
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ตโฟนดูเงียบเหงาไปหน่อย แต่เมื่อ vivo กลับมาเขย่าวงการด้วย vivo V60 รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมสโลแกน “เสิร์ฟช็อตโปรให้คนสวย” แล้ว เราก็รู้ทันทีว่าเรื่องกล้องคงต้องมาแรงแน่นอน
วันนี้หลังจากที่ได้มีโอกาสแกะกล่องและทดลองใช้งานจริงมาแล้ว มาดูกันว่าตัวนี้จะคุ้มค่าแค่ไหน และจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับคุณได้หรือไม่?

สิ่งแรกในกล่อง พรีเซนต์พิเศษที่คาดไม่ถึง
เมื่อเปิดกล่องของ vivo V60 ครั้งแรก สิ่งที่ทำให้ต้องตะลึงไปเลยคือการที่เครื่องนี้ไม่ได้มาเพียงแค่ตัวเดียวเฉยๆ แต่ยังมาพร้อมกับ Gift Box สุดพิเศษจากการร่วมมือกับ POP MART ในชื่อ ZSIGA Exclusive Collaboration Gift Set อีกด้วย

ภายในชุดพิเศษนี้จะมีกล่องสุ่ม ZSIGA Take it Slow, สายคล้องสมาร์ตโฟน, สติกเกอร์ต่างๆ, ของตกแต่งน่ารัก, กระเป๋าใส่สมาร์ตโฟน, เคสสมาร์ตโฟน และ Gift Card ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการซื้อสมาร์ตโฟนครั้งนี้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

ที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้นคือ กล่อง Gift Box นี้ยังสามารถประกอบเป็น Display Stand สำหรับตั้งโชว์ได้อีกด้วย ทำให้สามารถนำฟิกเกอร์ ZSIGA ที่ได้จากกล่องสุ่มมาจัดวางตกแต่งได้อย่างสวยงาม และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือยังสามารถใช้ฟีเจอรStage Style ถ่ายรูปกับฟิกเกอร์เหล่านี้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย (สำหรับใครที่สนใจสามารเข้าไปติดตามกิจกรรมแจกกล่องนี้กันได้ที่เพจ vivo)
ดีไซน์และความรู้สึกแรกหลังได้สัมผัสของจริง

เมื่อได้เห็นตัว vivo V60 ตัวจริงแล้ว สิ่งที่สะดุดตาทันทีคือการเลือกใช้สีใหม่ทั้งหมด 3 สีที่แต่ละสีต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเริ่มต้นด้วย Berry Purple (เบอร์รี่ เพอร์เพิล) ที่ผสมผสานความสดใสแบบวัยรุ่นเข้ากับความละมุนอย่างลงตัว, ตามด้วย Summer Blue (ซัมเมอร์ บลู) ที่นำสีฟ้าและชมพูอ่อนมาผสานกันได้อย่างสวยงาม และสุดท้ายคือ Mist Gray (มิสต์ เกรย์) ที่ถ่ายทอดความลึกซึ้งผ่านการไล่เฉดและชั้นเงาอย่างละเมียดละไม

ภายในกล่องเรียงเป็นระเบียบด้วยอุปกรณ์ครบครัน ภายในกล่องประกอบไปด้วยตัวเครื่อง, คู่มือการใช้งาน, สายชาร์จ, หัวชาร์จ, เข็มจิ้มซิม, เคส, ฟิล์มกันรอย (ติดมากับตัวเครื่อง) และใบรับประกัน

และในบทความนี้ทดสอบนี้เราได้จับด้วยกันทั้งหมด 2 สีคือ Berry Purple(เบอร์รี่ เพอร์เพิล) และ Summer Blue(ซัมเมอร์ บลู)

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประทับใจที่สุดเมื่อได้หยิบจับจริงๆ คือความบางโดยในแต่ละสีจะมีขนาดและน้ำหนักไม่เท่ากันนะครับ นั่นก็คือในสี Berry Purple และ Summer Blue มีขนาด 163.53 x 76.96 x 7.65 มม. และมีน้ำหนัก 200 กรัม ส่วนสี Mist Gray มาพร้อมขนาด 163.53 x 76.96 x 7.53 มม. และหนัก 192 กรัม ด้วยน้ำหนักที่เบาทำให้การจับถือใช้งานเป็นไปอย่างสบายมาก


หน้าจอแสดงผลและรายละเอียดดีไซน์รอบตัวเครื่อง
เมื่อพูดถึงหน้าจอของ vivo V60 แล้ว ต้องยอมรับว่าน่าประทับใจมาก ด้วยขนาด 6.77 นิ้ว และความละเอียด 2392 x 1080 พิกเซล ที่มาพร้อมความสว่างหน้าจอเฉพาะส่วนสูงถึง 5000nits ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้จะใช้งานในที่แสงแดดจัด ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการรีเฟรช 120Hz ยังช่วยให้การเลื่อนหน้าจอเป็นไปอย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมด้วยการรองรับสีถึง 1.07 พันล้านสี และ P3 Cinematic wide color gamut ที่ทำให้ได้เห็นสีสันที่สดใสและสมจริงเหมือนชีวิต

การออกแบบด้านหน้าของเครื่องโดดเด่นด้วยจอเจาะรูที่วางอยู่กลางหน้าจอเพื่อรองรับกล้องหน้าความละเอียด 50MP และที่สำคัญคือขอบจอด้านข้างที่บางที่สุดเพียง 1.86 มิลลิเมตร พร้อมด้วยดีไซน์ Quad Curved ที่โค้งทั้ง 4 มุม จึงทำให้ได้พื้นที่แสดงผลที่เต็มตาไปหมด สร้างความรู้สึกเหมือนกับว่าหน้าจอไร้ขอบอย่างแท้จริง
พลิกมาดูในส่วนของด้านหลังกันบ้าง เราจะพบกับส่วนของโมดูลกล้องที่จัดเรียงอย่างหรูหราและทันสมัย ส่วนด้านหลังของเครื่องนั้น จะเห็นโมดูลกล้องที่ได้รับการออกแบบเป็นรูปสี่เหลี่ยมขอบโค้งมนที่ดูทั้งหรูหราและทันสมัย

โดยภายในจะบรรจุกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งประกอบด้วยเลนส์ใหญ่ 2 ตัวและเลนส์เล็ก 1 ตัว พร้อมด้วย Aura Light แบบสองโทนที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และที่มุมซ้ายล่างจะมีโลโก้ vivo ที่ดูเรียบง่ายแต่ก็สง่างามไปในตัว รอบตัวเครื่องและการจัดวางปุ่มต่างๆ ที่ใช้งานสะดวก เมื่อมาดูรอบๆ ตัวเครื่องแล้ว จะพบว่าแต่ละด้านมีการจัดวางที่คิดมาอย่างดี

โดยด้านบนของเครื่องจะประกอบด้วยลำโพงสำหรับการโทร, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนที่ช่วยให้การสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น และ IR Blaster ที่สามารถใช้เป็นรีโมตคอนโทรลสำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้

ในขณะที่ด้านล่างจะเป็นตำแหน่งที่รวมพอร์ตการเชื่อมต่อหลักๆ เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟนหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จและถ่ายโอนข้อมูล และลำโพงที่ให้เสียงเซอร์ราวด์คุณภาพดี

สำหรับด้านขวาของตัวเครื่องนั้น ทางด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน

ส่วนด้านซ้ายจะถูกปล่อยให้เรียบเนียน ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ เพื่อให้ดีไซน์ดูสมดุลและเรียบร้อย

นอกจากนี้ยังใช้กระจก Diamond Shield Glass ที่มีความทนทานต่อการตกกระแทกเพิ่มขึ้นถึง 37% มั่นใจหายห่วง
กล้อง ZEISS ความละเอียด 50MP ถ่ายรูปสวยทุกสภาพแสง
หากจะต้องเลือกจุดเด่นหลักของ vivo V60 เพียงข้อเดียว นั่นก็คือระบบกล้อง ZEISS ที่มาครบครันและทันสมัยที่สุด เริ่มต้นด้วยกล้องหลัก 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56 นิ้ว มาพร้อมระบบกันสั่น OIS และรูรับแสงขนาด f/1.88 ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย

แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือกล้อง Super Periscope Telephoto 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ตัวเดียวกับสมาร์ตโฟนเรือธง vivo X200 FE ด้วยขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.95 นิ้ว พร้อมระบบกันสั่น OIS และรูรับแสงขนาดใหญ่พิเศษ f/2.65 สามารถรองรับออปติคอลซูม 3X และ Hyper Zoom ซูมไกลสุดถึง 100X ซึ่งนับเป็นครั้งแรกใน V Series ที่ได้มาพร้อมกล้องซูเปอร์เทเลโฟโต้ ZEISS 50 MP ที่ทรงพลังขนาดนี้
หน้าชัดหลังเบลอแบบโปรๆ ไปกับกล้องหน้า 50MP ZEISS Group Selfie Camera ก็มาพร้อมมุมมองกว้างถึง 92° และระบบออโต้โฟกัส, AI Facial Contouring และ AI Professional Portrait ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยและคมชัดทุกสภาพแสง

หากถามว่าในตลาดตอนนี้ใครคือเบอร์หนึ่งเรื่องกล้องหน้า บอกเลยว่าเรายกให้บ้านนี้เขาด้วยที่ vivo นั้นพัฒนาตัวเองต่อเนื่องดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า vivo V60 คือที่สุด


ฟีเจอร์การถ่ายภาพที่โดดเด่นจัดเต็มระดับเรือธง
Stage Style ถ่ายภาพคอนเสิร์ตได้คมชัดเหนือระดับ หากจะพูดถึงฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ vivo V60 แล้ว Stage Style ถือเป็นจุดแข็งหลักที่ทำให้เครื่องนี้แตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน


โดยฟีเจอร์นี้ใช้กล้องเทเลโฟโต้ผสานกับฟิลเตอร์ Stage Style เฉพาะตัว ช่วยให้สามารถถ่ายภาพในมินิคอนเสิร์ตได้คมชัด แสงสี และบรรยากาศที่สมจริงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเปิดใช้งานพร้อมถ่ายในระยะซูม 10x

แม้จะอยู่ในสภาพแสงที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ระบบยังสามารถปรับสีสันให้สดใสและสมจริงได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีบรรยากาศคอนเสิร์ตแบบเต็มตัว นอกจากคอนเสิร์ตแล้ว ฟีเจอร์นี้ยังเหมาะสำหรับถ่ายมิวสิกเฟสติวัล โรดโชว์ หรือแม้แต่งานแสดงในร่มต่างๆ

ZEISS Multifocal Portrait เลือกระยะซูมได้อย่างหลากหลาย นอกจากฟีเจอร์ Stage Style แล้ว ระบบ ZEISS Multifocal Portrait ก็เป็นอีกจุดแข็งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยการให้เลือกระยะซูมได้ถึง 5 ระยะ Landscape Portrait (23mm), Narrative Portrait (35mm), Classic Portrait (50mm), Portrait (85mm) และ Close-Up Portrait (100mm) แน่นอนว่าทุกภาพที่ได้มีมิติและเอกลักษณ์สไตล์ ZEISS แม้คุณจะไม่ใช่มืออาชีพก็ตาม







ซึ่งแต่ละระยะจะให้ความรู้สึกและบรรยากาศที่แตกต่างกัน พร้อมด้วยเอฟเฟกต์โบเก้และโทนสีสวยงามในสไตล์ ZEISS ที่ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดและเอกลักษณ์เฉพาะตัว







ต่อกันที่ AI พอร์ตเทรต 4 ฤดู อยากถ่ายฟีลไหน ฤดูไหน…ให้ AI ช่วยเลย ต่อมาคือฟีเจอร์ AI Four-Season Portrait ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ของ vivo อย่างเต็มตัว โดยฟีเจอร์นี้สามารถใส่ลูกเล่นเสมือนลงในภาพจริงเพื่อสร้างบรรยากาศตามฤดูกาลที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ

พูดเลย…ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่นร่าเริง ฤดูร้อนที่แจ่มใสอบอุ่น ฤดูใบไม้ร่วงที่โรแมนติกและอบอุ่น หรือฤดูหนาวที่เย็นสบายและเงียบสงบ ทั้งหมดนี้ทำได้อย่างเนียนตาและสมจริงจนแทบไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นการปรับแต่ง



Zsiga Exclusive Frames: กรอบพิเศษจากการคอลแลปอันเป็นเอกลักษณ์
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่และต้องการเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฟีเจอร์ Zsiga Exclusive Frames จะเป็นจุดขายที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยกรอบ Zsiga ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษและมีให้เลือกใช้ทั้งหมด 4 แบบที่แตกต่างกัน

ซึ่งถือเป็นการโชว์ฟีเจอร์พิเศษจากการคอลแลปกับ POP MART ที่ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะได้ใช้งาน




AI Aura Light แสงสวย ภาพปัง ด้วยเทคโนโลยีระดับสตูดิโอ หนึ่งในฟีเจอร์ที่ทำให้ vivo V60 แตกต่างจากคู่แข่งคือ AI Aura Light ที่ได้รับการพัฒนาให้ให้แสงที่กว้างและนุ่มนวลกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด




ผสานเข้ากับเทคโนโลยี AI 3D Studio Lighting ที่สามารถจำลองไฟสตูดิโอระดับมืออาชีพและสไตล์การจัดแสงแบบภาพยนตร์ได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้การถ่ายภาพพอร์ตเทรตในที่แสงน้อยหรือกลางคืนกลายเป็นเรื่องง่าย แต่ได้ผลลัพธ์ที่สวยโดดเด่นเหมือนมืออาชีพ

จากการทดลองใช้งานจริงในสถานการณ์แสงน้อย พบว่า Aura Light สามารถปรับแสงให้เหมาะสมกับสีผิวและบรรยากาศโดยรอบได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำให้ภาพดูแปลกตาหรือเกินจริง แต่กลับช่วยเสริมความสวยงามตามธรรมชาติ พร้อมทั้งสร้างมิติและเงาที่ลึกซึ้งเหมือนกับการถ่ายในสตูดิโอจริงๆ ทำให้ทุกการถ่ายเซลฟี่หรือถ่ายภาพคนใกล้ตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจทุกครั้ง
โหมดกล้องฟิล์ม ย้อนยุคด้วยสไตล์วินเทจ สุดท้ายนี้ ระบบยังมาพร้อมกับโหมดกล้องฟิล์มที่ให้ความรู้สึกคลาสสิกและวินเทจ ด้วยการเลือกโทนฟิล์มได้ 3 สไตล์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ฟีเจอร์กล้องฟิล์มที่เราว่าประกอบไปด้วย Classic Negative ที่ให้ความรู้สึกวินเทจและคลาสสิก, Positive Film ที่สีสันสดใสและมีชีวิตชีวา และ Clear Blue ที่ให้โทนสีเย็นสบายและสงบเยือกเย็น ทำให้ภาพที่ได้มี 3 อารมณ์ที่แตกต่างกันตามความต้องการ ช่วยให้การถ่ายภาพมีความหลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น



ตัวอย่างภาพจากในสภาวะแสงต่างๆ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง













ประสิทธิภาพและการใช้งาน
เมื่อพูดถึงประสิทธิภาพของ vivo V60 แล้ว ต้องยกให้กับการเลือกใช้ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมประสิทธิภาพ CPU ที่เร็วขึ้น 27% และ GPU ที่แรงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างแรงและลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันหรือการเล่นเกมหนักๆ

ที่น่าสนใจคือหน้าจอนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน SGS Certification ที่การันตีการปล่อยแสงสีฟ้าในระดับต่ำ จึงช่วยปกป้องและถนอมสายตาได้เป็นอย่างดี

ระบบเสียงก็ไม่ธรรมดา ด้วยลำโพงสเตอริโอคู่ที่ให้เสียงเซอร์ราวด์แบบ 3 มิติพร้อมพลังเสียงเบสที่แน่น ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง เป็นไปอย่างสมจริงและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เทคโนโลยี Extended RAM ยังช่วยขยายแรมได้สูงสุด 12GB + 12GB ทำให้สามารถเปิดใช้งานได้พร้อมกันมากกว่า 40 แอปพลิเคชัน โดยไม่มีปัญหาช้าหรือค้าง พร้อมกันนี้ ระบบระบายความร้อน VC Cooling System ขนาดใหญ่พิเศษที่มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิถึง 13 ตัว จะช่วยตรวจจับและลดความร้อนได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เครื่องเย็นลงได้สูงสุดถึง 12°C
ประสบการณ์ใหม่กับ Funtouch OS 15 และพลัง AI ที่โดดเด่น
ด้วย Funtouch OS 15 ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ AI ทันสมัย vivo V60 จึงไม่เพียงแค่เป็นสมาร์ตโฟนธรรมดา แต่ยังเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

Gemini Assistance: ผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจคุณ Gemini Assistance ถือเป็นจุดแข็งสำคัญของเครื่องนี้ ด้วยการเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะที่รวมขุมพลังการค้นหาของ Google เข้ากับเทคโนโลยี Machine Learning ที่ทันสมัย ทำให้เพียงแค่กดปุ่มด้านข้างค้างไว้ ก็สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถาม การจัดตารางเวลา หรือการค้นหาข้อมูลต่างๆ

AI Smart Call Assistant แปลภาษาระหว่างการโทรได้แบบเรียลไทม์ สำหรับคนที่ต้องติดต่อกับชาวต่างชาติเป็นประจำ AI Smart Call Assistant จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถแปลเสียงและแสดงข้อความแปลบนหน้าจอแบบเรียลไทม์ได้ โดยรองรับหลายภาษาสำคัญ เช่น อังกฤษ ไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ทำให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นไปได้อย่างง่ายดาย

AI Captions ถอดข้อความอัตโนมัติได้ทุกสถานการณ์ AI Captions เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้วยระบบถอดเสียงและแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นในที่ประชุม ระหว่างการดูวิดีโอ หรือแม้แต่การโทรออนไลน์ผ่าน Zoom, Teams, Google Meet และ WhatsApp ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เพียงเท่านั้น Block Spam Calls ยังช่วยระบุและบล็อกสายก่อกวนได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี AI

AI Image Studio เครื่องมือแต่งภาพระดับมืออาชีพ AI Image Studio รวมเครื่องมือแต่งภาพที่ทันสมัยไว้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น AI Magic Move ที่ช่วยย้ายวัตถุในภาพแค่ปลายนิ้ว ด้วย AI Magic Move ให้คุณลากอิสระ จัดองค์ประกอบภาพได้ดั่งใจ ไม่ต้องกลัวพลาดโมเมนต์สำคัญอีกต่อไป


AI Image Expander ที่ขยายภาพให้กว้างขึ้น


AI Reflection Erase ที่ลบแสงสะท้อน

ต่อกันที่ AI Erase 3.0 ที่ลบวัตถุไม่ต้องการ และ AI Photo Enhance ที่ปรับปรุงคุณภาพของภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้การแต่งภาพเป็นเรื่องง่ายและสนุกกว่าที่เคย

แบตเตอรี่อึด 6500mAh พร้อมชาร์จไว 90W ใช้งานได้ทั้งวัน
หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของ vivo V60 คงหนีไม่พ้นเรื่องแบตเตอรี่ BlueVolt Silicon Anode Gen 3 ขนาดใหญ่ถึง 6500mAh ที่สามารถบรรจุลงในตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 7.53 มิลลิเมตรได้อย่างน่าทึ่ง มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จไว 90W FlashCharge ที่ช่วยให้ชาร์จแบตเต็มได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือมีสุขภาพแบตที่คงทนยาวนานถึง 4 ปี

จากการทดสอบการใช้งานจริง พบว่าแบตเตอรี่ของเครื่องนี้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างยาวนานอย่างน่าประทับใจ แม้จะเปิดใช้งานหนักๆ เช่น เล่นเกม ถ่ายรูปวิดีโอต่อเนื่อง หรือดูสตรีมมิ่งตลอดทั้งวัน ก็ยังสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด และเมื่อแบตเตอรี่หมดจริงๆ ระบบชาร์จไว 90W ก็จะช่วยให้แบตเต็มกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน

และแน่นอนว่า vivo V60 ยังคงมาพร้อมกับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 และ IP69 พร้อมฟีเจอร์ไล่น้ำ Water Ejection ที่จะเล่นเสียงความดังสูงสุดเป็นเวลา 30 วินาที เพื่อช่วยไล่น้ำที่อาจเข้าไปติดในลำโพงออกมา

[เล่นแล้วเล่า] กับประสบการณ์การใช้งานจริงหลังได้ใช้งาน
หลังจากที่ได้ใช้งาน vivo V60 มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ต้องยอมรับว่าเครื่องนี้สร้างความประทับใจได้อย่างมาก โดยเฉพาะระบบกล้อง ZEISS ที่ครบครันและมีฟีเจอร์การถ่ายรูปที่หลากหลาย ซึ่ง Stage Style นั้นทำให้การถ่ายรูปในคอนเสิร์ตหรืองานแสดงต่างๆ กลายเป็นเรื่องง่ายและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามจริงๆ ส่วน ZEISS Multifocal Portrait ก็ให้ตัวเลือกระยะซูมที่หลากหลาย ทำให้การถ่ายภาพพอร์ตเทรตมีมิติและความน่าสนใจมากขึ้น

นอกจากนี้ ตัวเครื่องที่บางและเบาทำให้การจับถือใช้งานเป็นไปอย่างสบาย หน้าจอที่สวยสดใสและมีความคมชัดสูง ประกอบกับแบตเตอรี่ที่อึดทนเกินคาด และระบบ AI ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานประจำวัน ทั้งหมดนี้ทำให้เครื่องนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

ชุดพิเศษ Exclusive Box set คอลเลคชัน
หากสเปกและฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจยังไม่เพียงพอ vivo V60 ยังมาพร้อมความพิเศษที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ใช้หลายๆ คนได้อีก นั่นคือการคอลแลปอเรชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ POP MART ในชื่อ vivo V60 × POP MART ZSIGA ที่จะพาคุณไปสัมผัสความมหัศจรรย์ทุกครั้งที่ซูมถ่ายภาพ

พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่กับ Exclusive Box set ที่น่ารักเหนือคำบรรยาย ซึ่งนับว่าเป็นการได้ทั้งสมาร์ตโฟนที่ทันสมัยและของสะสมที่มีเสน่ห์ไปพร้อมกัน

สำหรับกล่อง vivo V60 x POP MART ZSIGA Exclusive Collaboration Gift Set ที่มีมูลค่าสูงถึง 9,999 บาท ทางบริษัทจะจัดให้มีการแจกเป็นของรางวัลในกิจกรรม Like & Share ระหว่างการถ่ายทอดสด Live งานเปิดตัว vivo V60 พร้อมด้วยกิจกรรมพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่สาวกตัวจริงไม่ควรพลาดเป็นอันขาด ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเพจอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน ลูกค้าที่เดินทางไปจองเครื่องที่หน้าร้านค้าต่างๆ ก็จะได้รับของพรีเมียมจาก POP MART Zsiga เช่นเดียวกัน โดยของที่จะได้รับนั้นประกอบด้วยเคสสมาร์ตโฟน, สติกเกอร์สุดน่ารัก, สายห้อยสมาร์ตโฟนลายพิเศษ, กระเป๋าใส่อุปกรณ์ และของพรีเมียมอื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นการเปิดจองของแต่ละร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าและความคุ้มค่าให้กับการซื้อสมาร์ตโฟนครั้งนี้ได้อย่างน่าสนใจมาก
ราคา และการจัดจำหน่าย

สำหรับเรื่องราคาของ vivo V60 ที่หลายคนรอคอย ทางบริษัทได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจำหน่ายใน 2 ความจุ ได้แก่ รุ่น 12GB + 256GB ในราคา 15,999 บาท และรุ่น 12GB + 512GB ในราคา 17,999 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่แข่งขันได้ดีในเซกเมนต์สมาร์ตโฟนระดับกลางถึงบน

โดยสามารถหาซื้อได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ ช่องทางออนไลน์ต่างๆ และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าช่วงเปิดตัว
พิเศษสำหรับผู้ที่ตัดสินใจสั่งซื้อภายในช่วงเวลาทองคำตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2568 จะได้รับของสมนาคุณมากมายที่คุ้มค่าเกินคาด โดยเริ่มต้นด้วย vivo Care ที่ให้การประกันตัวเครื่องครบครัน 2 ปีเต็ม และยังมาพร้อมประกันหน้าจอแตกฟรี 2 ปีแรก จำนวน 1 ครั้ง ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 8,999 บาท นอกจากนี้ยังได้รับ V60 Premium Gift ที่เป็นเคสสมาร์ตโฟนคุณภาพดีในมูลค่า 890 บาทอีกด้วย
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้า
ที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้นคือ สำหรับลูกค้าที่มีใจรักและตัดสินใจสั่งจองเครื่องไว้ล่วงหน้าก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเดินทางมารับเครื่องที่ร้านค้าที่ร่วมโปรโมชั่นภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 จะได้รับสิทธิพิเศษในการรับฟรี vivo V60 x POP MART Zsiga Gift Set ที่มีมูลค่าถึง 1,990 บาท ซึ่งเป็นชุดคอลเลคชั่นพิเศษที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในที่อื่น

สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นของการเปิดตัวครั้งนี้คือการที่มาพร้อมกับ ZSIGA Exclusive Collaboration Gift Set และโปรโมชั่นต่างๆ ที่เพิ่มมูลค่าและความพิเศษให้กับการซื้อสมาร์ตโฟนครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่คุ้มค่ามากกว่าเพียงแค่สมาร์ตโฟนเครื่องเดียว
เมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้ว vivo V60 เป็นสมาร์ตโฟนที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่รักการถ่ายภาพได้อย่างครอบคลุมและน่าประทับใจ ด้วยระบบกล้อง ZEISS ที่ครบครันและทันสมัย ฟีเจอร์การถ่ายภาพที่หลากหลายและใช้งานง่าย โดยเฉพาะ Stage Style ที่เป็นจุดเด่นเฉพาะตัวและแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน เมื่อรวมกับดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัย ประสิทธิภาพการทำงานที่แรงและลื่นไหล แบตเตอรี่ที่อึดทนและใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงฟีเจอร์ AI ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานประจำวัน

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ถ่ายรูปได้สวยและหลากหลาย ใช้งานได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด และมีฟีเจอร์ที่ครบครันตอบโจทย์ทุกการใช้งาน vivo V60 น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าการพิจารณาอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อราคาที่คาดว่าจะแข่งขันได้ดีในตลาด ประกอบกับการมาพร้อม Exclusive Collaboration Gift Set ที่เพิ่มความคุ้มค่า ทำให้การลงทุนครั้งนี้น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดหวังแน่นอน