
Apple เปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่พร้อมชิป M5 หลังจากรุ่นก่อนหน้าด้วยชิป M4 วางจำหน่ายไปเกือบ 18 เดือน บทความนี้จะเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสองรุ่น เพื่อช่วยตัดสินใจว่าควรอัปเกรดหรือไม่
iPad Pro M4 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้วเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ ได้แก่ ชิป M4, ดีไซน์บางลงอย่างมาก, ตัวเลือกจอ nano-texture, หน้าจอ OLED, กล้องหน้าแนวนอน รวมถึง Magic Keyboard รุ่นใหม่ที่มีตัวเครื่องด้านบนเป็นอลูมิเนียม ปุ่มฟังก์ชัน และแทร็คแพดแบบแฮปติก ด้วยการอัปเดตครั้งใหญ่นั้น iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิป M5 จึงเป็นการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นที่ชิปและการเชื่อมต่อเป็นหลัก
ความแตกต่างหลักนอกเหนือจากชิป
iPad Pro M4 ใช้ชิป Wi-Fi และ Bluetooth จาก Broadcom ในขณะที่รุ่น M5 ใช้ชิป N1 สำหรับ Bluetooth รุ่น M4 รองรับ Bluetooth 5.3 ส่วนรุ่น M5 รองรับ Bluetooth 6 ในด้านการเชื่อมต่อไร้สาย รุ่น M4 รองรับ Wi-Fi 6E ขณะที่รุ่น M5 รองรับ Wi-Fi 7
รุ่นเซลลูลาร์ของ iPad Pro M4 ใช้โมเด็ม 5G จาก Qualcomm Snapdragon ส่วนรุ่น M5 ใช้ชิป C1X นอกจากนี้ iPad Pro M5 มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล SSD เร็วกว่าถึง 2 เท่า
เรื่องหน่วยความจำ รุ่น M4 ขนาด 256GB และ 512GB มี RAM 8GB ส่วนรุ่น 1TB และ 2TB มี RAM 16GB ในขณะที่รุ่น M5 ขนาด 256GB และ 512GB อัปเกรดเป็น RAM 12GB แล้ว ส่วนรุ่น 1TB และ 2TB ยังคงที่ 16GB
ความสว่างขั้นต่ำของรุ่น M4 อยู่ที่ประมาณ 2-4 nits ส่วนรุ่น M5 ลดลงเหลือ 1 nit ในการแสดงผลจอภายนอก รุ่น M4 รองรับความถี่รีเฟรชสูงสุด 60Hz ขณะที่รุ่น M5 รองรับสูงสุด 120Hz พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync นอกจากนี้รุ่น M5 ยังรองรับการชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายใน 30 นาทีสำหรับรุ่น 11 นิ้ว หรือ 35 นาทีสำหรับรุ่น 13 นิ้ว เมื่อใช้อะแดปเตอร์ 60W ขึ้นไป
ประสิทธิภาพชิป M5
Apple ระบุว่าเมื่อเทียบกับ M4 แล้ว ชิป M5 มีประสิทธิภาพ CPU แบบ multithreaded เร็วขึ้นถึง 15%, ประสิทธิภาพกราฟิกโดยรวมเร็วขึ้น 30%, ประสิทธิภาพ ray tracing เร็วขึ้น 45% และ unified memory bandwidth สูงขึ้น 27.5%
Apple ยังเผยแพร่ผลการทดสอบการทำงานจริงที่แสดงประสิทธิภาพในแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้แก่ ประสิทธิภาพ GPU compute สูงสุดสำหรับ AI มากกว่า 4 เท่า, เวลาในการสร้าง token แรกของ LLM เร็วกว่า 3.6 เท่า, การประมวลผล Topaz Video Enhance AI เร็วกว่า 1.8 เท่า, การ render แบบ ray-traced ใน Blender เร็วกว่า 1.7 เท่า และการปรับปรุงเสียงด้วย AI ใน Premiere Pro เร็วกว่า 2.9 เท่า
การเปลี่ยนแปลงเชิงเทคนิคของชิป
ชิป M4 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรรุ่นที่สองของ TSMC ที่เรียกว่า N3E และพัฒนามาจากชิป A18 Pro ที่ใช้ใน iPhone 16 Pro ส่วนชิป M5 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรรุ่นที่สามหรือ N3P และพัฒนามาจากชิป A19 Pro ที่ใช้ใน iPhone 17 Pro
ชิป M4 ไม่มี Neural Accelerator ที่รวมอยู่ในชิป ขณะที่ชิป M5 มี Neural Accelerator รวมอยู่ในทุก GPU core ในด้าน developer APIs ชิป M4 รองรับ Metal 3 ส่วนชิป M5 รองรับ Metal 4 พร้อม Tensor APIs สำหรับโปรแกรม GPU Neural Accelerators
ชิป M4 มี ray tracing engine รุ่นที่สอง ขณะที่ชิป M5 เป็นรุ่นที่สาม ชิป M4 มี dynamic caching รุ่นแรก ส่วนชิป M5 เป็นรุ่นที่สอง ชิป M4 มี shader cores ทั่วไป ในขณะที่ชิป M5 มี enhanced shader cores นอกจากนี้ชิป M5 มี unified memory bandwidth ที่ 153 GB/s เทียบกับ 120 GB/s ของชิป M4
ควรอัปเกรดหรือไม่
iPad Pro M5 มีการอัปเกรดที่โดดเด่นหลายประการ ได้แก่ หน่วยความจำพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น ความเร็ว SSD ที่เพิ่มเป็นสองเท่า ตัวควบคุมจอภายนอกที่รองรับ 120Hz และ Adaptive Sync GPU ที่มี neural accelerator รวมอยู่ในแต่ละ core พร้อม Tensor APIs ใหม่ การเชื่อมต่อเซลลูลาร์ที่เร็วขึ้น และการรองรับทั้ง Wi-Fi 7 และ Bluetooth 6
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจริงของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีขอบเขตแคบมาก เกือบทุกการใช้งานทั่วไปของ iPad Pro อยู่ในขีดความสามารถของรุ่น M4 อยู่แล้ว ดังนั้นความได้เปรียบของ M5 จะปรากฏให้เห็นเฉพาะในกรณีพิเศษเท่านั้น เช่น งานขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, การ export ข้อมูลขนาดใหญ่ไปยังไดรฟ์ภายนอก, งานที่ใช้หน่วยความจำเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือการใช้งานระดับมืออาชีพกับจอภายนอก 120Hz แม้แต่ผู้ใช้งานหนักของรุ่น M4 สถานการณ์เหล่านี้ก็เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
นี่หมายความว่า M5 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องจาก iPad หรือแล็ปท็อปรุ่นเก่า มากกว่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องใหม่ไปไม่นาน หากคุณเป็นเจ้าของ iPad Pro M4 อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลทั่วไปที่จะอัปเกรด แม้แต่สำหรับมืออาชีพด้านสร้างสรรค์ หากไม่ได้ใช้เครื่องมือ AI ที่เร่งด้วย GPU หรือจอภายนอก 120Hz โดยตรง การอัปเกรดจะไม่ช่วยประหยัดเวลาหรือเพิ่มความสามารถได้มากนัก
ในทางตรงกันข้าม หากคุณกำลังอัปเกรดจาก iPad Pro รุ่นเก่า หรือตั้งใจจะใช้อุปกรณ์สำหรับงาน AI หรืองานระดับมืออาชีพกับจอภายนอกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาห้าปีข้างหน้า รุ่น M5 ให้พื้นที่สำรองในอนาคตที่มากขึ้นและมีโอกาสน้อยที่จะพบข้อจำกัด รุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะคงทนนานขึ้น โดยสามารถรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์และความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในหลายปีข้างหน้า
อ้างอิง | Macrumors.com