แหล่งข่าวชี้ว่า Apple กำลังพิจารณาเปลี่ยนตำแหน่งโลโก้ที่ด้านหลัง iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max เนื่องจากการออกแบบระบบกล้องแบบใหม่ที่จะครอบคลุมด้านบนของเครื่องทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลต่ออุปกรณ์เสริม MagSafe ที่ใช้งานอยู่
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาจากรายงานของ Majin Bu นักวิเคราะห์ด้านผลิตภัณฑ์ Apple ที่มีชื่อเสียง ระบุว่าโลโก้แอปเปิลที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จะถูกย้ายลงมาอยู่ตำแหน่งที่ต่ำกว่าปัจจุบัน โดยจะอยู่ใต้แถบกล้องใหม่ที่คาดว่าจะยาวเต็มความกว้างของตัวเครื่อง
นี่จะเป็นการปรับเปลี่ยนตำแหน่งโลโก้ครั้งแรกนับตั้งแต่ Apple เปลี่ยนการออกแบบในครั้งสุดท้ายกับ iPhone 11 เมื่อปี 2019 ซึ่งขณะนั้น Apple ย้ายโลโก้มาอยู่ตรงกลางของตัวเครื่องและเอาคำว่า “iPhone” ที่เขียนไว้ด้านล่างออกไป
การปรับเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับการออกแบบระบบกล้องแบบใหม่ที่เรียกว่า Camera Bar ซึ่งจะทอดยาวไปตามด้านบนของตัวเครื่องทั้งหมด แทนที่จะเป็นโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมเหมือนในรุ่นปัจจุบัน การออกแบบใหม่นี้จะช่วยให้มีพื้นที่มากขึ้นสำหรับเซ็นเซอร์กล้องและระบบความร้อน รวมถึงทำให้ LiDAR Scanner และแฟลชสามารถย้ายไปด้านขวาของตัวเครื่องได้
Sonny Dickson นักข่าวด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ได้ยืนยันข้อมูลนี้ผ่านการแชร์ภาพร่างดิจิทัลที่แสดงให้เห็นตำแหน่งโลโก้ใหม่พร้อมกับการจัดเรียง MagSafe ที่ปรับเปลี่ยนไป โดยระบุว่า Apple กำลังปรับตำแหน่งโลโก้ให้อยู่ตำแหน่งเดียวกันกับขดลวด MagSafe ที่ใช้ในการชาร์จไร้สาย
ข้อมูลจากแหล่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเคสโทรศัพท์ระบุว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมหลายรายได้เริ่มปรับแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองแล้ว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งรวมถึงการออกแบบเคสใสที่มีช่องว่างในวงแหวน MagSafe เพื่อให้โลโก้ Apple สามารถมองเห็นได้ในตำแหน่งใหม่
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อความเข้ากันได้ของอุปกรณ์เสริม MagSafe ที่มีอยู่แล้ว เนื่องจากการเปลี่ยนตำแหน่งโลโก้และขดลวดแม่เหล็กอาจทำให้อุปกรณ์รุ่นเก่าไม่สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสม ผู้ผลิตเคสและอุปกรณ์เสริมจึงต้องเตรียมแบบใหม่เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone 17 Pro ได้อย่างสมบูรณ์
แม้ว่าการย้ายตำแหน่งโลโก้อาจดูเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่สำหรับ Apple แล้ว การออกแบบทุกรายละเอียดล้วนมีความสำคัญต่อการรับรู้แบรนด์และฟังก์ชันการใช้งาน การย้ายโลโก้ไปยังตำแหน่งใหม่จะช่วยให้โลโก้ยังคงมองเห็นได้ชัดเจนแม้ขณะใส่เคส และยังช่วยให้ความสมดุลในการออกแบบโดยรวมดีขึ้นเมื่อมีแถบกล้องขนาดใหญ่ที่ด้านบน
นอกจากการเปลี่ยนตำแหน่งโลโก้แล้ว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ยังคาดว่าจะมาพร้อมกับการปรับปรุงอื่นๆ เช่น ชิป A19 Pro ที่สร้างด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรรุ่นใหม่ กล้องเทเลโฟโต้ 48 เมกะพิกเซล และอาจใช้วัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและกระจกแทนไทเทเนียมทั้งหมดเพื่อเพิ่มความทนทานและลดต้นทุน
ระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรากฏใน iPhone 17 Pro เพื่อช่วยจัดการความร้อนที่เพิ่มขึ้นจากประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของชิปประมวลผลและการทำงานของกล้องที่ซับซ้อนมากขึ้น
ขนาดหน้าจอยังคงเหมือนเดิมที่ 6.3 นิ้วสำหรับ iPhone 17 Pro และ 6.9 นิ้วสำหรับ iPhone 17 Pro Max เนื่องจาก Apple เพิ่งปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นในรุ่น iPhone 16 Pro เมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลนี้ เนื่องจาก Majin Bu แม้จะเคยคาดการณ์ถูกต้องในหลายครั้ง เช่น ชื่อสี “Desert Titanium” ของ iPhone 16 Pro ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็เคยผิดพลาดบ้างในอดีต ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้จึงควรถือเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องรอการยืนยันจาก Apple อย่างเป็นทางการ
การเปิดตัว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2025 ตามรูปแบบที่ Apple เคยทำมา โดยจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 17 รุ่นธรรมดาและ iPhone 17 Air ที่จะมาทดแทน iPhone Plus ที่ยกเลิกไปแล้ว
