TAG Heuer ประกาศเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ Connected Calibre E5 ที่ได้รับการรับรอง “Made for iPhone” พร้อมประกาศเลิกใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google
หลังจากเปิดตัว Calibre E4 มาสามปี TAG Heuer นำเสนอ Connected Calibre E5 ในสองขนาด คือ 45 มิลลิเมตร และขนาดใหม่ที่กะทัดรัดกว่าที่ 40 มิลลิเมตร ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 5100+ โดยรุ่น 45 มิลลิเมตรมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ส่วนรุ่น 40 มิลลิเมตรมีหน้าจอขนาด 1.20 นิ้ว ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Haptic Feedback ความสว่างที่เพิ่มขึ้น และการตอบสนองการสัมผัสที่ดีขึ้น
ตั้งแต่เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกในปี 2015 TAG Heuer ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google มาโดยตลอด แต่ตอนนี้แบรนด์ได้เปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์มที่พัฒนาเอง TAG Heuer OS ซึ่งพัฒนาโดยทีมวิศวกร 60 คนในกรุงปารีส นำเสนออินเทอร์เฟซที่ละเอียดขึ้น ภาพเคลื่อนไหวใหม่ และเมนูที่เรียบง่ายเพื่อการนำทางที่รวดเร็วขึ้นผ่านทั้งหน้าจอสัมผัสและปุ่มกดกลไก
ข้อดีที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือความเข้ากันได้ที่ดีขึ้นกับอุปกรณ์ของ Apple สมาร์ทวอทช์ Calibre E5 ได้รับการรับรอง “Made for iPhone” หรือ MFi ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมอนุญาตฮาร์ดแวร์ของ Apple ที่รับประกันว่าอุปกรณ์เสริมและอุปกรณ์ต่างๆ ตรงตามมาตรฐานการเชื่อมต่อและซอฟต์แวร์ของ Apple
การรับรองนี้รับประกันการบูรณาการที่ดีขึ้นกับ iPhone ทั้งการจับคู่ที่รวดเร็วขึ้น การเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi ที่เชื่อถือได้มากขึ้น และการอัปเดตที่สอดคล้องกับ iOS นอกจากนี้ยังรับประกันว่าฟีเจอร์สำคัญอย่างการแจ้งเตือน การจัดการสายโทร และการซิงโครไนซ์ข้อมูลสุขภาพจะทำงานได้อย่างราบรื่นกับ iPhone ซึ่งเป็นจุดที่รุ่นก่อนหน้าที่ใช้ Wear OS มักประสบปัญหา ข้อมูลจาก TAG Heuer ระบุว่าผู้ใช้สมาร์ทวอทช์ของแบรนด์ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จับคู่อุปกรณ์กับ iPhone
นาฬิกายังคงความสามารถด้านฟิตเนสและสุขภาพที่หลากหลาย โดยมีเซ็นเซอร์ที่ด้านหลังตัวเครื่องสำหรับตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด การแปรปรวนของอัตราการเต้นหัวใจ การติดตามการนอนหลับ อัตราการหายใจ และการนับแคลอรี่ อุปกรณ์ยังมีเข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง ไจโรสโคป บารอมิเตอร์ และระบบ GNSS แบบสองแบนด์เพื่อความแม่นยำของ GPS ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ Calibre E5 ไม่รองรับแอปพลิเคชันบุคคลที่สาม Google Pay หรือการเชื่อมต่อ LTE
นาฬิกา Calibre E5 สามารถรับสายโทรศัพท์ได้โดยตรงผ่านไมโครโฟนและลำโพงในตัว ผู้ใช้ยังสามารถรับการแจ้งเตือน ควบคุมเพลง และดูสรุปข้อมูลฟิตเนสผ่านวิดเจ็ตที่ปรับแต่งได้ ชุดฟังก์ชันด้านสุขภาพของ TAG Heuer มีเครื่องมือวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจใหม่ การติดตามการนอนหลับ และแอปพลิเคชันวิ่งที่อัปเกรดพร้อมตัวติดตามจังหวะการวิ่งแบบเกมมิฟิเคชัน ส่วน Golf Edition มาพร้อมการแมปเค้าโครงหลุมที่ละเอียดขึ้น การตรวจจับการตีลูกอัตโนมัติ และการเข้าถึงแผนที่สนามกอล์ฟมากกว่า 39,000 สนามทั่วโลก
TAG Heuer ระบุว่ารุ่น 45 มิลลิเมตรใช้งานได้นานถึงสามวันในโหมดประหยัดพลังงาน หรือประมาณสองวันเต็มภายใต้การใช้งานปกติ ขณะที่รุ่น 40 มิลลิเมตรใช้งานได้นานถึงสองวันหรือ 1.5 วันเมื่อเปิดหน้าจอแสดงผลตลอดเวลา การชาร์จเร็วให้พลังงานสำหรับใช้งานหนึ่งวันเต็มภายใน 30-40 นาที โดยการชาร์จเต็มใช้เวลา 90 นาทีผ่านแท่นชาร์จ USB-C ที่ออกแบบใหม่
TAG Heuer Connected Calibre E5 วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่บัดนี้ผ่านบูติกของ TAG Heuer และทางออนไลน์ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง | Macrumors.com
