Xiaomi (เสียวหมี่) เปิดตัวและวางจำหน่าย Xiaomi Mi 8 Pro อย่างเป็นทางการในบ้านเราแล้ว โดย Xiaomi Mi 8 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนสเปกแรงตัวท็อปในตระกูล Mi ซีรีย์ และในครั้งนี้มันไม่ได้มาเพียงแค่รุ่นเดียวเพราะยังมีน้องเล็กอย่าง Xiaomi Mi 8 Lite มาเผยโฉมและให้เราได้จับจองเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน 

Xiaomi Mi 8 Pro

ต้องบอกว่าหลังจากแบรนด์ Xiaomi เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการก็ประสบความสำเร็จไม่น้อย ก่อนไปทดลองเล่นตัวจริง เรามาทำความรู้จักสเปกคร่าวๆ ของ Xiaomi Mi 8 Pro กันหน่อยดีกว่า ตอนรีวิวจะได้มองภาพออก

>>> Preview | พรีวิว “OPPO R17 Pro” สมาร์ทโฟนที่พร้อมแหกกฎของสีสัน

สเปกของ Xiaomi Mi 8 Pro

– ขนาดตัวเครื่อง : 154.9 × 74.8 × 7.6 มิลลิเมตร

– น้ำหนัก : 177 กรัม

– หน้าจอแสดงผล : Full Screen ขนาด 6.21 นิ้ว ความละเอียด 2248 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9

– หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 845 AIE Octa Core ความเร็ว 2.8 GHz

– RAM 8GB

– ROM 128GB (ในไทยจำหน่ายความจุเดียว)

– ระบบปฏิบัติการ : Android 8.1 (Oreo)

– กล้องหน้า : ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล

– กล้องหลังคู่ : ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8

– รองรับซิมแบบ : Nano ซิม 2 ช่อง

– การเชื่อมต่อ : USB Type-C, Bluetooth 5.0

– ระบบความปลอดภัย : รหัส, สแกนใบหน้า, ลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

– สี Transparent Titanium รุ่น RAM 8 + ROM 128GB

– แบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh

– รองรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 4.0+ ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C

– รันบนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 OREO ครอบทับด้วย MIUI 9.6

– ราคา 19,900 บาท

ก่อนอื่นก็ต้องส่องกันหน่อยว่าในกล่องมีอะไรมาให้บ้าง?

1. ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 8 Pro

2. เคสใสแบบนิ่ม (TPU)

3. อแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบ Quick Charge 3.0 (รุ่นจำหน่ายจริงหัวปลั๊กจะเป็นแบบ 2 ขา)

4. สายชาร์จแบบ USB-C

5. เข็มจิ้มซิม

6. คู่มือประกอบการใช้งาน

7. ตัวแปลง USB-C to 3.5 mm

ได้เวลาพูดถึงดีไซน์สุดเจ๋งของ Xiaomi Mi 8 Pro กันหน่อย

อย่างที่บอกไว้ว่า Xiaomi Mi 8 Pro ทำให้เราสะดุดตาด้วยดีไซน์ของฝาหลังโปร่งใสแสดงให้เห็นแผงวงจรด้านในโค้งมนทั้ง 4 ด้าน เนี้ยแหละมันไม่เหมือนใครโปร่งใสมาเลย 

Xiaomi Mi 8 Pro มาพร้อมขนาดที่เรียกว่าจับกระชับมือ ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 154.9 × 74.8 × 7.6 มิลลิเมตร น้ำหนัก 177 กรัม หน้าจอเป็นแบบ Full Screen หน้าจอ  Samsung AMOLED ขนาด 6.21 นิ้ว อัตราส่วนจอ 18.7:9 ความละเอียด FHD+

ด้านบนจะเป็นส่วนของรอยบากต่อมาจะเป็นพื้นที่ของตำแหน่งกล้องหน้าความละเอียดสูงสุดความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ต่อด้วยตำแหน่งของลำโพงสนทนาที่หากมองผ่านๆ จะไม่เห็นเลยและเซ็นเซอร์วัดแสง

ขอบด้านบนเป็นรูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนครับ

ขอบด้านล่างด้านล่างของเครื่องก็เป็นตำแหน่งของช่องลำโพงเสียง ตรงกลางเป็นพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type C และช่องช่องลำโพงเสียงอีกตัว

ด้านล่างของหน้าจอจะมีแถบสีดำเล็กน้อยถัดขึ้นไปเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมการทำงานจะอยู่บนหน้าจอ โดยจะมีปุ่มเมนู ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ และระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ Fingerprint เมื่อต้องการปลดล็อค

สำหรับในรุ่น Xiaomi Mi 8 Pro ได้มีการปรับส่วนของฟีเจอร์แสกนนิ้วมือ(pressure-sensitive in display fingerprint sensor ) มาไว้ใต้หน้าจอ ทำให้สามารถปลดลดหน้าจอเพียงนิ้วสัมผัส

ขอบด้านซ้ายเป็นตำแหน่งของช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด

ขอบด้านขวาเป็นตำแหน่งของปุ่มเพาเวอร์เปิด-ปิดเครื่องหรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ปรับระดับเสียง

ตัวเครื่องด้านหลังหลังของ Xiaomi Mi 8 Pro ดีไซน์ของฝาหลังโปร่งแสดงให้เห็นแผงวงจรชิ้นส่วนภายในตัวเครื่องที่ทาง Xiaomi ได้จำลองขึ้นมา ตรงนี้จัดว่าเด็ดไม่เหมือนใครจริงๆ

ด้านหลังส่วนบนเป็นตำแหน่งของกล้องซึ่งใน Xiaomi Mi 8 Pro กล้องหลังเลนส์ 2 ตัวจะถูกวางในแนวตั้งมุมบนด้านซ้าย แอบเหมือน iPhone อยู่นะ

มาดูส่วนของหน้าแอปพลิเคชันต่างๆ ที่อยู่บน Xiaomi Mi 8 Pro ที่อยู่บน Android 8.1 OREO ครอบทับด้วย MIUI 9.6 กันหน่อยครับ

   

หลังจากปลดล็อกเครื่องเข้าไปแล้วเรากจะเจอหน้าตาแบบนี้ครับ

   

มาทดลองเรื่องของประสิทธิภาพความแรงผ่านแอปพลิเคชั่นยอดนิยมอย่างแอป AnTuTu Benchmark กันหน่อยว่าคะแนนที่ออกมาจะดีแค่ไหน? ซึ่งผลทดสอบคะแนนก็ออกมาอยู่ที่ 289339 คะแนน  ถือว่าการใช้ Qualcomm Snapdragon 845  ประสิทธิภาพสมกับเป็นชิปตัวแรงของจริงๆ

   

PCMark เพื่อวัดประสิทธิภาพการเล่นเกมและระบบภาพ 3D บน Xiaomi Mi 8 Pro 

   

ต่อกันด้วยการทดสอบหน้าจอด้วย MultiTouch Tester ทดสอบระบบสัมผัสบนหน้าจอ เป็นการทดสอบระบบ Multi-touch บนหน้าจอสมาร์ทโฟนของคุณว่าสามารถทำงานแบบ Multitouch ได้ทั้งหมดกี่จุด สำหรับรีวิวนี้เราทดสอบทั้งหมด 10 จุดครับถือว่ามาครบเลย

   

สำหรับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย Xiaomi Mi 8 Pro ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยทั้งแบบระบบสแกนใบหน้าที่มีแบบ 2D และล้ำกว่าด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ

   

ส่วน Geekbench 4 ได้ทั้งแบบ Single Core 1774 คะแนน และ Multi Core ผลออกมาได้ 7831 คะแนน คือคะแนนที่ได้ถือว่าสูงอยู่ครับสำหรับมาตรฐานของสมาร์ทโฟนราคานี้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Xiaomi Mi 8 Pro 

Xiaomi Mi 8 Pro  มาพร้อมกล้องหลังคู่ในแนวตั้ง ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS และไฟแฟลช LED อยู่ระหว่างกล้อง ซึ่งกล้องถ่ายรูปมีโหมดต่างๆ ให้ใช้งานมากมาย อาทิ Portrait, HDR, AI Beautify และอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้ภาพถ่ายที่ได้จากกล้อง Xiaomi Mi 8 Pro  ทำออกมาได้ไม่เลวเลย

สำหรับภาพถ่ายที่ได้ ทีมง่านได้ใช้หมด Auto ในการถ่ายเป็นหลักเพราะคิดว่าคนปกติคงไม่ได้ใช้หมวดโปรในการถ่ายบ่อยนัก เลยทดลองถ่ายในโหมดปกติให้เห็นภาพชัดๆ กันไปเลยดีกว่าว่าหากภาพที่ออกมาจะดีแค่ไหน?

กล้องด้านหลังคู่มีรายละเอียดดังนี้

  • 12 MP, f/1.8, 1/2.55″, 1.4µm, 4-axis OIS, dual pixel PDAF
  • 12 MP, f/2.4, 1/3.4″, 1.0µm, AF, 2x optical zoom

ตัวอย่างภาพถ่ายแสงปกติช่วงกลางวัน  

ตัวอย่างภาพถ่ายขณะแสงน้อย Xiaomi Mi 8 Pro ก็ทำออกมาได้ดีเลยละ

ส่วนเรื่องหากนำไปใช้เล่นเกมส์ก็จากที่ได้ทดลองเล่นเกมฮิตที่หลายๆ คนมักนิยมโหลดลงเครื่องอย่าง ROV มานิดหน่อยถือว่าทำได้ดี

สรุปความรู้สึกของผู้เขียนหลังได้ทดลองเล่น Xiaomi Mi 8 Pro  ในช่วงเวลา 1 เดือน

เรื่องแรกที่ประทับใจคงหนีไม่พ้นเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่องรวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ทำฝาหลังออกมาได้สวยงามและน่าใช้งานมากๆ  ตัวเครื่องค่อนข้างรอบรับกับมือได้เป็นอย่างดี และช่วงใช้งานรู้สึกได้ถึงความเบาของตัวเครื่องที่รู้สึกได้ว่า Xiaomi Mi 8 Pro มันเบามากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ

ส่วนของฟีเจอร์แสกนนิ้วมือ (pressure-sensitive in display fingerprint sensor ) ก็สามารถทำงานได้แม่นยำถือว่าไม่ทำให้หงุดใจเวลาต้องใช้งานในช่วงเวลาเร่งรีบครับ

อัลบั้มภาพ Xiaomi Mi 8 Pro

 

 

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
Hands On l “HUAWEI Mate 30 Pro” สมาร์ทโฟนเรือธงจัดเต็มกับกล้อง Leica 4 ตัว
ลองเล่น “Samsung Galaxy A9(2018)” พร้อมนวัตกรรมกล้องหลัง 4 ตัว
ลองใส่ “Garmin Instinct” นาฬิกาออกกำลังกายที่ใครๆก็ใส่ได้

Leave Your Reply

*