News

สะเทือนวงการ! เสียวหมี่ล้มยักษ์จีน ครองบัลลังก์สมาร์ทโฟนรอบ 10 ปี รายได้พุ่ง 111.3 พันล้าน

เสียวหมี่ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 โดดเด่นด้วยรายรับที่ทะลุ 111.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 47.4% และกำไรสุทธิที่ปรับแล้วพุ่ง 64.5% แตะ 10.7 พันล้านหยวน พร้อมครองตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

เสียวหมี่ คอร์เปอเรชัน (Xiaomi Corporation; Stock Code: 1810) บริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคและผู้ผลิตสมาร์ทฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เผยแพร่ผลการดำเนินงานไม่สอบทานสำหรับสามเดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกสายธุรกิจ

ผลประกอบการโดดเด่นเกินคาดการณ์

รายรับของ เสียวหมี่ ในไตรมาสแรกปี 2568 อยู่ที่ 111.3 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 47.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ทำให้บริษัทสามารถรักษารายรับเกิน 1 แสนล้านหยวนได้เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน

กำไรสุทธิที่ปรับแล้วทะยานขึ้น 64.5% จากปีก่อนหน้าแตะ 10.7 พันล้านหยวน เป็นครั้งแรกที่บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ปรับแล้วสูงกว่า 1 หมื่นล้านหยวน ผลประกอบการดังกล่าวเกินกว่าความคาดหมายของตลาดและสะท้อนถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การยกระดับสินค้าสู่กลุ่มพรีเมียม (premiumization) ในหลายหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์

สมาร์ทโฟนเสียวหมี่ครองอันดับ 1 ในจีนแผ่นดินใหญ่

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของไตรมาสนี้คือการกลับมาครองตำแหน่งอันดับ 1 ของตลาดสมาร์ทโฟนในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 18.8%

รายรับจากธุรกิจสมาร์ทโฟนของ เสียวหมี่ เติบโต 8.9% จากปีก่อนหน้าเป็น 50.6 พันล้านหยวน การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกอยู่ที่ 41.8 ล้านเครื่อง ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้าเป็นเวลา 7 ไตรมาสติดต่อกัน

ตามรายงานของ Canalys (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Omdia) เสียวหมี่ ยังคงรักษาตำแหน่งในอันดับหนึ่งในสามของแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วโลกได้เป็นไตรมาสที่ 19 ติดต่อกัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14.1%

ราคาขายเฉลี่ย (Average Selling Price: ASP) ของสมาร์ทโฟน เสียวหมี่ เพิ่มขึ้นเป็น 1,211 หยวนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยยอดขายของ Xiaomi 15 Ultra ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์เติบโตขึ้น 90% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกัน

ในตลาดพรีเมียม สมาร์ทโฟน เสียวหมี่ ที่มีราคาขายตั้งแต่ 3,000 หยวนขึ้นไปในจีนแผ่นดินใหญ่มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 25.0% เพิ่มขึ้น 3.3 จุดเปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ในขณะที่สมาร์ทโฟนราคาตั้งแต่ 4,000 หยวนขึ้นไปได้ส่วนแบ่งการตลาดที่ 9.6% เพิ่มขึ้น 2.9 จุดเปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า

ธุรกิจ IoT และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เติบโตก้าวกระโดด

กลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT และไลฟ์สไตล์ของ เสียวหมี่ แสดงการเติบโตที่น่าประทับใจ โดยรายรับพุ่งสูงขึ้น 58.7% จากปีก่อนหน้าเป็น 32.3 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น 5.4 จุดเปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้าเป็น 25.2% สร้างสถิติใหม่ทั้งในด้านรายรับและอัตรากำไรขั้นต้น

แม้ว่าจะอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลสำหรับการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดใหญ่ภายในบ้านของ เสียวหมี่ กลับเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยยอดการจัดส่งเครื่องปรับอากาศพุ่งเกิน 1.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 65.0% จากปีก่อนหน้า

ยอดการจัดส่งตู้เย็นพุ่งเกิน 880,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 65.0% จากปีก่อนหน้า และยอดการจัดส่งเครื่องซักผ้าพุ่งสูงเกิน 100% จากปีก่อนหน้าเป็น 740,000 เครื่อง ทั้งยอดการจัดส่งตู้เย็นและเครื่องซักผ้าพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ธุรกิจแท็บเล็ตของ เสียวหมี่ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากรายงานของ Canalys ระบุว่าการจัดส่งแท็บเล็ตทั่วโลกเติบโตขึ้น 56.1% จากปีก่อนหน้าและติดอันดับสามอันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรก การจัดส่งแบนด์สวมใส่ของ เสียวหมี่ เป็นอันดับ 1 ของโลกและอันดับ 2 ในจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่การจัดส่งหูฟัง TWS เป็นอันดับ 2 ของโลกและอันดับ 1 ในจีนแผ่นดินใหญ่

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อ (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป) บนแพลตฟอร์ม AIoT ของ เสียวหมี่ เพิ่มขึ้นเป็น 943.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 20.1% จากปีก่อนหน้า

บริการอินเทอร์เน็ตโตแกร่ง ผู้ใช้บริการขยายตัวต่อเนื่อง

กลุ่มบริการทางอินเทอร์เน็ตของ เสียวหมี่ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายรับที่เพิ่มขึ้น 12.8% จากปีก่อนหน้าเป็น 9.1 พันล้านหยวนในไตรมาส 1 ของปี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 2.7 จุดเปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้าเป็น 76.9%

ในเดือนมีนาคม 2568 จำนวนผู้ใช้บริการรายเดือน (Monthly Active Users: MAU) ทั่วโลกแตะ 718.8 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9.2% จากปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดผู้ใช้บริการรายเดือนในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 181.1 ล้านราย เพิ่มขึ้น 12.9% จากปีก่อนหน้า

ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะเติบโตมั่นคง

รายรับจากรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ, AI และโครงการริเริ่มใหม่อื่นๆ ของ เสียวหมี่ อยู่ที่ 18.6 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 การส่งมอบรถยนต์ Xiaomi SU7 Series ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมียอดการส่งมอบรถยนต์ 75,869 คันในไตรมาสนี้

เสียวหมี่ จะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการส่งมอบรถยนต์ 350,000 คันตลอดทั้งปี 2568 บริษัทยังคงขยายเครือข่ายการขายและบริการอย่างต่อเนื่อง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 เสียวหมี่ ได้เปิดศูนย์การขายรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะไปแล้วกว่า 235 แห่งใน 65 เมืองทั่วจีนแผ่นดินใหญ่

Xiaomi SU7 Ultra ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม โดยเข้าสู่กลุ่มรถยนต์ระดับพรีเมียมขั้นสูงด้วยราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 500,000 หยวน Xiaomi YU7 รถ SUV สุดหรูสมรรถนะสูงที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เตรียมขยายการรับรู้ของแบรนด์ เสียวหมี่ ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมมากขึ้น

ความสามารถในการส่งมอบของรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของ เสียวหมี่ มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการส่งมอบสะสมเกิน 258,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัว และมียอดการส่งมอบรายเดือนเกิน 20,000 คันเป็นเวลาหกเดือนติดต่อกัน ในเดือนเมษายน Xiaomi SU7 มียอดขายสูงสุดสำหรับรถยนต์อัจฉริยะไฟฟ้าทุกรุ่นที่มีราคาเกินกว่า 200,000 หยวน

การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาแบบก้าวกระโดด

เสียวหมี่ มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะลงทุนในเทคโนโลยีหลักพื้นฐานและตั้งใจที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในแวดวงเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ค่าใช้จ่ายด้านงานวิจัยและพัฒนาสูงถึง 6.7 พันล้านหยวนในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 เพิ่มขึ้น 30.1% จากปีก่อนหน้า

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 บุคลากรด้านงานวิจัยและพัฒนาของ เสียวหมี่ มีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 21,731 คน เสียวหมี่ ยังขยายขีดความสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญาและได้รับสิทธิบัตรมากกว่า 43,000 ฉบับทั่วโลก

บริษัทมีแผนที่จะลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาในอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นจำนวนที่สูงถึง 2 แสนล้านหยวนเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลักพื้นฐาน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เสียวหมี่ ได้เปิดตัว Xiaomi XRING O1 3nm SoC ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต นับเป็นการเปิดตัวครั้งสำคัญในการนำเทคโนโลยีพื้นฐานหลักของ เสียวหมี่ อย่าง “ชิป (Chip), AI และระบบปฏิบัติการ (OS)” ทั้งหมดมาใช้

เสียวหมี่ ยังคงยืนหยัดที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนวัตกรรมล้ำสมัยและระบบนิเวศทางเทคโนโลยีชั้นนำอย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีในระยะยาวอย่างต่อไป

เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK) ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลกและเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT (AI+IoT) ของโลก

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มข้อความและสติกเกอร์ลงในภาพถ่าย
สรุปข่าวลือ iPhone 17e ทั้งหมดที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 พร้อมชิป A19
เปิดตัว Xiaomi 13 Series “co-engineered with Leica” อย่างเป็นทางการแล้ว

Leave Your Reply

*