
Garmin ประกาศเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด fēnix 8 series ประกอบด้วย 3 รุ่น ที่มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอ MicroLED เป็นครั้งแรกของโลก และเทคโนโลยี inReach สำหรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม โดยรุ่น fēnix 8 — MicroLED เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยในราคา 66,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมนี้
ปฏิวัติหน้าจอด้วยเทคโนโลยี MicroLED
Garmin ได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการสมาร์ทวอทช์ด้วยการเปิดตัว fēnix 8 — MicroLED และ fēnix 8 Pro — MicroLED ซึ่งเป็นสมาร์ทวอทช์หน้าจอ MicroLED รุ่นแรกของโลก หน้าจอใหม่นี้ประกอบด้วย LED กว่า 400,000 ดวง ให้ความสว่างสูงถึง 4,500 nits ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในแสงแดดจ้า

เทคโนโลยี MicroLED นี้ยังมอบขอบเขตสีที่กว้างขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับหน้าจอแบบเดิม พร้อมด้วยมุมมองภาพกว้างพิเศษ (Ultra-wide Viewing Angle) และความเปรียบต่าง (Contrast) ที่เหนือกว่าถึง 6 เท่า นอกจากนี้ยังมีความทนทานของหน้าจอเพิ่มขึ้น 3 เท่า ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี inReach เชื่อมต่อได้ทุกที่
สำหรับ fēnix 8 Pro series ที่ประกอบด้วย fēnix 8 Pro และ fēnix 8 Pro — MicroLED ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี inReach ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทวอทช์ของ Garmin มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมและเซลลูลาร์ (Cellular)
ผู้ใช้งานสามารถรับส่งข้อความ แชร์ตำแหน่ง โทรศัพท์ ส่งข้อความเสียง และแชร์ LiveTrack ได้แม้ไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว ระบบยังรองรับการพยากรณ์อากาศแบบเรียลไทม์เมื่อเชื่อมต่อกับ LTE Network (เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายความเร็วสูง)
ระบบ SOS และศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
fēnix 8 Pro series เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของ Garmin ที่มาพร้อมฟังก์ชัน SOS ซึ่งได้รับการดูแลโดยศูนย์ประสานงานฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงของ Garmin (Garmin Response Center) โดยตรง

ศูนย์แห่งนี้ทำหน้าที่ประสานงานการกู้ภัย ติดต่อกับผู้ใช้งานและรายชื่อผู้ติดต่อฉุกเฉินที่ตั้งค่าไว้ รวมถึงติดต่อกับหน่วยค้นหาและหน่วยกู้ภัย ตลอดจนหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ ด้วยประสบการณ์การทำงานกว่า 20 ปี ปัจจุบันรองรับผู้ใช้งานกว่า 200 ภาษา และผ่านการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วกว่า 17,000 ครั้งในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
แบตเตอรี่อึดและฟีเจอร์ครบครัน
fēnix 8 Pro series สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 27 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์ ในขณะที่ fēnix 8 — MicroLED สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 10 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์
ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ครบครันสำหรับติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมถึงคะแนนความอึดหรือความอดทน (Endurance Score) คะแนนสมรรถภาพร่างกายในการวิ่งขึ้นเนิน (Hill Score) คำแนะนำการออกกำลังกายประจำวัน (Daily Suggested Workouts) แผนที่ TopoActive ที่โหลดไว้ล่วงหน้า และ ECG App สำหรับตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
นอกจากนี้ยังมีระบบชำระเงินไร้สัมผัส Garmin Pay และสำหรับผู้ใช้งานชาวไทยยังมีบริการ Garmin x Rabbit สำหรับการชำระเงินผ่าน Rabbit Card
เปิดจำหน่ายในไทยเฉพาะรุ่น MicroLED
คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการประจำ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การส่งมอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานเป็นสิ่งที่ การ์มิน ให้ความสำคัญและคำนึงถึงอยู่เสมอ fēnix 8 series ถือได้ว่าเป็นผลลัพธ์จากความพยายามของทีม การ์มิน ในการออกแบบและอัพเดทฟีเจอร์และฟังก์ชันมาอย่างครบครัน”

ในประเทศไทย Garmin Thailand จะวางจำหน่าย fēnix 8 — MicroLED เพียงรุ่นเดียวในซีรีย์นี้ ขนาดหน้าปัด 51 มิลลิเมตร ในราคา 66,990 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นไป ที่ Garmin Brand Store และเว็บไซต์ Garmin.com
คุณมิสซี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าในปีนี้ Garmin Thailand จะวางจำหน่าย fēnix 8 — MicroLED เพียงรุ่นเดียว แต่ การ์มิน จะยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่กำกับดูแลในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันเทคโนโลยี inReach และฟังก์ชัน SOS ให้ผู้ใช้งานชาวไทยสามารถใช้งานได้ในอนาคตอันใกล้”