Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก จัดงานประชุมนักพัฒนา 2020 Vivo Developer Conference ณ ศูนย์การประชุม Shenzhen World Exhibition & Convention Center

พร้อมเปิดตัว OriginOS ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่สำหรับสมาร์ตโฟน พร้อมเผยถึงกลยุทธ์ที่นำมาใช้ทั้งในผลิตภัณฑ์บริการ รวมทั้งอีโคซิสเต็มและการเป็นผู้นำในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและโลกดิจิทัล

ภายในงานประชุม ชือ ยูเจียน รองประธานกรรมการอาวุโสของ Vivo กล่าวว่า “Vivo ได้ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มของบริษัท มุ่งเน้นไปยังจุดเริ่มต้นที่ผู้ใช้งานหลักต้องการ เพื่อยึดเป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการดำเนินงานในอนาคต

นอกจากนี้ยังได้เผยถึงสามแนวทางหลัก อันได้แก่ การวางผลิตภัณฑ์และบริการที่ดึงดูดใจโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง การร่วมมือกันในอีโคซิสเต็มของนักพัฒนาเพื่อประโยชน์ร่วมกัน และความเป็นที่สุดแห่งการเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและโลกดิจิทัล”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Vivo ได้มอบประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคทุกระดับด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งสมาร์ตโฟนหลายรุ่น นาฬิกาอัจฉริยะและหูฟังไร้สาย ซึ่ง Vivo ได้มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคตลอดมา

อีกทั้งยังได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ทีวี คอมพิวเตอร์พีซี และแบรนด์รถยนต์ต่างๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอที่หลากหลายแก่ผู้บริโภค และในอนาคต Vivo จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแว่นตา AR พร้อมทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกประสบการณ์และความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

Vivo ร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลายในการพัฒนาและส่งมอบประสบการณ์การใช้งานแก่ผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้มีการหลอมรวมเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน และยังได้สร้างสรรค์ระบบนิเวศน์ (ecological system) ทั้งบนแอปพลิเคชัน เนื้อหาและบริการอื่น ๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการยังได้นำเอาวิธีการวัดผลแบบเชิงลึกเข้ามาเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจแก่นักพัฒนา สนับสนุนแพลตฟอร์มความสามารถทางเทคนิค และการสร้างระบบนิเวศน์ IoT (IoT ecosystem) เพื่อเชื่อมต่อผู้บริโภคและโลกดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน

ภายในงานประชุม ครั้งนี้ Vivo ยังได้เปิดตัว OriginOS ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในเวอร์ชันใหม่ที่มอบประสบการณ์ฟีเจอร์แบบดั้งเดิม ผสมผสานเข้ากับตัวเลือก ที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้อธิบายถึงกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่โดนใจผู้บริโภคอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของ OriginOS มาจากความต้องการของผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ตโฟน โดยยึดสามแนวคิดเป็นหลัก ได้แก่ การออกแบบ ความลื่นไหล และความสะดวกสบาย โดยทุกวันนี้สมาร์ตโฟนได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานมากขึ้น

ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย เช่น ข้อมูลที่มีมากจนเกินไป และความบันเทิงต่างๆ ที่มีมากมาย ชี้ให้เห็นว่าระบบปฏิบัติการบนสมาร์ตโฟนจะต้องตอบโจทย์ผู้ใช้งานแบบอยู่หมัด มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า และช่วยให้ผู้ใช้งานแสดงความเป็นตัวตนออกมาได้ชัดเจนที่สุด OriginOS จึงได้ปรับฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานคุ้นเคย ด้วยการเพิ่มดีไซน์ใหม่ให้ดูน่าใช้งานมากขึ้น และสร้างประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟนที่เหนือระดับ

vivo_originos_desktop_3
หน้าจอแสดงผลของระบบปฏิบัติการ Vivo OriginOS

นอกจากนี้ภายในงานยังได้โชว์ความลื่นไหลของระบบปฏิบัติการ OriginOS ซึ่งรวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานกระบวนการที่ซับซ้อนบนอุปกรณ์ของ Vivo ได้อย่างง่ายดาย และตอบโจทย์ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน OriginOS มาพร้อมกับระบบการจัดการข้อมูลบนหน้าจอสุดล้ำที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับการบริการที่ทั้งสะดวกสบายและชัดเจน ตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละวัน

และด้วยโครงสร้างที่เรียบง่ายบนสมาร์ตโฟนนี้เอง เหล่านักพัฒนาที่เป็นพันธมิตรของ Vivo จึงสามารถสร้างสรรค์และพัฒนารูปแบบต้นฉบับ เพื่อให้เกิดการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและสามารถแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

โดยภายในงานนี้ Vivo ยังได้ส่งมอบกลยุทธ์บริการบนแอปพลิเคชันและการอัปเดตล่าสุด รวมถึงเกมส์มือถือ พันธมิตรทางธุรกิจ การพัฒนาเทคโนโลยีแบบเปิดกว้าง และระบบนิเวศน์ IoT อีกด้วย

SHARE
คนเล่าเรื่องไอที ที่เชื่อว่าการได้เดินทางและการพบปะพูดคุยกับผู้คนในสายงานต่าง ที่ไม่คุ้นเคยคือกำไรชีวิต...หลงไหลในการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ ตม.
RELATED POSTS
“Huawei Mate 20” และ “Mate 20 Pro” เตรียมเปิดตัวที่ลอนดอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 ต.ค.
หลุดข้อมูล Geekbench ของ “Xiaomi 12 รุ่น Global มาพร้อมกับ RAM 8GB
เปิดตัว “Nokia 110” ฟีเจอร์โฟนราคาถูกแค่ 600 บาท เท่านั้น

Leave Your Reply

*