พร้อมปาร์ตี้หรือยัง? realme 15 Pro 5G พร้อมทำให้ทุกช็อตเป็นที่จดจำ สำหรับใครที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสนุกและไม่เคยหยุดอยู่กับที่ realme 15 Pro 5G คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา

สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ที่รักการปาร์ตี้และต้องการเก็บทุกช่วงเวลาสุดพิเศษไว้ให้ดูสวยปังในทุกสถานการณ์

ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ฉลาดและล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้กลางคืน คอนเสิร์ต หรือแม้แต่การเที่ยวสุดชิล เจ้าตัวนี้จะช่วยให้ภาพถ่ายของคุณออกมาเจ๋งเสมอ มาดูกันเลยว่า realme 15 Pro 5G มีเทพ powers อะไรบ้างที่จะทำให้ฟีดของคุณดูเก่งกว่าเพื่อน

แกะกล่องและสิ่งที่ได้ในกล่อง

เปิดกล่องมา realme ยังคงใช้ดีไซน์กล่องสีเหลืองสุดเป็นเอกลักษณ์ ภายในกล่องเราจะได้:

• ตัวเครื่อง realme 15 Pro (เราได้รุ่น Flowing Silver มาทดสอบ)
• หัวชาร์จ 80W SuperVOOC พร้อมสายชาร์จ USB-C
• เคสใสแบบอ่อนใส
• เข็มจิ้ม SIM
• คู่มือการใช้งานและเอกสารรับประกัน

สิ่งที่ประทับใจคือ realme ยังคงให้หัวชาร์จมาในกล่อง ซึ่งหลายแบรนด์เริ่มตัดออกไปแล้ว ถือเป็นจุดดีที่ผู้ใช้ไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม

ดีไซน์สุดหรูที่บางที่สุดในเซกเมนต์

พอหยิบขึ้นมาถือครั้งแรก รู้สึกได้ทันทีว่า realme 15 Pro นี้ “บางกว่าที่คิด” สำหรับโทรศัพท์ที่บรรจุแบตเตอรี่ยักษ์ 7000mAh ไว้ข้างใน

realme 15 Pro 5G มาด้วยกันทั้งหมด 2 สีนั้นก็คือสี Velvet Green และสี Flowing Silver จุดเด่นแรกของ realme 15 Pro คือดีไซน์ที่เรียกได้ว่า “โค้งในจุดที่ต้องโค้ง” จุดเด่นสุดๆ ของเครื่องนี้คือหน้าจอ 4D Curve+ Display ขนาด 6.8 นิ้ว

เจ้านี่บางเฉียบความหนาเพียง 7.69 มม.  น้ำหนัก 187 กรัม ทำให้ realme 15 Pro 5G ให้ความรู้สึกกระชับและสบายมืออย่างยิ่ง ไม่ว่าจะใช้งานเป็นเวลานานแค่ไหน จับแล้วฟิตมือสุดๆ

ด้วยหน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1280×2800 พร้อม refresh rate 144Hz ทำให้ลื่นไหลทุกการเลื่อน และที่สำคัญคือความสว่างสูงถึง 6,500 nits เทียบได้กับเรือธงตัวแรงๆ ใช้กลางแจ้งแสงแดดจ้าก็เห็นชัดเจน

การออกแบบวัสดุที่หรูหรา

สิ่งที่ทำให้ realme 15 Pro โดดเด่นคือการออกแบบวัสดุที่หรูหรา ที่ฝาหลังได้รับแรงบันดาลใจจากชุดปาร์ตี้และดินเนอร์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเนื้อผ้าระดับพรีเมียมจากสตูดิโอออกแบบชั้นสูงของปารีส ผสมผสานศิลปะแห่งแฟชั่นอันลื่นไหลเข้ากับดีไซน์เทคโนโลยีได้อย่างลงตัว

ด้านหน้า ประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลแบบเต็มขอบ และส่วนของกล้องหน้าเป็นดีไซน์แบบ เจาะรู (Punch-hole) ซึ่งจัดวางอยู่บริเวณกึ่งกลางด้านบนของหน้าจอ ทำให้มีพื้นที่การแสดงผลที่กว้างเต็มตา ไม่รบกวนการใช้งาน

ด้านขวาตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิด, รีสตาร์ทเครื่อ ในส่วนของด้านซ้ายนั้นมีดีไซน์แบบเรียบ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ  ขอบโค้งมนรับกับฝ่ามือ ช่วยให้การจับถือเป็นไปอย่างธรรมชาติและมั่นคง

ด้านบน มีรูไมโครโฟนตัวที่สอง และในส่วนของด้านล่างของตัวเครื่องทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนประกบซ้ายขวาพอร์ต USB Type-C ที่อยู่ตรงกลาง และทางขวาเป็นลำโพงเสียง

ด้านหลัง ฝาหลังแต่ละชิ้นเปรียบเสมือนตัวอย่างผ้าชั้นสูงที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจง เลียนแบบความพลิ้วไหวของผ้าไหม ความลึกของกำมะหยี่จากสตูดิโอออกแบบหนัง และการเคลือบสีแบบไล่ระดับมุม ทำให้เกิดเฉดสีที่สดใส น้ำหนักเบา และสมบูรณ์แบบในแบบฉบับของแฟชั่นชั้นสูง

รุ่นที่เราได้มาแกะกล่องทดสอบคือสี Flowing Silver ที่ให้รู้สึกหรูหราไม่เหมือนโทรศัพท์ในราคาระดับกลาง

สเปกแรง ลื่นไหลทุกการใช้งาน ไม่มีสะดุด

ตัวจริงของสมาร์ตโฟนอยู่ที่ “หัวใจ” มากกว่าหน้าตา realme 15 Pro ที่มาพร้อมชิป Snapdragon 7 Gen 4 และระบบ realme UI 6.0 ที่ใช้ AI ตัวแรกของโลก realme บอกว่าชิปตัวนี้เป็น “อันดับสองของโลก” รองจาก Snapdragon 8 Series

จุดขายจริงๆ อยู่ที่ realme UI 6.0 กับ AI Multi-Tasker ที่จำนิสัยการใช้งานของเราได้ หลังใช้งานสัปดาห์นึง มันจะจำแอปโปรด 3 ตัว เก็บไว้พร้อมใช้งานตลอด ทำให้แอปเปิดเร็วขึ้น 3 วินาที ไม่ต้องโหลดซ้ำเวลาสลับแอป สำหรับคอเกมยังมี GT Boost ช่วยทำให้เกมลื่นไม่สะดุด

ที่ประทับใจคือ AI Multi-Tasker ที่เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม ระบบจะเรียนรู้การใช้งานแอปของเราแล้วให้แอปที่ใช้บ่อยเปิดได้เร็วขึ้น 3 วินาที พร้อมกับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันที่ลื่นไหลไม่สะดุด

สำหรับการเล่นเกม มี GT Boost 3.0 และ AI Gaming Coach ที่จัดการเฟรมเรตให้เสถียร รองรับเกมดังอย่าง Free Fire/CODM ที่ 90fps และ HOK ที่ 120fps

ระบบระบายความร้อนใช้ 7000mm Airflow VC ที่เป็นพื้นที่ VC ใหญ่ที่สุดในช่วงราคา ช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ถึง 20°C และอุณหภูมิการเล่นเกมลดลง 3.2°C

ระบบกล้อง 50 ล้านพิกเซล 3 ตัว มอบประสบการณ์ถ่ายภาพระดับมืออาชีพ

นี่แหละจุดเด่นสุดของ realme 15 Pro ที่ทำให้เรียกได้ว่าเป็น “สมาร์ตโฟนของสายปาร์ตี้” ด้วยระบบกล้อง Triple 50MP ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บทุกช่วงเวลาสนุกให้สมบูรณ์แบบ

ใช่แล้ว คุณไม่ได้เห็นผิด กล้องทั้ง 3 ตัวใช้เซ็นเซอร์ 50 ล้านพิกเซลทั้งหมด ซึ่งในกลุ่มราคานี้หาได้ยากมาก กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX896 ขนาดใหญ่ถึง 1/1.56 นิ้ว พร้อม OIS แบบ 2 แกน ที่ทำให้ภาพคมชัดแม้เวลาสั่นมือ

กล้องมุมกว้างก็ไม่ธรรมดา มุมกว้างถึง 115.6 องศา ถ่ายรูปกลุ่มใหญ่ก็ได้หมดทุกคน ถ่ายทิวทัศน์ก็ได้ภาพกว้างสวยงาม ส่วนกล้องหน้า 50MP ยังมี EIS แบบ 2 แกนด้วย เซลฟี่แล้วไม่เบลอแน่นอน

ต่อกันที่ส่วนของกล้องหน้า OV50D 50MP เซลฟี่คมชัดระดับโปร มุมมอง 86.7 องศา พร้อม EIS ทำให้ภาพเซลฟี่เสถียรแม้เดินถ่าย

AI Party Mode ไฮไลต์สำหรับสายปาร์ตี้

จุดเด่นที่ทำให้ realme 15 Pro แตกต่างคือ AI Party Mode ที่ออกแบบมาเพื่อสายปาร์ตี้โดยเฉพาะ เมื่อเปิดโหมดนี้ กล้องจะเข้าสู่โหมดพิเศษที่ปรับแต่งอัลกอริทึมเพื่อถ่ายภาพคนให้สวยคมชัด แม้ในที่แสงน้อยด้วยเทคโนโลยี AI ที่ปรับโทนสีผิวให้เป็นธรรมชาติ

เริ่มกกันด้วยการใช้ให้ AI สร้างกรอบรูปลายน้ำสีสันสดใสได้หลายสไตล์ ทำให้งานปาร์ตีดูน่าสนใจทันที ไม่ว่าจะเป็นลายน้ำแบบพื้นผิวที่ดูมีมิติ ลายน้ำรูปภาพที่เข้ากับธีมงาน หรือไอคอนลายน้ำที่ทำให้งานดูมีเอกลักษณ์

งานวันเกิด งานเฉลิมฉลอง หรืองานรวมญาติก็สามารถใช้ได้หมด AI Party Mode จะช่วยยกระดับบรรยากาศให้งานปาร์ตีของคุณดูพิเศษและน่าจดจำกว่าเดิม

ต่อกันด้วย เอฟเฟ็กต์แสงพิเศษสามารถเปลี่ยนแสงธรรมดาให้เป็นดาวสวยๆ หรือรูปหัวใจน่ารัก พร้อมลายน้ำสีสันสดใส หลายสไตล์ให้เลือก ทำให้ภาพมีบรรยากาศปาร์ตี้เต็มๆ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย realme 15 Pro 5G

AI MagicGlow 2.0 พร้อมไฟแฟลช LED ทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสและเป็นธรรมชาติ แม้อยู่ในที่มืด

AI Edit Genie เทคโนโลยีแก้ไขภาพด้วยเสียงครั้งแรกของโลก

อีกหนึ่งฟีเจอร์เทพที่ต้องลอง คือ AI Edit Genie ที่ให้เราแก้ไขรูปด้วยเสียง AI ก็จะทำให้ทันที รองรับมากกว่า 20 ภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย

การทำงานง่ายมาก เพียงเข้าไปที่รูปที่ต้องการแก้ไข กด AI Edit Genie แล้วพูดสิ่งที่อยากให้เปลี่ยน AI จะประมวลผลและให้ผลลัพธ์ออกมาภายในไม่กี่วินาที

ฟีเจอร์กล้องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

AI Landscape ปรับแต่งภาพทิวทัศน์ให้สวยงามในคลิกเดียว ลบโทนสีเทาและหมอกในภาพ

ครบครันด้วยเครื่องมือ AI ระดับเทพ ทั้ง AI Eraser ที่ลบของไม่ต้องการออกได้เนียน Ultra Clarity ทำรูปชัดขึ้น Glare Remover กำจัดแสงจ้า Motion Deblur ลืมการแก้ไขรูปแบบเก่าๆ ไปได้เลย อยากแก้อะไรก็สามารถใช้ AI แก้ไขอัลบั้มได้ทันที ไม่ต้องง้อแอพแก้ไขรูปซับซ้อนอีกต่อไป

นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถแก้รูปเบลอได้ง่ายๆ ด้วย Reflection Remover หรือลบเงาสะท้อน และ De-fogging กำจัดหมอกฝน ได้ด้วยเครื่องมือที่รับจบในตัว

AI Snap Mode ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 27 เฟรมต่อวินาที รองรับถึง 200 ภาพ เหมาะสำหรับถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือช่วงเวลาสำคัญที่ไม่อยากพลาด

Live Photo ความละเอียด 2K ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น คมชัดกว่าแบบเดิมเป็นสองเท่า และที่สำคัญคือแชร์ไป Instagram Stories ได้โดยตรง ไม่ต้องไปแปลงไฟล์ให้วุ่นวาย

จุดที่น่าสนใจมากคือการรองรับวิดีโอ 4K 60fps ในทุกเลนส์ ไม่ใช่แค่กล้องหลักอย่างเดียว ความคมชัดกว่า 1080p ถึง 4 เท่า ลื่นไหลกว่า 2 เท่า เวลาเปลี่ยนจากกล้องหลักไปมุมกว้างหรือกล้องหน้า คุณภาพก็ยังคงเท่าเดิม

ปิดท้ายกันด้วย AI MagicGlow 2.0 ไฟพัลส์ที่ฉลาดกว่าเดิม มาถึงจุดเด่นที่ทำให้ realme 15 Pro แตกต่างจากคู่แข่ง นั่นคือระบบ AI MagicGlow 2.0 ที่ผสมระหว่างแฟลชคู่กับไฟพัลส์ ความสว่างเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ที่สำคัญคือแสงไม่แข็งจนเกินไป มีการปรับอุณหภูมิสีให้เป็นธรรมชาติ ทำให้สีผิวดูสวยขึ้น

ไฟพัลส์ยังทำหน้าที่แจ้งเตือนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสายเรียกเข้า การแจ้งเตือนต่างๆ หรือแม้กระทั่งเปิดตามจังหวะเพลง เหมือนมีดิสโก้เล็กๆ ในมือ

แบตเตอรี่ 7000mAh ที่บางที่สุดในโลก พร้อมระบบชาร์จเร็ว 80W

จุดขายสำคัญของ realme 15 Pro คือแบตเตอรี่ Titan 7000mAh ที่เป็นแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มราคานี้ แต่ยังคงความบางเหลือเชื่อ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างวัน บอกเลยว่าใช้ได้ทั้งวันแบบสบายๆ จะถ่ายรูป ดูหนัง เล่นเกม หรือไลฟ์สดยาวๆ ก็ไม่มีสะดุด

ลองจินตนาการดูนะ คุณออกจากบ้านแต่เช้าด้วยแบตเต็ม 100% ระหว่างวันคุณถ่ายรูปลง Instagram Stories เช็คอินร้านกาแฟเก๋ๆ สักสิบรูป ดู YouTube ตอนพักเที่ยง เล่น TikTok ในรถตอนรถติด แชทกับเพื่อนใน LINE ตลอดทั้งวัน แล้วตอนเย็นยังมีพลังเหลือพอที่จะไลฟ์ Instagram พรีวิวสินค้าใหม่อีกครึ่งชั่วโมง… และเมื่อกลับถึงบ้านก็ยังมีแบตเหลืออยู่มันจะดีขนาดไหน?

แถมมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ชาร์จแป๊บเดียวก็ได้ใช้ต่อแบบยาวๆ สมมติคุณลืมชาร์จแบตก่อนนอน ตื่นมาเหลือแบตแค่ 20% ไม่ต้องตกใจไป แค่เสียบชาร์จตอนอาบน้ำแต่งตัว พอออกจากบ้านก็ได้แบตเกือบเต็มแล้ว หมดปัญหาการพกพาวเวอร์แบงค์ขนาดใหญ่ไปทำงานอีกต่อไป

ที่ขาดไม่ได้ก็คือเทคโนโลยี Bypass Charging สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมหนักๆ เมื่อเล่นเกมขณะชาร์จ ไฟจะไปเลี้ยงระบบโดยตรงแทนที่จะผ่านแบตเตอรี่ ทำให้เครื่องไม่ร้อนและแบตเตอรี่อายุยาวขึ้น

จอสวย…ดูอะไรก็เพลิน

อย่างที่บอกไปแล้วว่าหน้าจอของ realme 15 Pro นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ ด้วยหน้าจอ 4D Curve+ Display ขนาด 6.8 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 1280×2800 พร้อม refresh rate 144Hz ทำให้ดูหนัง เล่นเกม หรือเลื่อน TikTok ก็ฟินสุดๆ

ในช่วงเย็นของทุกวัน ที่คุณกำลังนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านหลังเลิกงาน เปิด Netflix ดูซีรีส์เกาหลีเรื่องโปรด ภาพสวยคมชัด สีสันสดใส เหมือนภาพวิ่งออกมาจากจอเลยทีเดียว หรือจะเปิด YouTube ดู MV เพลงใหม่ล่าสุดของศิลปินที่คุณชื่นชอบ ก็ให้อารมณ์เหมือนดูในโรงภาพยนตร์เลย

ทนทานระดับพรีเมียม ด้วยการป้องกันแบบ IP69+ และกระจก Corning Gorilla Glass

ได้รับการออกแบบมาเพื่อความทนทานสูงสุดในระดับราคา พร้อมรับมือกับการใช้งานหนักทุกวัน ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IP69+ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในอุตสaหกรรม สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในสภาพฝนตก การล้างทำความสะอาด หรือแม้แต่การจมน้ำลึกถึง 2 เมตร เป็นเวลา 30 นาที

หน้าจอได้รับการปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าหน้าจอมาตรฐานทั่วไป ช่วยต้านทานการสึกหรอและรอยขีดข่วนได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าอุปกรณ์ทั่วไปในระดับราคาเดียวกัน การรวมกันของทั้งสองเทคโนโลยีนี้ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้ที่สุดในเซกเมนต์

realme 15 5G – รุ่นธรรมดาที่ไม่ธรรมดา พี่น้องที่คุ้มค่าไม่แพ้กัน

นอกจาก realme 15 Pro แล้ว realme ยังเอาใจคนที่อยากได้มือถือดีๆ แต่งบไม่เยอะด้วย realme 15 5G ที่มาพร้อมสเปคเจ๋งๆ เกือบเท่ารุ่นพี่ แต่ราคาประหยัดกว่า

realme 15 5G มาพร้อมกับตัวเครื่องที่ดูหรูหราด้วยการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดออต์กูตูร์และดินเนอร์ปาร์ตี้ระดับพรีเมียม มีให้เลือก 2 สี คือ Suit Titanium ที่ดูเท่ห์แบบผู้บริหาร กับ Silk Pink ที่นุ่มนวลสไตล์หรูหรา ฝาหลังแต่ละชิ้นเหมือนตัวอย่างผ้าจากสตูดิโอออกแบบชั้นสูงในปารีส เลียนแบบความพลิ้วไหวของผ้าไหมและความลึกของกำมะหยี่ได้อย่างประณีต

ที่น่าสนใจคือหน้าจอ 6.77 นิ้ว AMOLED แบบเรียบ ไม่โค้งเหมือนรุ่น Pro แต่กลับให้ความรู้สึกใช้งานที่แตกต่าง รีเฟรชเรต 144Hz ทำให้เลื่อนหน้าจอหรือเล่นเกมลื่นไหลราวกับไหม ความสว่างสูงสุด 4500 nits ทำให้มองเห็นชัดแม้ใต้แสงแดดจ้า อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94% ให้พื้นที่การแสดงผลที่กว้างขวาง

กล้องคู่ 50MP ทั้งหน้าและหลังคือจุดขายสำคัญ กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว พร้อม OIS 2 แกน ที่ช่วยลดภาพสั่นไหวได้ดีเยี่ยม

ส่วนกล้องหน้า 50MP ก็ไม่ธรรมดา เซลฟี่คมชัดไม่แพ้ใคร และที่สำคัญคือทั้งสองกล้องสามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ซึ่งในกลุ่มราคานี้ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน

ด้านประสิทธิภาพ ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7300+ ทำให้คุณสามารถเล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล AI Multi-Tasker ช่วยให้แอปที่ใช้บ่อยเปิดเร็วขึ้น 3 วินาที ระบบจะจำแอปที่คุณใช้บ่อยและเก็บไว้ในพื้นหลัง เวลาเปิดใหม่ก็จะรวดเร็วทันใจ

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่อึดพร้อมระบบประหยัดพลังงาน ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 7000mAh ทำให้อายุการใช้งานยาวนานทั้งวัน ไม่ว่าคุณจะรับส่งข้อมูล, สตรีมมิ่งวิดีโอ, เล่นเกมออนไลน์, รับชมคอนเทนต์ และเล่นโซเชียลต่าง ๆ ก็สามารถอยู่กับคุณได้ยาวนาน ใช้งานได้ยาวนานแม้แบตจะเหลือแค่ 50% ก็ยังเล่นได้ต่อเนื่องตลอดวัน

และยังชาร์จเร็ว 80W ชาร์จ 25 นาทีได้ 50% และเต็ม 100% ใน 61 นาทีเท่านั้น เทคโนโลยี Bypass Charging ช่วยให้เล่นเกมขณะชาร์จไม่ร้อนเกินไป

ด้านความทนทานได้มาตรฐาน IP69 ระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม กันน้ำ กันฝุ่น และสามารถอยู่ใต้น้ำลึก 2 เมตร นาน 30 นาทีได้ เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานหนักหรือชอบกิจกรรมกลางแจ้ง

แน่นอนว่า…. realme 15 5G น้องเล็กถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากได้แบตเตอรี่ใหญ่และฟีเจอร์ AI แต่ไม่ได้เน้นกล้องมากเท่าไหร่ ถ้าอยากประหยัดแต่ได้ฟีเจอร์เทพๆ เหมือนกันก็เลือก realme 15

ราคาและโปรโมชั่น พร้อมกำหนดการวางจำหน่าย

realme 15 Series 5G นำเสนอทั้งรุ่น

• realme 15 Pro 5G เลือกได้ทั้งสี Flowing Silver และ Velvet Green สเปก 12GB/256GB ในราคา 14,999 บาท และ สเปก 12GB/512GB ในราคา 16,999 บาท
• realme 15 5G เลือกได้ทั้งสี Suit Titanium และ Silk Pink สเปก 12GB/256GB ในราคา 12,999 บาท
• realme 15T เลือกได้ทั้งสี Flowing Silver และ Suit Titanium สเปก 8GB/256GB ราคา 9,999 บาท และ 12GB/512GB ในราคา 11,999 บาท
• realme Buds T200 ราคา 1,199 บาท
• realme Watch 5 ราคา 1,999 บาท

โดยสามารถพรีออเดอร์ realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 18 – 26 กันยายน และสามารถเป็นเจ้าของพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 27 กันยายน

• ผ่านช่องทางโอเปอเรเตอร์ พิเศษ! เป็นเจ้าของผ่านช่องทาง AIS ราคาเครื่องพร้อมแพคเกจสุดคุ้ม realme 15 Pro 5G (12GB/256GB) เริ่มต้นเพียง 10,399 บาท realme 15 Pro 5G (12GB/512GB)  เริ่มต้นเพียง 10,399 บาท และ realme 15 5G (12GB/256GB) เริ่มต้นเพียง 8,499 บาท
• ช่องทางออนไลน์ พิเศษ! สำหรับ realme 15 Pro 5G (12GB/512GB) Exclusive เฉพาะ Shopee เท่านั้น

พร้อมทั้งรับของแถม realme Special Backpack, realme Premium Fruit Mix, ประกันจอแตก 1 ครั้งใน 180 วัน และขยายประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี   (realme 15T เริ่มจำหน่ายในวันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นไป)

สรุปง่ายๆ เลือกยังไงก็ไม่ผิด

realme 15 Pro เป็นสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจมากในปี 2025 โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปในงานปาร์ตี้และต้องการแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน การที่ได้แบตเตอรี่ 7000mAh ในตัวเครื่องที่บางแค่ 7.79mm นี่ถือเป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีเลยทีเดียว

AI Party Mode กับฟีเจอร์ AI Edit Genie ต่างก็เป็นจุดขายที่แตกต่าง ส่วนประสิทธิภาพ Snapdragon 7 Gen 4 ก็แรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกม หากมองหาโทรศัพท์ที่แรง ทนทาน และถ่ายรูปสวย realme 15 Pro น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าการรอคอย

ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน realme 15 Pro หรือ realme 15 ก็ได้ฟีเจอร์เทพๆ ครบครัน แค่ต่างกันที่ดีไซน์และประสิทธิภาพนิดหน่อย แต่ทั้งคู่ก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมในราคาที่คุ้มค่า