ตามข้อมูลการวิจัยที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ในการประชุม Heart Rhythm Society นักวิจัยที่ Mayo Clinic ได้สร้างอัลกอริธึมปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถใช้ ECG แบบ single-lead ที่ถ่ายโดย Apple Watch เพื่อค้นหาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นต่ำ

ปั๊มหัวใจที่อ่อนแอหรือความผิดปกติของหัวใจห้องล่างซ้ายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนสองถึงสามเปอร์เซ็นต์ทั่วโลกและมากถึงเก้าเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี เช่นเดียวกับภาวะหัวใจห้องบน ปัญหาหัวใจอื่นที่ Apple Watch สามารถตรวจพบได้ ปั๊มหัวใจที่อ่อนแอจะไม่มีอาการ นอกจากนี้ยังอาจมาพร้อมกับอาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือหายใจถี่

Paul Friedman หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์โรคหัวใจและหลอดเลือดที่ Mayo Clinic ในเมืองโรเชสเตอร์ รัฐมินนิโซตา กล่าวว่า “น่าทึ่งอย่างยิ่ง” ที่ AI สามารถใช้นาฬิกา ECG ของผู้บริโภคเพื่อตรวจหาอาการได้ เนื่องจากปกติแล้วเป็นสิ่งที่ต้องใช้ echocardiogram, CT scan หรือ MRI เพื่อระบุ

ฟีเจอร์ ECG บน Apple Watch เป็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบ single-lead และกำหนดให้ผู้ใช้วางนิ้วบนเม็ดมะยมดิจิทัลของ Apple Watch เป็นเวลา 30 วินาที ผลลัพธ์จะถูกอัปโหลดไปยังแอพ Apple Health และสามารถแชร์กับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้ ECG ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจจับภาวะหัวใจห้องบน แต่ฟังก์ชัน ECG และคุณสมบัติอื่นๆ ของ Apple Watch ก็กำลังได้รับการศึกษาในการตรวจหาสภาวะอื่นๆ ด้วย

ECG มาตรฐานใช้สายอิเล็กโทรด 12 เส้นที่วางอยู่บนหน้าอก แขน และขาของบุคคลเพื่อตรวจสอบสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจ ในการใช้ผลลัพธ์ ECG แบบ single-lead จาก Apple Watch นักวิจัยได้ปรับเปลี่ยนอัลกอริธึม 12-lead ที่มีอยู่ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าสามารถตรวจจับกล้ามเนื้อหัวใจที่อ่อนแอได้

การศึกษารวม 125,610 ECGs ที่เก็บรวบรวมในช่วงหกเดือนจาก 46 รัฐและ 11 ประเทศ แต่ละคนส่ง ECG จำนวนมาก และมีการใช้การอ่านที่สะอาดที่สุดสำหรับอัลกอริธึม ผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนได้ทำการทดสอบทางคลินิกเพื่อวัดความแรงของปั๊ม และข้อมูลนั้นถูกใช้เพื่อระบุว่า Apple Watch สามารถตรวจพบปัญหาได้หรือไม่

นักวิจัยวางแผนที่จะเปิดตัวการศึกษาในอนาคตทั่วโลกเพื่อทำการทดสอบเพิ่มเติมในกลุ่มประชากรที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของคุณสมบัติ ECG แบบสายเดี่ยวใน Apple Watch

ที่มา- www.macrumors.com