Reviews-Previews Smartphone

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+ สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้ง บางที่สุดในโลก แบตทนทาน กล้องเซนเซอร์ Sony IMX882 

ถ้าใครเบื่อกับสมาร์ทโฟนที่ดูธรรมดาๆ และอยากได้อะไรที่ “ว้าว” กว่านี้ วันนี้เรามีของดีมาแนะนำ! Infinix HOT 60 Pro+ เครื่องนี้มาพร้อมสถิติที่ฟังแล้วต้องอึ้ง คือการเป็นสมาร์ทโฟนจอโค้งที่บางสุดแซ่บเพียง 5.95 มิลลิเมตร

แค่ได้ยินตัวเลขนี้ก็รู้แล้วว่าต้องมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ ซ่อนอยู่ข้างใน มาดูกันเลยว่าเขาทำยังไงถึงจะสร้างความมหัศจรรย์แบบนี้ได้

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

บอกเลยว่าสถิติที่ทำลายขีดจำกัดความคิดที่ว่าสมาร์ทโฟนที่บางขนาดนี้จะต้องเสียอะไรไปบ้าง แต่แล้ว Infinix ก็มาพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูงสามารถสร้างสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้จริงๆ

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

เรื่องราวเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการแกะกล่องที่ดูเรียบๆ แต่ภายในกลับซ่อนความน่าตื่นเต้นไว้เพียบ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน HOT 60 Pro+ มาพร้อมข้อเด่นที่ชัดเจนคือความบางที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาดูกันว่าเครื่องนี้มีอะไรพิเศษกว่าคู่แข่งบ้าง และจะตอบโจทย์การใช้งานของเราได้มากแค่ไหน

เปิดกล่องครั้งแรก! ของดีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน?

เมื่อเปิดกล่องสมาร์ทโฟน Infinix HOT 60 Pro+ ขึ้นมา สิ่งแรกที่เราจะเจอคือตัวเครื่องที่บรรจุอย่างดีภายในแผ่นป้องกันพิเศษ การออกแบบการบรรจุภัณฑ์แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียด

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

เมื่อยกของออกมาดู จะพบว่าไม่ได้มีแค่ตัวเครื่องอย่างเดียว แต่มาเป็นแพ็กเกจครบครันเลย มีหัวชาร์จ 45W ที่ตัวเล็กกะทัดรัดแต่พลังงานแรงจัด สายชาร์จ USB Type-C เกรดพรีเมียม และที่เจ๋งคือเคสซิลิโคนใสที่ออกแบบมาเฉพาะกิจ

Infinix HOT 60 Pro+ พร้อมอุปกรณ์ครบครัน

เคสตัวนี้ไม่ใช่เคสบ้าๆ บอๆ ที่ใส่แล้วทำให้เครื่องดูป้าๆ แต่เป็นเคสที่คิดค้นมาให้เข้ากับความบางสุดของเครื่อง ใส่แล้วไม่ทำให้หนาไปมาก แต่ยังคุ้มครองจากอันตรายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมเข็มเปิดซิมที่ดีไซน์สวยงาม และคู่มือการใช้งานที่อ่านเข้าใจง่าย แม้แต่กล่องยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิล

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์จิปาถะสำหรับเปิดถาดซิมที่มีดีไซน์ที่เข้ากับตัวเครื่อง และคู่มือการใช้งานฉบับย่อที่บอกขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานแบบง่ายๆ

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

สิ่งที่ประทับใจคือ Infinix ไม่ได้มองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แม้กระทั่งการออกแบบกล่องที่ใช้วัสดุรีไซเคิลและสีสันที่สอดคล้องกับตัวเครื่อง ทำให้รู้สึกได้ถึงความใส่ใจตั้งแต่การแกะกล่อง

ความบางที่ทำลายสถิติโลก พร้อมสัมผัสพรีเมียมที่ฉีกกฎเกณฑ์เดิม

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

ที่น่าทึ่งคือความบางแบบนี้เกิดจากเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูงที่ลดความหนาลงกว่า 12.5% และน้ำหนักเบาลง 4.3% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

การจับถือรู้สึกเบาสบาย ไม่หนักมือแม้จะใช้นานๆ ซึ่งต่างจากสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่จับไปจับมาแล้วมือเมื่อย วิศวกรรมของเขาคิดถึงการกระจายน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงมาอย่างดี ทำให้แม้จะมีแบตขนาดใหญ่แต่ก็ไม่รู้สึกว่าหนักด้านใดด้านหนึ่ง

Infinix HOT 60 Pro+ ทั้ง 6 สี

ส่วนตัวเลือกสีนั้นสมาร์ทโฟน Infinix HOT 60 Pro+ มาพร้อมกับหลากหลายถึง 6 สี ไม่ว่าจะเป็น Sleek Black, Titanium Silver, Coral Tides, Misty Violet, Sonic Yellow และ Moco Cyber Green โดยเฉพาะสี Coral Tides ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันของคลื่นน้ำทะเลสีฟ้าตัดกับหาดทรายสีชมพูบนเกาะโคโมโด ที่แต่ละสีล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

Infinix HOT 60 Pro+ มาพร้อมหน้าจอAMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ให้ความคมชัดที่น่าทึ่ง อัตราการรีเฟรชที่ 144Hz ทำให้ทุกการเลื่อนหน้าจอเป็นไปอย่างนุ่มนวล และที่แจ่มมากคือความสว่างสูงถึง 4,500 nits ซึ่งหมายความว่าแม้อยู่กลางแจ้งแสงแดดจัดก็ยังมองเห็นหน้าจอได้ชัดเจน

หน้าจอโค้ง 3 มิติได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning® Gorilla® Glass 7i 

แน่นอนว่าฟีเจอร์ Always-On Display ทำให้ดูเวลาและการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องปลุกเครื่อง และที่สำคัญคือได้รับการรับรอง SGS Low Blue Light ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาเมื่อจ้องหน้าจอนานๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับคนยุคนี้ที่ต้องจ้องหน้าจอทั้งวัน

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

ด้านบนของหน้าจอใช้การเจาะรูแบบ Punch hole และส่วนของกล้องหน้าความละเอียด 13MP พร้อมรูรับแสง f/2.0 และช่วงมุมมองกว้าง 90 องศา ขอบจอที่บางเฉียบทำให้สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 93.40% ดูเหมือนจะไม่มีขอบเลยทีเดียว การออกแบบขอบจอด้านล่างที่บางเพียง 0.88 มิลลิเมตรเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับราคานี้

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

ส่วนการจัดวางปุ่มและพอร์ตต่างๆ รอบตัวเครื่องนั้น ทำได้อย่างชาญฉลาดมาก ด้านบนเครื่องจัดเรียงลำโพง ไมโครโฟนและโลโก้ SOUND BY JBL ที่บ่งบอกถึงคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และมีสัญลักษณ์ SOUND BY JBL อยู่ตรงกลางที่บ่งบอกถึงคุณภาพเสียงที่ได้รับการปรับแต่งโดยผู้เชี่ยวชาญ

รายละเอียดการจัดวางปุ่มและพอร์ตรอบตัวเครื่อง พร้อมสัญลักษณ์ SOUND BY JBL

ด้านล่างของตัวเครื่องจัดวางอย่างสมมาตร ทางซ้ายสุดเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ถัดมาเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน พอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลางที่เสียบใช้งานสะดวก และทางขวาเป็นลำโพงเสียงที่ทำงานเป็นคู่กับลำโพงด้านบน ให้เสียงที่กว้างและมีมิติ

ด้านล่างของตัวเครื่อง

การจัดวางปุ่มต่างๆ ทำได้อย่างเหมาะสม ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ ทำให้ดูเรียบร้อย ส่วนด้านขวาตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงที่จับกดง่าย ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อคหน้าจอและเปิด-ปิด รีสตาร์ทเครื่อง ตำแหน่งที่จับได้สะดวก ไม่ต้องเขย่งนิ้วหรือเปลี่ยนท่าจับ

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง
ด้านขวาของตัวเครื่อง

ด้านหลังเครื่องตกแต่งด้วยลูกเล่นที่ดูหรูหรา ฝาครอบแบตเตอรี่ด้านหลังเสริมด้วยแผ่นป้องกันนาโนไฟเบอร์แบบบาง โดยเฉพาะโครงสร้างอะลูมิเนียมระดับอากาศยานที่มอบความแข็งแรงและทนทาน

ด้านหลังของตัวเครื่องสี Titanium Silver

โมดูลกล้องที่มีการจัดวางเป็นแนวตั้งดูเรียบร้อยและทันสมัย พร้อมกับความลับพิเศษคือไฟ Active Halo Lighting ที่ซ่อนตัวอยู่รอบๆ โมดูลกล้อง

โมดูลกล้องหลังนั้นถูกออกแบบให้ดูเหมือนมีกล้อง 3 ตัว

เจ๋งตรงที่ไฟนี้จะกะพริบเป็นสัญญาณบอกเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อมีคนโทรเข้า มีข้อความแจ้งเตือนใหม่ พลิกตัวเครื่อง เริ่มต้นเล่นเกม เสียบสายชาร์จ แบตเตอรี่ใกล้หมด หรือแม้แต่เมื่อเครื่องเริ่มบูต ทำให้ดูมีชีวิตชีวาและโดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมยังช่วยแจ้งเตือนได้แม้ตอนที่วางหน้าคว่ำ

ไฟ Active Halo Lighting
ไฟ Active Halo Lighting

จุดเด่นที่น่าประทับใจคือความทนทานของตัวเครื่องที่ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ทำให้ความทนทานต่อการโค้งงอดีกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 1.4 เท่า และผ่านการทดสอบการตกกระแทกรอบทิศทางที่ความสูง 1.5 เมตร ซึ่งหมายความว่าแม้จะบางมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเปราะบาง พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65 ที่เหนือกว่ารุ่นทั่วไป ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือละอองน้ำ

พลังแรงจัดหนัก! MediaTek Helio G200 ใหม่ล่าสุดเล่นเกมลื่นไหลไร้สะดุด

เรื่องของพลังประมวลผล Infinix HOT 60 Pro+ เป็นรุ่นบุกเบิกที่ได้ใช้ชิป MediaTek Helio G200 ใหม่ล่าสุด ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 6nm ที่ประหยัดพลังงานแต่ให้ประสิทธิภาพสูง ทำงานร่วมกับ GPU Mali-G57 MC2 และ RAM 8GB ที่ขยายเป็น 16GB ผ่านระบบ Extended RAM

ชิปเซ็ต Helio G200

การใช้งานจริงรู้สึกได้ชัดเจนว่าเครื่องตอบสนองรวดเร็ว ไม่ว่าจะเปิดแอปหลายตัวพร้อมกัน สลับไปมาระหว่างแอป หรือเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง ก็ไม่มีอาการสะดุดหรือค้าง ระบบจัดการหน่วยความจำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ชิปเซ็ต Helio G200 พร้อม XOS 15.1.1

ที่สำคัญคือระบบระบายความร้อนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยวัสดุ 11 ชั้นและกราไฟท์คริสตัลที่เพิ่มพื้นที่อีก 220 ตารางมิลลิเมตร ช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดีขึ้น 8% และลดความร้อนลงได้สูงสุด 5 องศา แม้ใช้งานหนักติดต่อกันนานๆ ก็ไม่ร้อนจนรบกวนการใช้งาน

หน่วยความจำ RAM

ระบบปฏิบัติการ XOS 15.1.1 ที่พัฒนาจาก Android 15 ใหม่ล่าสุด มาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยจัดการพลังงานและปรับแต่งประสิทธิภาพแต่ละแอปอัตโนมัติ ทำให้การใช้งานลื่นไหลและประหยัดแบตมากขึ้น ได้รับการรับรองจาก TÜV SÜD ว่าสามารถใช้งานได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องนาน 60 เดือน

ระบบปฏิบัติการ XOS 15.1.1 ที่พัฒนาจาก Android 15 ใหม่ล่าสุด
ระบบปฏิบัติการ XOS 15.1.1 ที่พัฒนาจาก Android 15 ใหม่ล่าสุด

การใช้งานจริงรู้สึกได้ชัดเจนว่าเครื่องตอบสนองรวดเร็ว ไม่ว่าจะเปิดแอปหลายตัวพร้อมกัน สลับไปมาระหว่างแอป หรือเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูง ก็ไม่มีอาการสะดุดหรือค้าง ระบบจัดการหน่วยความจำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ครบครันที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอที่ตอบสนองรวดเร็วและแม่นยำ การปลดล็อกใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ระบบ NFC สำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัสที่รองรับระบบต่างๆ ทั้ง PromptPay และบัตรเครดิต และการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 ที่เสถียรและประหยัดพลังงาน สามารถเชื่อมต่อหูฟังและลำโพงได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

หน้าจอรองรับอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz ทำให้การใช้งานทุกอย่างรู้สึกลื่นไหลเนียนตา ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนดูเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย การเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำสูง หรือการใช้งานทั่วไป ความแตกต่างจากหน้าจอ 60Hz ทั่วไปรู้สึกได้ชัดเจนมาก

นอกจากนี้ระบบการสัมผัสยังมี Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz และ Instant Touch Sampling Rate ถึง 2160Hz ที่ทำให้การสัมผัสตอบสนองได้ทันทีแบบไม่มีดีเลย์ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความแม่นยำสูง

จอ 1.5K 3D-Curved AMOLED

ระบบเสียงมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอที่ได้รับการรับรองจาก JBL รองรับเทคโนโลยี DTS และ Hi-Res Audio ทำให้เสียงเพลงและเสียงในเกมมีมิติที่สมจริงกว่าเดิม เสียงเบสลึก เสียงกลางชัด และเสียงแหลมไม่แสบหู การปรับแต่งเสียงทำได้ง่ายผ่านแอปตั้งค่า

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

หน้าจอยังมีฟีเจอร์ AI Eye Comfort ที่ปรับอุณหภูมิสีและความสว่างตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้ง Gaming Eye Comfort เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาระหว่างการเล่นเกมเป็นเวลานาน และ Sleep Aid Mode ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าในช่วงเวลากลางคืน เพื่อลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาในการใช้งานประจำวัน

ทดสอบประสิทธิภาพด้านการเล่นเกม

ฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจคือ Folax ผู้ช่วย AI อัจฉริยะจาก Infinix ที่เข้าถึงได้รวดเร็วผ่านปุ่ม AI ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ การใช้งานง่าย เพียงกดปุ่มเดียวก็สามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์ AI ต่างๆ ได้ทันที พร้อมฟีเจอร์ AI Vogue Portraits ที่ผสานภาพถ่ายของผู้ใช้งานเข้ากับเอฟเฟกต์ภาพแบบเคลื่อนไหว

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

แสดงผลบนหน้าจอได้ทั้งในขณะล็อกหน้าจอและหน้าจอแบบ Always-on รวมถึง AI Image Extender ที่ขยายขอบภาพให้กว้างขึ้น และเครื่องมือ AI Eraser ที่ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างชาญฉลาด

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

ฟีเจอร์เด็ดที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในสมาร์ทโฟนทั่วไป คือ UltraLink Free Call ที่สามารถโทรและส่งข้อความแบบสองทางผ่านบลูทูธได้ไกลสูงสุด 1.5 กิโลเมตร แม้ในพื้นที่กลางแจ้ง เหมาะสำหรับการเดินทาง งานภาคสนาม หรือกรณีฉุกเฉินที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เมื่อทดสอบใช้งานจริงแล้วใช้ได้ดีในระยะที่พอสมเหตุสมผล และยังมีฟีเจอร์ NFC Touch Transfer ที่ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาได้ทันทีด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

ถ่ายสวยทุกมุม Sony IMX882 พลิกโฉมการถ่ายภาพยุคใหม่

ในด้านการถ่ายภาพ สมาร์ทโฟน Infinix HOT 60 Pro+ ให้กล้องหลักความละเอียด 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ SONY IMX882 พร้อมค่าความกว้างของรูรับแสงที่ f/1.79 และช่วงมุมมอง 81 องศา รองรับระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะถ่ายในสภาพแสงจ้าหรือแสงน้อยก็ได้ภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดสูง ระบบกล้องทั้งหมดมี 3 ตัวที่จัดเรียงเป็นแนวตั้งอย่างสวยงาม พร้อมไฟแฟลช LED ที่ให้แสงเสริมได้ดี

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

กล้องหลัง 50MP เซนเซอร์ SONY ถ่ายกลางคืนสวย

จุดเด่นสำคัญของระบบกล้องคือเซนเซอร์ SONY IMX882 ที่มีความไวแสงสูง ทำให้สามารถจับภาพในสภาพแสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยม การถ่ายภาพกลางคืนให้ผลลัพธ์ที่คมชัดและมีรายละเอียดมากกว่าที่คาดหมาย แม้ในที่ที่มีแสงน้อยมากก็ยังสามารถได้ภาพที่สว่างและชัดเจน โดยไม่มี noise รบกวนมากจนเกินไป

ตัวอย่างภาพถ่ายกลางวันและกลางคืนจากกล้อง 50MP SONY IMX882

ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย

การประมวลผลภาพ AI RAW ล่าสุดของ Infinix ช่วยเพิ่มรายละเอียด ความถูกต้องของสีภาพ และการถ่ายภาพกลางคืน พร้อมโฟกัสอัตโนมัติแบบเต็มพิกเซลและการซูมแบบ 2 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด ทำให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดและสีสันสมจริงแม้ในสภาวะแสงที่ท้าทาย

กล้องหน้าให้ความละเอียด 13MP ด้วยค่ารูรับแสง f/2.0 และช่วงมุมมองกว้าง 90 องศา เหมาะสำหรับการเซลฟี่กลุ่มใหญ่หรือการถ่ายภาพกับฉากหลังที่สวยงาม พร้อมไฟแฟลชคู่ที่ช่วยในการถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อย ทำให้ได้ภาพหน้าใสไม่มืดแม้ถ่ายตอนเย็นหรือในร่ม

จอแบบ 1.5K 3D-Curved AMOLED

สำหรับการถ่ายวิดีโอ รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 2K ที่ 30FPS ทั้งกล้องหน้าและหลัง ให้ความละเอียดที่คมชัดกว่า Full HD ทั่วไป พร้อมโหมด Slow Motion 720P 120FPS ที่สามารถจับภาพเคลื่อนไหวช้าได้สวยงาม เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์หรือบันทึกช่วงเวลาพิเศษ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

โหมดการถ่ายภาพมีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง AI Cam ที่ช่วยปรับแต่งการตั้งค่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์อัตโนมัติ, Portrait สำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่เบลอหลังสวยงาม, Super Night สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย, Video Vlog สำหรับผู้สร้างคอนเทนต์, Slow Motion และ Time-Lapse รวมถึงโหมด AIGC Portrait ที่ใช้ AI ช่วยสร้างภาพถ่ายที่สวยงามยิ่งขึ้น ระบบกล้องนี้ครอบคลุมการใช้งานได้ทุกสถานการณ์

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดต่างๆ เช่น Portrait, Super Night, และ AI Cam

ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายนางแบบในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดถ่ายภาพบุคคล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดถ่ายภาพบุคคล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยฟีเจอร์
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยฟีเจอร์
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยฟีเจอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดถ่ายภาพบุคคล
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยฟีเจอร์

แบตเตอรี่ความจุสูง 5,160mAh + ชาร์จเร็ว ใช้ทั้งวันไม่ต้องห่วง

สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่รุ่นใหม่ขนาดใหญ่ถึง 5,160mAh ด้วยเทคโนโลยี Non-silicon doping (ไม่เจือสารซิลิคอน) ความหนาแน่นพลังงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 810 วัตต์-ชั่วโมง/ลิตร ทำให้สามารถใช้งานได้ตลอดวันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอ เล่นเกม ใช้โซเชียลมีเดีย หรือทำงานต่างๆ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางวัน

แบตเตอรี่ใหญ่ 5160mAh ชาร์จไว 45W

ที่น่าประทับใจคือแบตเตอรี่ยังคงประสิทธิภาพการใช้งานมากกว่า 80% หลังจากการชาร์จ 1,800 รอบ เพื่อการใช้งานที่เสถียรยาวนานหลายปี และมีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทั่วไป

ระบบการชาร์จรองรับการชาร์จไวสูงสุด 45W ที่สามารถชาร์จจาก 1% ถึง 50% ภายใน 23 นาทีในโหมด Hyper และชาร์จเต็มภายใน 55 นาที เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 12.7% นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ (Reverse Charging) สูงสุด 10W ที่สามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงก์ชาร์จอุปกรณ์อื่นได้ในยามจำเป็น

ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเมื่อใช้งานโซเชียลมีเดีย การสตรีมวิดีโอ และการเล่นเกม ด้วยการปรับความสว่างที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณ 50mAh ต่อชั่วโมง

ความประทับใจจากการใช้งานจริง

หลังจากได้ใช้งาน Infinix HOT 60 Pro+ มาระยะหนึ่ง รู้สึกประทับใจในดีไซน์ที่บางเฉียบและน้ำหนักเบา ทำให้การพกพาสะดวกสบายมาก แม้ใส่ในกระเป๋ากางเกงสกินนี่ก็ไม่รู้สึกหนักหรือหนา

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

การจับถือใช้งานเป็นเวลานานก็ไม่เมื่อยมือ หน้าจอ AMOLED ที่มีสีสันสดใสและความละเอียดสูงให้ประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเวลาดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปอย่างชัดเจน

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

ประสิทธิภาพการทำงานตอบสนองได้ดีเกินคาดหมายสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป เปิดแอปหลายๆ ตัวพร้อมกัน หรือการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกสูงก็สามารถรับมือได้ดี การสลับแอปทำได้อย่างรวดเร็วไม่มีสะดุด ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาดีทำให้เครื่องไม่ร้อนมากแม้ใช้งานหนักเป็นเวลานาน

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

กล้องถ่ายภาพได้คุณภาพดีเกินความคาดหวายในระดับราคานี้อย่างมาก โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อยที่ยังคงให้รายละเอียดที่ชัดเจนและสีสันที่สมจริง ฟีเจอร์ AI ช่วยปรับแต่งภาพให้สวยงามโดยอัตโนมัติ โหมด Portrait ทำการเบลอหลังได้ธรรมชาติ และโหมด Night ให้ภาพกลางคืนที่สว่างและคมชัดกว่าที่เห็นด้วยตาเปล่า

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

แบตเตอรี่อึดทนใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล แม้ใช้งานหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ยังเหลือแบตเตอรี่พอสมควร การชาร์จไวทำให้ไม่ต้องรอนาน ชาร์จระหว่างอาบน้ำหรือกินข้าวก็ได้แบตเพิ่มขึ้นมาก ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะช่วยให้ใช้แบตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดที่ประทับใจมากที่สุดคือการที่ Infinix สามารถนำเทคโนโลยีระดับเรือธงมาใส่ในสมาร์ทโฟนระดับราคาหลักพันได้ ทั้งความบางที่สุดในโลก หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ตใหม่ล่าสุด และฟีเจอร์ AI ต่างๆ ที่ใช้งานได้จริงไม่ใช่แค่กิมมิค โดยรวมแล้วเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าเงินในระดับราคานี้อย่างแน่นอน

คุ้มไหม? ราคา 6,499 บาท ได้อะไรบ้าง

สำหรับราคาของ Infinix HOT 60 Pro+ รุ่น 256GB + 8GB RAM (ขยายได้เป็น 16GB ผ่าน Extended RAM) จำหน่ายในราคา 6,499 บาท มีให้เลือก 5 สีสันสวยงาม ได้แก่ Titanium Silver (เงิน), Sleek Black (ดำ), Misty Violet (ม่วง), Sonic Yellow (เหลือง) และ Coral Tides (ชมพู)

หากต้องการทางเลือกที่ประหยัดกว่า ยังมี Infinix HOT 60 Pro ในราคา 5,499 บาท สำหรับรุ่น 256GB และ 4,999 บาท สำหรับรุ่น 128GB หรือ HOT 60i ในราคา 3,999 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนคุณภาพดีในงบประมาณที่จำกัด

สามารถสั่งซื้อได้ทางร้านค้าชั้นนำหรือทางออนไลน์ที่ Shopee Mall, LazMall และ TikTok Shop นอกจากนี้ยังมีการรับประกันอัปเดต Android สูงสุด 3 ปี และการอัปเดตความปลอดภัยนานถึง 5 ปี ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สำคัญในระดับราคานี้

วิเคราะห์ครบจบ! ซื้อหรือรอ? คำตอบสุดท้ายจากเรา

หลังได้ได้งาน Infinix HOT 60 Pro+ สักระยะเราพอสรุปได้ว่ามันดีนะ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

การเป็นสมาร์ทโฟนจอโค้งที่บางที่สุดในโลกด้วยความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร แต่ยังสามารถบรรจุหน้าจอ AMOLED 6.78 นิ้ว ชิป Helio G200 ใหม่ล่าสุด RAM 8GB และฟีเจอร์มากมาย เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าวิศวกรรมสมัยใหม่สามารถสร้างสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้จริง

สิ่งที่ทำให้ Infinix HOT 60 Pro+ โดดเด่นจากคู่แข่งคือความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่เทคโนโลยี Distributed Flat Architecture ที่ทำให้บางแต่แข็งแรง การใช้วัสดุอากาศยาน ระบบระบายความร้อนขั้นสูง ไปจนถึงการได้รับรองคุณภาพระยะยาวจาก TÜV SÜD

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

สำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีความสมดุลระหว่างราคาและคุณสมบัติ พร้อมความพิเศษที่หาได้ยากจากที่อื่น Infinix HOT 60 Pro+ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสำหรับคนที่หลงใหลในดีไซน์บางเฉียบและต้องการประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ในชีวิตประจำวัน

รีวิว Infinix HOT 60 Pro+

การได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนจอโค้งที่บางที่สุดในโลกก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่น่าค่าแก่การลงทุน ไม่ใช่แค่เครื่องใช้ แต่เป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะเทคโนโลยีที่คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที่

การได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนจอโค้งที่บางที่สุดในโลกก็เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่น่าค่าแก่การลงทุน ไม่ใช่แค่เครื่องใช้ แต่เป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะเทคโนโลยีที่คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที่

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
พรีวิวแกะกล่อง “realme 14 5G” แรงทะลุขีดจำกัดด้วย Snapdragon 6 Gen 4 ตัวแรกของโลกพร้อมดีไซน์ Mecha สุดเท่
รีวิว “Sonos Arc” ซาวด์บาร์พรีเมียมรุ่นใหม่ มาพร้อม Dolby Atmos และระบบเสียงเซอร์ราวด์เสมือนจริง พร้อมยกระดับประสบการณ์โฮมเธียเตอร์
รีวิว “BELKIN BOOST CHARGE Magnetic Wireless Car Charger 10W” เมื่อการชาร์จมือถือในรถไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

Leave Your Reply

*