หลากหลายของ Garmin พร้อมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของทุกคน ติดตามเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ รวมถึงอัพเดทข่าวสารจาก Garmin ได้ที่เว็บไซต์ Garmin.com เฟซบุ๊กแฟนเพจ Garmin Thailand และอินสตาแกรม Garmin Thailand

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
หัวเว่ยมุ่งมั่นส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลด้านพลังงาน เพื่อการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของอาเซียน
ซัมซุง Samsung Galaxy Z Flip เปิดตัวแรง! SOLD OUT ในรอบพิเศษ ก่อนวางขายจริง 6 มีนาคม นี้
ฟูจิฟิล์ม เปิดแคมเปญ “Make More Magic” ส่งสื่อโฆษณา TVC และ OOH แสนอบอุ่นใจ ตอกย้ำการสร้าง “MAGIC MOMENT” ด้วยฟิล์มอินสแตกซ์ฟูจิฟิล์ม

Leave Your Reply

*