Apple เปิดตัว Apple Watch Ultra 3 ในที่สุด หลังจากเงียบงันมา 2 ปี พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม หน้าจอใหญ่ขึ้น เทคโนโลยีดาวเทียม และแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นกว่าที่เคย

การอัปเกรดครั้งสำคัญ

Apple Watch Ultra 3 ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Samsung Galaxy Watch Ultra ทั้งรุ่น 2024 และ 2025 รวมถึงผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก Garmin ที่มีจุดเด่นเรื่องอายุแบตเตอรี่

จุดขายหลักของ Apple Watch Ultra 3 ประกอบด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นพร้อมกรอบที่บางลงเพื่อการอ่านที่ชัดเจนขึ้นในทุกสภาวะ เทคโนโลยีหน้าจอ LTPO3 ที่มีอัตราการรีเฟรชเร็วขึ้นในโหมด always-on ฟังก์ชัน satellite messaging การเชื่อมต่อ 5G อายุแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น และการแจ้งเตือนความดันโลหิตสูง

Apple อ้างว่านี่คือ “หน้าจอที่ใหญ่ที่สุดของ Apple Watch ใดๆ” ร่วมกับอายุแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในไลน์อัพสมาร์ทวอทช์ของบริษัท

ประสิทธิภาพแบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ

ผู้ใช้สามารถใช้งาน Apple Watch Ultra 3 ได้นานถึง 42 ชั่วโมงระหว่างการชาร์จ หรือมากถึง 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดไฟ แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะยังห่างไกลจากมาตรฐานอุตสาหกรรมของ Garmin

ต้องพิจารณาหน้าจอ LTPO3 ประสิทธิภาพสูงที่ติดตั้งมา การรองรับ 5G ที่อัปเกรดจาก 4G LTE ในรุ่นก่อนหน้า และฟังก์ชัน Emergency SOS ที่ขับเคลื่อนด้วยดาวเทียม เมื่อไม่มีการเข้าถึง Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ ฟีเจอร์การสื่อสารดาวเทียมสองทิศทางของ Apple Watch Ultra 3 จะเริ่มทำงานเพื่อให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความหาครอบครัว เพื่อน และหน่วยบริการฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือเพียงแค่ถามเพื่อนว่า “เป็นยังไงบ้าง” จากสถานที่ห่างไกลที่สุดบนโลก

การแข่งขันในตลาด

Galaxy Watch Ultra เป็นชื่อแรกที่นึกถึงด้วยเหตุผลที่ชัดเจน แต่สมาร์ทวอทช์ทนทานของ Samsung ไม่สามารถเทียบได้กับเครื่องนี้ในหลายด้าน โดยเริ่มต้นจากการเชื่อมต่อดาวเทียม

ในขณะที่ Garmin Fenix 8 Pro สามารถทำ satellite messaging การแชร์ตำแหน่ง และแม้แต่การโทรด้วยเสียงได้ แต่ข้อจำกัดด้านเซลลูลาร์ที่ลึกซึ้งเกินไปทำให้อุปกรณ์นี้ไม่สามารถเล่นในลีกเดียวกันกับ Apple Watch Ultra 3 สำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่

นั่นคือทุกสิ่งก่อนที่จะพูดถึงฟีเจอร์การตรวจจับความดันโลหิตสูงที่ก้าวล้ำของ Apple ซึ่งมีอยู่ใน Watch Series 11 เพิ่มเติมจาก Watch Ultra 3 นี่เป็นสิ่งสำคัญอีกประการที่คู่แข่งไม่สามารถแข่งขันได้ โดยใช้ “การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด” เพื่อตรวจจับสัญญาณ “สม่ำเสมอ” ของความดันโลหิตสูงเรื้อรัง นี่เป็นภาวะทางการแพทย์ที่ร้ายแรงมากที่ส่งผลต่อผู้ใหญ่ประมาณ 1.3 พันล้าน (ใช่ คือ “พัน” ล้าน) คนทั่วโลก ทำให้เกิดอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต เทคโนโลยีนี้ยังไม่ได้รับการรับรองจาก FDA

ราคาและความพร้อมจำหน่าย

Apple Watch Ultra 3 มีราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับรุ่นก่อนหน้าที่แข็งแกร่งและมีฟีเจอร์ครบครันเทียบเท่า ราคานี้ต่ำกว่ารุ่นเริ่มต้นของ Garmin Fenix 8 Pro แต่สูงกว่าราคาแนะนำของ Galaxy Watch Ultra 2025 อยู่ 150 ดอลลาร์

วันที่ 19 กันยายนเป็นวันที่ผู้ใช้จะสามารถสวมใส่อุปกรณ์นี้ได้ อย่างน้อยหากรีบสั่งจองวันนี้ โดยมีให้เลือกสี “natural” หรือ black titanium พร้อมสายที่เข้าคู่หรือโดดเด่นจากคอลเลกชันที่รวมถึงดีไซน์ Trail Loop แบบใหม่ที่มีเส้นด้ายสะท้อนแสงตามขอบ นอกเพิ่มจากโทนสี Ocean Band และ Alpine Loop ใหม่ โดยสรุปแล้ว ผู้ใช้จะได้เห็นไลน์อัพที่หลากหลายกว่าที่เคย แม้ว่าตัวเคส titanium จะยังคงมีให้เลือกเพียงสองรสชาติ (ที่ทนทานเท่าเทียมกัน)

อ้างอิง | Phonearena.com