วงการสมาร์ตโฟนในช่วงท้ายปี 2025 กำลังจะมีแขกใหม่ที่น่าจับตามอง เมื่อ realme เตรียมเปิดตัว realme 15 Series ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยและกล้องความละเอียดสูงถึง 50MP ในทั้งสองรุ่น คือ realme 15 และ realme 15 Pro โดยเฉพาะ realme 15 Pro ที่ดูจะมาแรงด้วยฟีเจอร์เด็ดหลายตัวที่อาจจะเปลี่ยนเกมในกลุ่มราคากลางได้เลยทีเดียว
เอาจริงนะ! พอได้เห็นตัวจริง realme 15 Series แล้วต้องขอพูดเลยว่า อ๋อ! เขาจริงจังขนาดนี้เหรอ ทั้ง realme 15 และ realme 15 Pro มาพร้อมกล้อง 50MP ทุกตัว แถมยัดเทคโนโลยี AI เข้าไปแบบจัดเต็ม โดยเฉพาะ realme 15 Pro ที่ดูจะมาแรงสุดๆ ในราคาที่คาดว่าจะทำให้คู่แข่งต้องนั่งไม่ติด
พรีดีไซน์และสัมผัสแรกหลังเจอตัวจริง
ว๊าย! พอหยิบ realme 15 Pro 5G สี Flowing Silver ขึ้นมาครั้งแรก รู้สึกได้เลยว่านี่ไม่ใช่สมาร์ตโฟนธรรมดาๆ ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดปาร์ตี้หรูๆ ของปารีสนี่มันเนี้ยบจริงๆ สี Flowing Silver เหมือนมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แค่ทาสีธรรมดาๆ แต่เป็นการเลียนแบบความพลิ้วไหวของผ้าไหมแบบระดับสตูดิโอออกแบบเลยทีเดียว
หน้าจอ 144Hz 4D Curve+ Display ขนาด 6.8 นิ้วนี่ฟินสุดๆ ความสว่างสูงสุด 6,500 นิต ทำให้แม้อยู่กลางแสงแดดจ้าๆ ก็ยังเห็นหน้าจอชัดเจน ส่วนขอบจอที่บางเฉียบแบบใบมีดพร้อมอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 94% นี่ต้องชื่นชมจริงๆ
ส่วน realme 15 สี Silk Pink ที่ได้พรีวิวก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ดีไซน์ Textured Matte 4R พร้อมโมดูลเลนส์อะลูมิเนียมอัลลอย ทำให้ดูหรูหราไม่แพ้รุ่นพี่ใหญ่ หน้าจอ 4R Comfort+ AMOLED ความสว่าง 4,000 นิต ที่เป็นสว่างที่สุดในกลุ่มราคาของมัน อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93% ก็ถือว่าใหญ่โตไม่เบา
แต่ที่สุดยอดคือ ทั้งสองรุ่นแม้จะยัดแบตเตอรี่ยักษ์ 7,000mAh เข้าไป แต่ตัวเครื่องหนาเพียง 7.79mm สำหรับ realme 15 Pro และหนักเพียง 181-183g เท่านั้น! นี่มันมายากลหรือไงเนี่ย มันบางและเบาจนแทบไม่เชื่อสายตา
ความโดดเด่นของกล้องที่ทำให้หลงใหล
เอาจริงๆ นะ พอมาเจอระบบกล้อง Triple 50MP AI Camera ของ realme 15 Pro 5G แล้วต้องอมยิ้ม! กล้องหลัง Sony IMX896 OIS 50MP ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ใหญ่ 1/1.56 นิ้ว กล้องมุมกว้าง OV50D 50MP และกล้องหน้า OV50D 50MP ครบเซ็ต 50MP หมดเลย ไม่มีโกงแม้แต่ตัวเดียว
ส่วน realme 15 ก็มาแรงไม่แพ้ เป็นเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มราคาที่มีกล้องหน้าและหลัง AI 50MP ทั้งคู่ ซึ่งในราคาเซกเมนต์นี้หาได้ยากมาก พร้อม AI Edit Genie เช่นเดียวกับรุ่นพี่ใหญ่
แต่ที่ทำให้ “อ้าว!” ไปใหญ่คือ AI Party Mode ที่เขาอ้างว่าใช้อัลกอริทึมสามประการ ลองแล้วจริงๆ! การถ่ายในที่มืดๆ ไฟเหลืองๆ หรือแม้แต่ปาร์ตี้กลางคืน ภาพออกมาสว่างธรรมชาติ โทนสีผิวไม่แปลกๆ แถมยังมีเอฟเฟกต์แสงประกายไฟที่สวยปนโรแมนติกด้วย ถ่ายไปแชร์โซเชียลได้เลยไม่ต้องแต่ง!
อีกตัวที่น่าสนใจสุดๆ คือ AI Edit Genie ตัวแรกในโลก! ตัวนี้เจ๋งจริงๆ พูดคำสั่งภาษาไทยธรรมดาๆ อย่าง “ลบคนข้างหลัง” หรือ “เปลี่ยนสีเสื้อเป็นสีแดง” แล้ว AI จะทำให้เลย รองรับมากกว่า 20 ภาษาด้วย คนที่ไม่เก่งแต่งรูปก็ใช้ได้แบบไม่ติดขัด ทั้ง realme 15 และ realme 15 Pro ใช้ฟีเจอร์นี้ได้เหมือนกัน
realme 15 Pro 5G ถ่ายวิดีโอ 4K 60FPS ได้ทุกกล้อง ซึ่งหมายความว่าคุณภาพคมชัดกว่า 4 เท่า และลื่นไหลกว่า 2 เท่า เทียบกับ 1080p 30FPS ทำคอนเทนต์หรือเป็นยูทูเบอร์ก็ปัง!
พลังและความทนทาน แรงแบบไม่ต้องกลัวร้อน!
realme 15 Pro 5G มาพร้อม Snapdragon 7 Gen 4 ที่เป็นชิปเซ็ตที่ดีที่สุดรองจาก Snapdragon 8 Series พร้อมคะแนน AnTuTu 110W+ แรงสุดในกลุ่มราคา ส่วน realme 15 ใช้ Dimensity 6400 Max 5G ที่ให้ประสิทธิภาพระดับเรือธงเช่นกัน
realme 15 Pro 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ AI Multi-Tasker ตัวแรกในอุตสาหกรรม ที่ทำให้แอปที่ใช้บ่อยเปิดขึ้นมาเร็วขึ้นถึง 3 วินาที และยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังแม้ปิดแอปไปแล้ว
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบระบายความร้อนขั้นเทพ realme 15 Pro ได้ระบบ Airflow VC ขนาด 7,000mm² ที่ใหญ่ที่สุดในช่วงราคา ส่วน realme 15 ก็มี AirFlow VC Cooling ขนาด 6050mm ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ทำให้เล่นเกมหนักๆ เป็นชั่วโมงก็ไม่ร้อน
แบตเตอรี่ Titan 7000mAh ทั้งสองรุ่นทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันแม้แบตเหลือแค่ 50% realme 15 Pro มาพร้อมชาร์จเร็ว 80W ส่วน realme 15 ก็มีระบบชาร์จเร็วเช่นกัน
ความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับ realme 15 Series
หลังจากเล่น realme 15 Pro 5G สี Flowing Silver ไปสักพัก รู้สึกว่าคราวนี้ realme ทำการบ้านมาดีจริงๆ AI ไม่ได้แค่เป็นกิมมิคขายของ แต่ใช้งานได้จริง โดยเฉพาะเรื่องกล้องที่มันตอบโจทย์คนยุคนี้ที่ชอบถ่ายรูปโพสต์โซเชียลทุกวัน
ส่วนน้องสาวอย่าง realme 15 สี Silk Pink ก็ไม่น่าดูถูก ในราคาเซกเมนต์นี้ได้กล้อง AI 50MP ทั้งหน้าหลัง แบตเตอรี่ 7000mAh ที่บางที่สุดในกลุ่ม พร้อมหน้าจอ AMOLED ความสว่าง 4,000 นิต ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ฟีเจอร์ดีๆ แต่งบไม่เยอะ
การป้องกันก็จัดเต็ม realme 15 Pro มาพร้อมระดับ IP69 ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม ส่วน realme 15 ก็ได้ระดับ IP66/68/69 ทั้งคู่มากับกระจก Corning Gorilla Glass ทำให้ทนทานต่อการใช้งานประจำวัน ไม่ว่าจะเจอฝน น้ำ หรือการกระแทกเบาๆ
คราวนี้ realme จัดหนักจริงๆ
พูดตรงๆ realme 15 Series ทั้ง realme 15 และ realme 15 Pro 5G มาแรงกว่าที่คิดเยอะ! กล้อง AI ที่ใช้งานได้จริง หน้าจอสวยปังสุดๆ แบตเตอรี่ยักษ์แต่ตัวเครื่องบางเบา แถมยังทนทานด้วย
realme 15 Pro 5G เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด กล้องเทพ หน้าจอ 4D Curve+ ที่หรูหรา AI Multi-Tasker ที่ทำให้มัลติทาสก์ลื่นขึ้น และชาร์จเร็วสุดๆ ส่วน realme 15 เหมาะกับคนที่อยากได้ฟีเจอร์ดีๆ แบบ AI 50MP ทั้งหน้าหลัง แบตเตอรี่ใหญ่ในราคาที่คุ้มค่า
จากที่ได้เล่นมา realme 15 Series ดูจะเป็นสมาร์ตโฟนที่มาตอบโจทย์คนยุคนี้ได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะเรื่อง AI กับกล้องที่ทำให้การถ่ายรูปเป็นเรื่องง่ายและสนุกขึ้น
ถามว่าน่าสนใจมั้ย ตอบเลยว่าน่าสนใจมาก! แต่ขอรอดูราคาจริงก่อนนะ ว่าจะมาอยู่ในระดับไหน แล้วจะได้ตัดสินใจกันอย่างถูกต้อง ติดตามกันต่อวันที่ 18 กันยายนนี้เลยครับ มาดูกันว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรอีก
สำหรับการรีวิวแบบจัดเต็มทั้งประสิทธิภาพ กล้อง เกม และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน รออ่านกันได้ในบทความต่อไปครับ!
