Apple เปิดตัว iPhone Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่บางเฉียบในวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจหลุดสายตาผู้ใช้งาน ซึ่งส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานในด้านต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด
iPhone Air มาพร้อมลำโพงเพียงตัวเดียวเท่านั้น ตามที่มีข่าวลือมาก่อนหน้านี้ โดยช่องฟังที่ด้านบนของเครื่องจะทำหน้าที่เป็นลำโพงคู่ แต่จะไม่มีลำโพงที่ด้านล่างของตัวเครื่อง รูที่อยู่ทางซ้ายและขวาของพอร์ต USB-C เป็นไมโครโฟน หากต้องการเสียงสเตอริโอ ผู้ใช้จะต้องใช้ AirPods หรือลำโพงภายนอกที่รองรับ
Dynamic Island บน iPhone Air จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าบนหน้าจอเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น iPhone 17 และ iPhone 17 Pro การปรับตำแหน่งนี้เป็นผลมาจากความจำเป็นในการออกแบบภายในให้เข้ากับกรอบที่บางเฉียบของตัวเครื่อง
ในขณะที่รุ่น iPhone 17 Pro รองรับ USB 3.2 Gen 2 ที่ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลถึง 10 Gbps แต่ iPhone Air จะถูกจำกัดด้วยความเร็ว USB 2 ที่ 480 Mbps เท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่
การชาร์จแบตเตอรี่ของ iPhone Air สามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายในเวลาประมาณ 30 นาที ในขณะที่รุ่น iPhone 17 Pro สามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายในเวลาประมาณ 20 นาที โดยต้องใช้อะแดปเตอร์และสายชาร์จที่มีกำลังวัตต์สูงเพื่อให้ได้ความเร็วดังกล่าว นอกจากนี้ การชาร์จไร้สาย MagSafe บน iPhone Air จะถูกจำกัดที่ 20W เมื่อเทียบกับ 25W ในรุ่น iPhone 17 Pro
ชิป A19 Pro ในรุ่น iPhone 17 Pro มาพร้อม GPU 6 คอร์ ขณะที่ใน iPhone Air จะมี GPU เพียง 5 คอร์ ทำให้ประสิทธิภาพด้านกราฟิกลดลงเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลต่อการเล่นเกมหรือการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพกราฟิกสูง
อ้างอิง | Macrumors.com